Skip to main content
sharethis

มหาวิทยาลัยขอนแก่นไฟเขียวนักศึกษาแต่งกายตามเพศสภาพที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิด หรือชุดสุภาพได้ ‘ส.ส.ก้าวไกล’ ยินดี ธนาคาร ธอส.เริ่มปล่อยกู้ LGBTQ+ หวังอนาคตมีกฎหมายรองรับสิทธิเท่าเทียม ส่วน 'เพื่อไทย' เปิดตัวคลิป ‘เพื่อ LGBTQ+ ไทย’ รวมตัวแทน ส.ส. ต่างเจเนอเรชั่น 

 

29 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'สภานักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น l Khon Kaen University Student Council' เผยแพร่ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉบับที่ 1620/2565
เรื่อง การแต่งกายของนักศึกษา อนุญาตให้นักศึกษาตามเพศสภาพ หรือเพศสภาวะที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิด สามารถแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักศึกษา หรือชุดสุภาพตามเพศสภาพหรือเพศสภาวะนั้นได้ 

อย่างไรก็ตาม สภานักศึกษาฯ ระบุด้วยว่า ประกาศฉบับดังกล่าวยังมีเนื้อหาที่จำต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมอย่างแท้จริง 

ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีรายละเอียดดังนี้

‘ส.ส.ก้าวไกล’ ยินดี ธนาคาร ธอส.เริ่มปล่อยกู้ LGBTQ+ หวังอนาคตมีกฎหมายรองรับสิทธิเท่าเทียม

ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชน ด้วยว่า ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธนาคาร ธอส.)ออกมาตรการปลดล็อก ให้ลูกค้ากลุ่ม LGBTQ+ กู้ร่วมได้ โดยเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่หน่วยงานต่างๆ เริ่มเข้าใจและเห็นความสำคัญของสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้มีความหลากหลาย แต่นี่เป็นเพียงความเข้าใจของบางหน่วยงานเท่านั้น ยังไม่มีกฎหมายออกมารองรับ ซึ่งในความเป็นจริงสิทธิการกู้ร่วมของ LGBT ควรมีทุกสถาบันการเงิน 

“ขอขอบคุณสถาบันการเงิน และ ภาคเอกชนที่วันนี้เข้าใจความหลากหลาย และหวังว่าเสียงเหล่านี้จะสะท้อนถึงผู้มีอำนาจ ว่าความเท่าเทียมคือสิทธิขั้นพื้นฐานสำคัญของประเทศที่พัฒนาแล้ว” ธัญวัจน์ กล่าว

นอกจากนี้ ธัญวัจน์ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการทำงานในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม และร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต ว่า จากที่สภาได้รับหลักการร่างกฎหมายไปในวาระที่ 1 นั้น ก็ควรมีร่างกฎหมายออกมา 2 ฉบับ คือ สมรสเท่าเทียม และ คู่ชีวิต 

“สภาสามารถผ่านกฎหมายทั้งสองฉบับออกมาใช้ได้ เพราะทั้งสองฉบับไม่ใช่กฎหมายที่ขัดกัน และหากเราทำงานร่วมมือร่วมใจในคณะกรรมาธิการได้ ก็เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะมีข่าวดีให้กับประชาชน” ธัญวัจน์ กล่าวทิ้งท้าย

'เพื่อไทย' เปิดตัวคลิป ‘เพื่อ LGBTQ+ ไทย’ รวมตัวแทน ส.ส. ต่างเจเนอเรชั่น 

ขณะที่ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยเผยแพร่คลิป ‘เพื่อ LGBTQ+ ไทย’ เนื่องในโอกาสที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม พรรคเพื่อไทยได้สัมภาษณ์ตัวแทน ส.ส.จาก ‘4 จังหวัด 3 Generation’ เกี่ยวกับประเด็นสมรสเท่าเทียม เพื่อให้เห็นมุมมองที่หลากหลายของผู้แทนราษฎรจังหวัด ร้อยเอ็ด-ขอนแก่น-สกลนคร และกรุงเทพมหานคร

จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ตัวแทนจาก Generation Y สะท้อนปัญหาของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ผ่านประสบการณ์ของเพื่อนซึ่งเป็นกลุ่มคนหลากหลายทางเพศแล้วทำงานอยู่ในระบบราชการทำให้พบอุปสรรคในชีวิตคู่ เช่น ปกติแล้วเวลาไปประจำการในต่างประเทศ จะมีสวัสดิการให้กับคู่สมรส แต่พอเป็นเพศเดียวกันกลับไม่สามารถรับสวัสดิการเหล่านั้นได้ เพราะไม่เข้าเงื่อนไขระเบียบและข้อกำหนดต่างๆ ของราชการ ฉะนั้นหากสามารถแก้กฎหมายที่ทำให้เขาทั้งสองคนสามารถจะใช้ชีวิตได้ปกติก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี

จิราพร อธิบาย การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่.. ) พ.ศ..... หรือสมรสเท่าเทียม ซึ่งแก้ไขจากคำว่า ‘ชายสมรสหญิง’ ให้เป็น ‘บุคคล’ เพื่อครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม ก็มีสิทธิที่จะสมรสกันและได้รับสิทธิสวัสดิการอื่นๆ เท่ากันกับที่เพศอื่นๆ ได้รับตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ นับเป็นการสร้างพื้นที่ให้คนทุกเพศทุกวัย เป็นคนไทยด้วยกันอย่างเท่าเทียม

มุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร และ หนึ่งใน กมธ. พิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม-คู่ชีวิต  แสดงความเห็นจากมุมมองของ Generation Baby Boomer ว่า คนในรุ่นเธอนั้นเข้าใจว่าความหลากหลายทางเพศนั้นมีมานานและเป็นเรื่องปกติ แต่ในอดีตนั้นการระบุความหลากหลายทางเพศยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่รู้จักเพศที่หลากหลายในนาม ‘กะเทย’ อย่างไรก็ตาม มุกดาให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่แต่ละคนเป็นคนเลือกเอง

นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร แสดงความเห็นจากมุมมอง Generation Baby Boomer ด้วยว่า ความหลากหลายทางเพศนั้นมีมานานและถูกระบุในศาสนาพุทธตั้งแต่ 2,000 ปีก่อน แปลว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สังคมอาจจะไม่ยอมรับความหลากหลายนั้น สิ่งที่พบในพื้นที่ของตัวเอง เช่น ข้อกฎหมายเกี่ยวกับ ‘ทรัพย์สิน’ ของคู่รัก ที่เป็นผู้หญิงกับผู้หญิง ซึ่งอยู่กินและทำมาหากินด้วยกันมานาน 10-20 ปี แต่เมื่อคนหนึ่งเสียชีวิต ญาติก็จะมาเอาที่ดินคืน จนถึงขั้นฟ้องร้องกัน สะท้อนว่าถึงแม้พวกเขาจะอยู่ด้วยกันมาหลายสิบปี แต่ก็ ‘ไม่ได้รับสิทธิ’ เพราะไม่ได้จัดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย

นิยม มองว่า หากกฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้ออกมา ก็จะเป็นประโยชน์ต่อคู่สมรสทุกกลุ่มและทุกคน ซึ่งสกลนครเองมีผู้มีความหลากหลายทางเพศมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมีและปัจจุบันถึงเวลาต้องให้สิทธิที่พวกเขาพึงจะมี

สุรชาติ เทียนทอง ส.ส. กทม.หนึ่งใน กมธ.พิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม-คู่ชีวิต ตัวแทนจาก Generation X มองว่าจริง ๆ แล้วไม่เกี่ยวว่าเป็นมติของฝ่ายค้าน หรือใครเป็นผู้เสนอร่าง แต่เป็นเรื่องของสามัญสำนึก ถ้าเราอธิบายความเป็นมนุษย์เท่ากับมนุษย์ มนุษย์ทุกคนควรจะมีสิทธิเลือกอย่างเท่าเทียม จึงง่ายมากเลยที่จะตัดสินใจโหวตรับร่างกฎหมายฉบับนี้
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net