จะดับไฟใต้ต้องเจรจา: ทำความเข้าใจ และยอมรับความแตกต่าง กองทัพต้องลดบทบาท

"ทักษิณ-ธนาธร-อภิสิทธิ์-BRN" แสดงวิสัยทัศน์สร้างสันติภาพชายแดนใต้ในเสวนาภายใต้หัวข้อ "SCENARIO PATANI" ของ The Motive เสนอลดบทบาทกองทัพ ใช้การเมืองนำสร้างการสนทนาทำความเข้าใจกัน

29 มิ.ย. 2565 เมื่อวันที่ 19 - 25 มิ.ย. 2565 เวลา 20.00 - 23.00 น. THE MOTIVE FORUM จัดเสวนาภายใต้หัวข้อ "SCENARIO PATANI" ภาพอนาคตปาตานี/ชายแดนใต้ โดยในวันที่ 19 20 21 และ 25 มีการแสดงวิสัยทัศน์ของอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย องค์กรทางการเมือง และตัวแทนขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (BRN)

ภาพผู้แสดงวิสัยทัศน์ภายในงาน (ที่มา THE MOTIVE)

การแสดงวิสัยทัศน์ของอดีตนายก องค์กรทางการเมือง และตัวแทน BRN ล้วนมีวิสัยทัศน์ไปในทิศทางเดียวกันคือต้องแก้ปัญหาด้วยการเจรจาและทำความเข้าใจคนในพื้นที่ การใช้วิธีการทางทหารไม่สามารถทำให้สันติภาพเกิดขึ้นได้

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องเข้าใจภาวะที่แท้จริงของประชาชนในชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ประชาชนพูดสองภาษา ประชาชนบางคนมีสองสัญชาติ การเรียนที่เน้นศาสนาเป็นหลักเรียนความรู้ด้านสามัญด้านวิชาชีพยังน้อย การพัฒนาเศรษฐกิจของไทยช้ากว่ามาเลเซีย

อดีตนายกฯ ยังเสนอด้วยว่า รัฐควรนำงบประมาณที่ใช้กับการทหารในภาคใต้ในปัจจุบันมาพัฒนาให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ยอมรับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ในปัจจุบัน หาศักยภาพของประชาชนในพื้นที่ ใช้การพัฒนาด้านซอฟต์พาวเวอร์ ด้านเทคโนโลยี ด้านความเจริญในโครงสร้างพื้นฐาน คุ้มค่ากว่าใช้เงินที่พัฒนาทางการทหาร

“ผมมั่นใจว่าถ้ามีการพูดคุยกัน ใช้การเมืองนำการทหาร เหตุการณ์จะสงบ แล้วจะหาแนวทางในการพัฒนาร่วมกันได้” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าว

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการเสวนา พูดคุย เจรจา คือหัวใจและกุญแจไปสู่ความสงบในอนาคตของชายแดนใต้ การทำความเข้าใจคนเห็นต่างเป็นกระบวนการสำคัญที่จะทำให้เดินหน้าไปในอนาคต สนับสนุนให้มีการกระจายอำนาจให้มากขึ้นโดยทำความเข้าใจความพิเศษของแต่ละพื้นที่และใช้รูปแบบพิเศษปกครองในแต่ละพื้นที่แต่ยังคงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน

“ข้อยุติที่จะเกิดขึ้นได้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าหากไม่ยึดกระบวนการพูดคุยและการมีส่วนร่วมเป็นหลัก” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าว

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้ากล่าวว่า สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ต้องลดบทบาทกองทัพ ใช้การทูต การเมืองแก้ไขปัญหา จะต้องสร้างความเป็นธรรมในสังคม ยกเลิกการเลือกปฏิบัติเพราะเชื้อชาติ ศาสนา และกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นปกครองตนเอง อีกทั้งภาครัฐควรสนับสนุนหรือลงทุนในพื้นที่ในสามจังหวัดเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้การพัฒนาให้เส้นทางคมนาคมระหว่างสามจังหวัดให้ดีขึ้นจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจพัฒนา เนื่องจากเกิดการลงทุนมหาศาลในระหว่างเส้นทาง 

ประธานก้าวไกลยังเสนอถึงประเด็นด้านวัฒนธรรมด้วยว่า รัฐไทยต้องเลิกยัดเยียดวัฒนธรรมความเชื่อจากส่วนกลาง และยอมรับวัฒนธรรมคุณค่าที่แตกต่าง สร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกของอัตลักษณ์ แล้วนำอัตลักษณ์ในพื้นที่มาสร้างงานสร้างรายได้

“ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้มาตรการทั้งการเมือง เศรษฐกิจและมาตรการทางสังคม วัฒนธรรม ทั้งสามวัฒนธรรมนี้ต้องใช้ไปพร้อม ๆ กัน” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจประธานคณะก้าวหน้ากล่าว

ตัวแทนกลุ่ม BRN (Barisan Revolusi Nasional Melayu Patani) หรือขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานีกล่าวว่า ชาวพื้นเมืองดั้งเดิมในมลายูถูกรัฐบาลสยามในอดีตหรือรัฐบาลไทยในปัจจุบันยึดครองเชื้อชาติ การจะแก้ปัญหาความไม่สงบนี้ได้จะต้องมีการเจรจาหาทางออก โดยทางกลุ่ม BRN มีข้อเสนอคือการปกครองตนเองแต่ยังคงอยู่ภายใต้ประชาธิปไตยของประเทศไทย โดยเขตปกครองตนเองของมลายูจะครอบคลุมจังหวัดยะลา นราธิวาส สตูล ปาตานี และบางส่วนของสงขลา เนื่องจากพื้นที่ในจังหวัดเหล่านี้เป็นดินแดนมลายูดั้งเดิม ซึ่งอ้างอิงจากสนธิสัญญา 1909 

อย่างไรก็ตามตัวแทน BRN ก็มองว่าการเจรจาตามที่ผู้ร่วมเสนอในรายการนี้ถ้าจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องการเรียกร้องทางการเมืองโดยภาคประชาชนล้วนต้องอาศัยอำนาจของคณะรัฐสภาและรัฐบาลดำเนินการเพื่อให้ได้ผลตามที่เรียกร้อง 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท