อัยการสั่งฟ้องคดี ม.112 "ลูกเกด ชลธิชา" จากการปราศรัยหน้าศาลจังหวัดธัญบุรีใน #ม็อบ11กันยา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพนกวิน ชี้ มีการวิพากษ์การออกกฎหมายและการจัดสรรงบประมาณสถาบันกษัตริย์
1 ก.ค. 2565 เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย. 2565) ลูกเกด - ชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) และว่าที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Lookkate Chonthicha - ลูกเกด ชลธิชา แจ้งเร็ว” ระบุว่า อัยการได้มีคำสั่งฟ้องตนเองในคดีมาตรา 112 "หมิ่นประมาทกษัตริย์" จากการปราศรัยหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์
เบื้องต้นศาลอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกับเงื่อนไข ดังนี้
1. ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือด้อยค่าต่อสถาบันกษัตริย์ และสถาบันศาลในทุกด้าน
2. ห้ามกระทำการใดๆ อันเป็นการขัดขวางต่อกระบวนการพิจารณาของศาล
3. ห้ามโพสต์ข้อความที่เป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น หรือชักชวนให้มวลชน รวมกิจกรรมชุมนุม ในโซเชียลมีเดียหรือเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
4. ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ศาลอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวได้
ในระหว่างที่อยู่ในห้องเวรชี้ ชลธิชา ระบุว่า ตนเองได้ลุกขึ้นโต้แย้งกับศาล ถึงเรื่องการกำหนดเงื่อนไขประกันตัวที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาของกระบวนการยุติธรรมที่ควรต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน ชลธิชามองว่า การลุกขึ้นแย้งปราศรัยต่อหน้าศาลจังหวัดธัญบุรีนั้นเป็นไปด้วยความหวังดี ที่อยากจะเห็นประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมได้อีกครั้ง และเพื่อเป็นการสร้างค่านิยมที่ดีว่าผู้พิพากษาต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกตรวจสอบได้ ก่อนจะทิ้งท้ายต่อผู้พิพากษาในห้องเวรชี้ว่า
“เราไม่อาจยอมรับเงื่อนไขกันตัวที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกได้ เรายืนยันที่จะรักษาสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของตัวเองต่อไป ทั้งการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์และกระบวนการยุติธรรมอย่างสุจริตใจ หากศาลไม่พอใจและต้องการถอนประกัน เราก็ยินดีสู้คดีเพื่อชี้แจงถึงปัญหาของการกำหนดเงื่อนไขประกันตัวแบบนี้” ชลธิชา กล่าว
ก่อนหน้านี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2564 สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้แจ้ง ม.112 ต่อลูกเกด – ชลธิชา หลังการปราศรัยใน #ม็อบ11กันยา มีการวิพากษ์การออกกฎหมาย-การจัดสรรงบประมาณสถาบันกษัตริย์ โดย #ม็อบ11กันยา เป็นการทำกิจกรรมคาร์ม็อบและรวมตัวเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับผู้ต้องขังทางการเมือง ที่ด้านหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564
บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนั้นระบุว่า สืบเนื่องมาจากคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีที่ 331/2564 ลงวันที่ 30 ต.ค. 2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะพิจารณาความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรได้พิจารณาข้อความที่ได้จากการถอดเทปคําปราศรัยของ ‘ลูกเกด’ ชลธิชา แจ้งเร็ว ที่ได้ปราศรัยบริเวณหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี แล้วเห็นว่ามีข้อความบางตอนเป็นหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ จึงคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ทำการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา ‘หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ’ เพิ่มเติมในวันนี้
พนักงานสอบสวนได้บรรยายพฤติการณ์โดยระบุคำปราศรัยจากการถอดเทปของลูกเกดโดยละเอียดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 มีใจความโดยสรุป กล่าวถึงเรื่องความสิ้นหวังของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณของสถาบันกษัตริย์และการออก พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ.2560 ของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมไปถึงการแก้กฎหมาย พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในปี 2561 โดยเปรียบเทียบว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนสามารถดีขึ้นได้ หากงบประมาณถูกจัดสรรไปอย่างที่ควรจะเป็น เช่น การจัดสรรงบไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ อาทิ กรมสุขภาพจิต กรมควบคุมมลพิษ หรือการจัดสรรงบในการประกันสุขภาพ จะสามารถทำให้คนไทยคุณภาพชีวิตได้ดีขึ้นได้กว่านี้ ก่อนจะเน้นย้ำว่า
“หากจะมีใครสักคนที่เป็นกัลยาณมิตร หรือเป็นผู้ที่หวังดีกับกษัตริย์วชิราลงกรณ์ คนๆ นั้นก็คือเรา เพื่อนๆ ของเรา ที่อยู่ข้างในเรือนจํา คือคนรุ่นใหม่ ที่กล้าที่จะลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เพราะการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ การแก้ไข การเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นมันคือทางออกเดียว และคือทางเลือกเดียวของกษัตริย์วชิราลงกรณ์” ข้อความจากการถอดเทปปรัยศรัยลูกเกด ชลธิชา ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ