8 ก.ค.2565 จากกรณีที่ บอริส จอห์นสัน นายกฯ อังกฤษ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม วานนี้ (7 ก.ค.) หลังถูกสมาชิกพรรคกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เหตุไม่พูดข้อเท็จจริงกรณีตั้งคนใกล้ชิดประวัติฉาวดำรงตำแหน่งสำคัญ ทั้งนี้ บอริส จอห์นสัน ยังคงจะเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษต่อไปจนว่าจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ในเดือน ต.ค.นี้

ล่าสุด เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แจ้งต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเสนอให้ นายกฯ ไทยควรเลียนแบบอังกฤษบ้าง หลังถูกกดดันลาออก เพราะโกหกประชาชนและตั้งคนใกล้ชิดประวัติไม่ดีดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมือง ตนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เช่นกัน เขาโกหกประชาชนหลายต่อหลายครั้งออกทีวี ทั้งยังแต่งตั้งคนใกล้ชิดประวัติไม่ดีดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองหลายคน รวมถึงน้องชายได้ดำรงตำแหน่ง ส.ว. การแก้ปัญหาบ้านเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาจัดการได้น่ากลัวมาก จนค่าน้ำมันแพง ค่าไฟฟ้าแพง และแก้ปัญหาโดยสร้างระบบผูกขาดขึ้นมา กลายเป็นการผูกขาดอำนาจ ผูกขาดทรัพยากร และอำนาจทางเศรษฐกิจ จนประเทศไทยเกิดปัญหาขึ้นอย่างรุนแรง เกิดระบบผูกขาด ขึ้นอย่างกว้างขวางและถือว่าเลวร้ายมาก

"พล.อ.ประยุทธ์ ควรเลียนแบบอย่างนายกฯ อังกฤษ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ในทันทีก่อนครบวาระ 8 ปีในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ก่อนจะมีปัญหาตามมาอีกหลายอย่าง และอยากเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่รู้สึกผิดชอบชั่วดีลาออกเพื่อกดดันนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เหมือนที่ประเทศอังกฤษ มีรัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งอื่นๆ ในรัฐบาลมากกว่า 40 คน สร้างประวัติศาสตร์ยื่นหนังสือลาออกมากที่สุดในวันเดียว" เมธา กล่าว

เลขาฯ ครป. ยังเรียกร้องว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของฝ่ายค้านครั้งนี้ ตนอยากเรียกร้องให้มีการอภิปรายประเด็นการคอร์รัปชันและการเอื้อให้เกิดอำนาจการผูกขาดขึ้นในประเทศไทย จนเกิดทุนใหม่สามานย์จำนวนหนึ่งที่กลายเป็นกระเป๋าเงินให้พรรคการเมือง ทำให้การเมืองไทยกลายเป็นระบบฉ้อฉล ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงมหาดไทย  หรือประเด็นการคอร์รัปในกระทรวงพลังงานและกระทรวงเกษตรฯ แม้จะไม่ใช่เป้าหมายรายกระทรวงโดยตรงแต่นายกฯ ก็มีอำนาจบัญชาการ

เมธา เสนอให้วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ช่วยหาทางลงให้ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย เนื่องจาก เป็นคนที่มีความรู้ทางกฎหมายและช่วยเหลือชาติบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน แต่อย่าหลงผิดเป็นชอบอีกเลย ท่านอาจสนับสนุนเขาในทุกช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ถึงเวลาแล้ว ที่เขาต้องลาออกเพราะเป็นนายกฯ เกิน 8 ปีไม่ได้

‘รองโฆษกฯ เพื่อไทย’ จี้ ‘ประยุทธ์’ เลิกกดทับท้องถิ่น เร่งกระจายเงินชดเชยภาษีที่ดินฯค้างจ่ายปี 63-64 ห่วงท้องถิ่นถังแตก ขาดการพัฒนา

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยรายงานต่อสื่อมวลชนด้วยว่า ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการงบประมาณท้องถิ่นปี 2566 กล่าวว่า จากการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำพาประเทศชาติมาถึงจุดที่ถังแตกอยู่บนกองหนี้ทุกด้าน ปัญหานี้กระจายตัวไปยังในระดับท้องถิ่นอย่างชัดเจนแล้วจากผลกระทบของการลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2563 และ 2564 ซึ่งเป็นรายได้สำคัญของท้องถิ่นทำให้กลุ่มเทศบาลเมือง เทศบาลนคร เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานคร จัดเก็บจริงลดลงเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เคยมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน  กับภาษีบำรุงท้องที่ในปี 2562 ถึงปีละกว่า 22,000 บาท รวมสองปีกว่า 44,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันท้องถิ่นเหล่านี้ยังไม่ได้รับการชดเชยรายได้จากรัฐแม้แต่บาทเดียว 

ชนินทร์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันนายกเทศมนตรีในหลายเทศบาลสะท้อนว่ามีความลำบากมาก เพราะการขาดรายได้จากภาษีที่ดินฯ ทำให้ต้องหยุดการลงทุนเพื่อพัฒนาในพื้นที่ทุกอย่าง รวมถึงต้องนำเงินสะสมที่มีออกมาใช้จ่ายเป็นค่าบริหารจัดการแทนรายได้ที่หายไป แม้ในปีนี้จะสามารถเก็บภาษีที่ดินฯ ได้ในอัตราปกติแล้ว แต่ประชาชนและเอกชนยังอยู่ในภาวะขัดสน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ต้องรีบแก้ปัญหานี้ให้จบ เร่งจัดสรรเงินชดเชยรายได้ให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่างๆ ตามที่เคยสัญญาไว้อย่างเร่งด่วน โดยอาจนำเงินงบประมาณคงเหลือในปี 2565 ถ่ายโอนมาจัดสรรก่อน หรือเสนอแปรญัตติงบประมาณ 2566 ที่ไม่จำเป็นมาเติมให้ในส่วนนี้ เพื่อเร่งนำส่งท้องถิ่นให้กลับมาสร้างงาน สร้างรายได้ เกิดการลงทุนและจ้างงานอีกครั้ง

“การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ ยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับการ ‘กระจายอำนาจ’ โดยสิ้นเชิง  ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ละทิ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เคว้ง  ซ้ำยังกดทับท้องถิ่นให้ขาดการพัฒนา  เหมือนคนถูกตัดแขนตัดขาแล้วไม่เร่งรักษาให้ร่างกายฟื้นคืนสภาพ  เร่งคืนรายได้ให้พวกเขา ให้ท้องถิ่นแข็งแรงขึ้นโดยเร็ว” ชนินทร์กล่าว