Skip to main content
sharethis

7 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา พรรคก้าวไกล นำโดย 'ชัยธวัช ตุลาธน' เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย 'ปดิพัทธ์ สันติภาดา' ส.ส.พิษณุโลก 'รังสิมันต์ โรม' ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค 'ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล' ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงท่าทีพรรคก้าวไกล หลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตเอาสูตรหาร 500 ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ชัยธวัช กล่าวว่า น่าเสียใจมากกับการลงมติของรัฐสภาที่ไม่ได้ออกแบบระบบการเลือกตั้งที่ดีแก่ประชาชน แต่เป็นการลงมติเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพียงเท่านั้น จนนำไปสู่การโหวตที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เป็นการลงมติที่อัปยศที่สุด ดังนั้นพรรคก้าวไกลยืนยันว่า เราไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และเราจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด รวมทั้งคัดค้านระบอบการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ โดยจะร่วมมือกับฝ่ายประชาธิปไตยและประชาชน เพื่อให้ออกจากระบอบประยุทธ์ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตีความพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯเกิน 8 ปี  

ส่วนร่างพ.ร.ป.ที่ได้พิจารณากันตอนนี้ หากผ่านรัฐสภาไปได้ตามมาตรา 132 รัฐสภาต้องส่งให้ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งพรรคก้าวไกลจะรอดูประธานสภาฯ ยื่นให้ทั้ง 3 องค์กรพิจารณาหรือไม่ หากขัดรัฐธรรมนูญก็จะส่งกลับมาที่รัฐสภา แต่ถ้ายื่นแค่กกต.ต้องหารืออีกครั้งว่าต้องดำเนินการอย่างไร ย้ำว่าเราจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อให้การแก้ไขร่างพ.ร.ป.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญให้ได้ แต่สิ่งที่กังวลที่ซ่อนไว้ คือ หากมีเจตนาสืบทอดอำนาจ จะนำไปสู่เดตล็อคไม่มีพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งรองรับหากมีการยุบสภาเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่เราไม่อยากให้เห็น เหมือนเอาอำนาจเลือกตั้งไว้ที่พล.อ.ประยุทธ์ โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งเราไม่รู้ว่าตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น

ด้านปดิพัทธ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีจุดยืนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องยึดโยงประชาชน โดยมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จะมีความชอบธรรม เราผิดหวังกับกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงส่วนใหญ่ที่ยืนยันว่าในชั้นกมธ.มาตลอดว่า ยังไงก็ต้องหาร 100 แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์กลับมีการเปลี่ยนท่าทีของส.ว.ว่า จะเอาหาร 500 ให้ได้ ซึ่งอำนาจบริหารแทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติอย่างน่าสงสัย ขณะที่ส.ว.พยายามทุบโหวตอย่างเดียว จึงรู้สึกชัดเจนการเลือกตั้งรอบนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มอนุรักษ์อำนาจเดิมเท่านั้น เราจะไม่ร่วมสังฆกรรมสืบทอดอำนาจและต่อต้านอย่างถึงที่สุด

ขณะที่ รังสิมันต์ กล่าวว่า ทุกคนรู้ว่าเดิมตกลงกันเป็นระบบหาร 100 แต่วันสองวันพลิกกลับ ตนสงสัยว่าที่ชอบพูดว่า ส.ว.เป็นอิสระ ไหนคือความอิสระ ขณะส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไปคุยกัน ตนเข้าใจว่าไปคุยกันที่ทำเนียบ ดังนั้นการทำหน้าที่ของสภาฯแห่งนี้ และส.ว. ไม่มีความเป็นอิสระอย่างแท้จริง ทำให้กลับไปใช้ระบบหาร 500 เหมือนเดิม ซึ่งเป็นตอกย้ำให้เห็นว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ และมีความพยายามสืบอำนาจต่อไป พรรคก้าวไกลผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่ใช่เป็นการออกแบบระบบการเลือกตั้งที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง แต่เป็นการออกแบบระบบเลือกตั้งที่อยู่บนพื้นฐานใครได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งสมการตรงนี้ไม่เคยมีประชาชนอยู่ข้างในเลย เราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์ให้ประชาชน และคืนอำนาจประชาชนเพื่อกำหนดอนาคตประเทศไทยต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net