Skip to main content
sharethis

สื่อ The Reporters สัมภาษณ์ ‘โอฬาร ถิ่นบางเตียว’ นักวิชาการรัฐศาสตร์ เผย ‘นั่งร้าน’ รัฐบาลตัวจริง คือ พรรคภูมิใจไทย มองอนาคต หากต้องตั้งรัฐบาล ยังไงต้องมีภูมิใจไทย และการลงคะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ภูมิใจไทย ‘ไม่แตกแถว’ สะท้อนเสถียรภาพภายในพรรค

24 ก.ค. 2565 สืบเนื่องจากเมื่อ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดลงคะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรี รวมนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลปรากฏว่าที่ประชุมฯ มีมติไว้วางใจให้รัฐมนตรีทำงานต่อ ขณะที่นักวิชาการรัฐศาสตร์วิเคราะห์ ‘ภูมิใจไทย’ คือ ‘นั่งร้าน’  รัฐบาลตัวจริง ไม่มีก็อยู่ไม่ได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ. พรรคภูมิใจไทย (ที่มา iLaw)

จากการตรวจสอบบันทึกการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจ ในการประชุมสภา ครั้งที่ 14 เมื่อ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า 61 คนของพรรคภูมิใจไทย โดยสังเกตได้จากในเอกสาร ลำดับที่ 230-291 ซึ่งเป็นรายชื่อ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ลงคะแนนให้รัฐมนตรีทุกคนว่า ‘ไม่เห็นชอบ’ หรือ ‘ไว้วางใจ’ โดยที่ไม่มีใครโหวตสวนมติพรรค

ส่วนการลงคะแนนไม่ไว้วางใจของ อนุทิน ชาญวีรกูล มีนายอนุทิน งดออกเสียง เนื่องจากเป็นการโหวตให้ตัวเอง เช่นเดียวกับผลการลงคะแนนไม่ไว้วางใจของศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีนายศักดิ์สยาม งดออกเสียง เนื่องจากเป็นการโหวตให้ตัวเอง

‘นั่งร้านตัวจริง’

วันนี้ (24 ก.ค. 65) รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้สัมภาษณ์กับสื่อ The Reporters เผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เพิ่งจบลงไป ผู้ที่ได้คะแนนไว้วางใจ อันดับที่ 1 คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งกำลังส่งสัญญาณไปบอกพี่น้อง ป.ปลา และนักการเมืองใน พปชร. ทั้งหลายว่า ใครมีอำนาจตัวจริง แต่นี่ไม่ใช่การหักโค่นกัน เป็นแต่เพียงการฉายภาพให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลต่อยุทธศาสตร์ของพลเอกประวิตร ในอนาคต ถ้าคิดจะขึ้นมาเป็นมากกว่าหัวหน้าพรรค ด้วยแรงหนุนขนาดนี้ย่อมทำได้ ส่วนพลเอกประยุทธ์ ไปจนถึงพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็มีหน้าที่จับสัญญาณตรงนี้แล้วไปแก้เกมของตัวเอง

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

พลเอกอนุพงษ์ ที่คะแนนไม่ไว้วางใจไม่ดีเอาเสียเลย ซึ่งน่าจะมาจากการเป็น มท.1 (รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย) ที่ชอบตีตัวออกห่างนักการเมือง ไม่ยอมสนับสนุนนักการเมืองพื้นที่เท่าที่ควร ก็จะต้องถูกเตือนสติกันบ้าง โดยนักการเมืองในค่ายตัวเอง ก็ใช้การอภิปรายตรงนี้มาเขย่า อย่างไรก็ตาม นี่คือการทำให้เห็นว่า พรรค พปชร.มีรอยแยก แตกร้าวข้างในอยู่พอสมควร เท่ากับว่านี่ไม่ใช่พรรคที่รัฐบาลจะไปหวังพึ่งพิงได้ เพราะสภาพ 3 วันดี 4 วันไข้ คงฝากผีฝากไข้ไม่ได้ เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็ไม่มีความเป็นปึกแผ่นภายในพรรค นี่คือปัญหาของรัฐบาลที่โครงสร้างภายในเปราะบางมาก ใช้การอภิปรายไล่ล้างแค้น เอาคืนกันทางการเมือง มุ่งหวังแต่สร้างแรงกระเพื่อม เพื่อให้ฝ่ายตัวเองได้ดุลอำนาจแบบนี้ ไม่ดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

“แต่ที่รัฐบาลอยู่มาได้ ไม่มีรัฐมนตรีคนไหน ได้เสียงโหวตต่ำกว่าครึ่งจนเป็นสินามิการเมือง ก็ต้องขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ที่เทโหวตให้ทุกคน ด้วยคะแนนเท่ากัน ถ้าพรรคภูมิใจไทย บ้าจี้ เล่นการเมืองล้างแค้นไปด้วยอีกพรรค รับรองฝ่ายรัฐบาลวุ่นวาย ทำงานไม่ได้แน่นอน พรรคภูมิใจไทย แสดงให้เห็นมาเสมอว่า มีความเข้มแข็งภายใน มีเอกภาพ และสามารถจัดการตัวเองได้ดี เป็นที่พึ่ง เป็นไม้ค้ำ รัฐบาลได้” โอฬาร กล่าว 

เมื่อถามว่า ในอนาคต หลังเลือกตั้ง หากตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคภูมิใจไทยมาช่วยประคอง รัฐบาลนั้นจะอยู่ได้หรือไม่ โอฬาร ระบุว่า “ไม่ใช่อยู่ไม่ได้ แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้เลย เพราะพรรคภูมิใจไทย นี่เอง ที่จะเป็นฝ่ายเลือกรัฐบาล”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net