ศาลปกครองเชียงใหม่ ยกฟ้องคดีขอรื้อถอน ‘บ้านป่าแหว่ง’ ริมดอยสุเทพ ชี้อยู่นอกเขตป่าสงวนฯ และอุทยานฯ-ศาลฎีกาเพชรบุรีพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน ปรับ 3.1 แสนบาท ไม่รอลงอาญา 'วันเสาร์ ภุงาม' ชาวกะเหรี่ยง อ.หนองหญ้าปล้อง ข้อหาบุกรุกอุทยานฯ แก่งกระจาน แม้นเจ้าตัวยืนยันอยู่กินมานานแล้ว

28 ก.ค. 2565 สำนักข่าว ไทยพีบีเอส รายงานวานนี้ (27 ก.ค.) ศาลปกครองเชียงใหม่ มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่นายสุวิทย์ รุ่งวิสัย อ้างเป็นผู้มีหน้าที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยื่นฟ้องกรมธนารักษ์ ขอให้มีคำพิพากษาเพิกถอนและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและปรับปรุงพื้นที่ที่ราชพัสดุใน ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เนื้อที่ 147 ไร่ 3 งาน 30 ตารางวา ที่อนุญาตให้สำนักงานศาลยุติธรรมก่อสร้างอาคารที่ทำการศาล บ้านพักตุลาการและข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 หรือที่เรียกกันว่า "ป่าแหว่ง" ให้กลับมามีสภาพเดิม

ศาลเห็นว่า พื้นที่พิพาททั้งแปลงอยู่นอกแนวเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยสุเทพ และนอกแนวเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อำนาจอนุญาตให้ใช้ประโยชน์เป็นอำนาจกรมธนารักษ์ ซึ่งอนุญาตให้สำนักงานศาลยุติธรรมก่อสร้างอย่างถูกต้อง

ศาลฎีกาเพชรบุรีสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา เหยื่อนโยบายทวงคืนผืนป่าในอุทยานฯ แก่งกระจาน

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานวันนี้ (27 ก.ค.) วันเสาร์ ภุงาม ชาวกะเหรี่ยงบ้านท่าเสลา อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี วัย 50 ปี เดินทางไปที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อรับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หลังถูกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐเป็นเงิน 3.1 แสนบาท ไม่รอลงอาญา รวมถึงให้รื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่เกิดเหตุ และให้ออกจากอุทยานแห่งชาติ และป่าสงวนแห่งชาติ

ชาวบ้าน อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี มาให้กำลังใจหน้าศาลจังหวัดเพชรบุรี

คดีความของวันเสาร์ เริ่ม 16 ส.ค. 2561 เมื่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 เป็นการยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน เข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าและเสื่อมเสียแก่สภาพป่าในเขตอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ประมาณ 31 ไร่ ซึ่งวันเสาร์ ยืนยันว่าที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากแม่

ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำคุก 3 ปี 8 เดือน ให้ออกจากที่ดิน รื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้าง และจ่ายค่าเสียหายให้รัฐ 2,124,060 บาท ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำตัดสินพิพากษาของศาลชั้นต้นยกฟ้อง จนพนักงานอัยการได้ยื่นฎีกาและมีคำตัดสินในวันนี้ 

สำนักข่าวชายขอบ รายงานเพิ่มว่า บรรยากาศภายหลังศาลฎีกาอ่านคำตัดสิน วันเสาร์ถูกควบคุมตัวเตรียมนำไปที่เรือจำกลางเพชรบุรี โดยชาวบ้านเตรียมไปขอเยี่ยมในช่วงเย็นวันนี้ (27 ก.ค.) ซึ่งชาวบ้านไม่คิดว่าศาลฎีกาจะพิพากษากลับ เนื่องจากชั้นศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้องไปแล้ว จึงมีการชูป้ายเชิงสัญลักษณ์พร้อมจะต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้วันเสาร์ และเรียกร้องสิทธิชุมชนของชาวบ้านรอบผืนป่าต่อไป

วันเสาร์ ภุงาม ชาวกะเหรี่ยง บ้านท่าเสลา อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

จากคำบอกเล่าของชาวกะเหรี่ยงบ้านท่าเสลา กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานประกาศเมื่อปี 2524 เส้นแนวเขตในพระราชกฤษฎีกาที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 92 วันที่ 12 มิถุนายน 2524 คือเส้นที่วันเสาร์ และชาวบ้านท่าเสลารับรู้ทั่วกัน และไม่เคยรุกล้ำเข้าไป แต่ต่อมากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ลากเส้นแนวเขตใหม่ โดยอ้างว่าในปี 2558 คณะรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า โครงการ ‘One Map’ เพื่อให้หน่วยงานราชการใช้แผนที่เดียวกันในการทำงาน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจึงยึดเอาเส้นแนวเขตที่ถูกขีดขึ้นใหม่เป็นเส้นทางการ และเส้นแนวเขตใหม่นี้เองได้รวมเอาพื้นที่ของวันเสาร์ เข้าไปอยู่ในเขตอุทยานฯ

การดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่อ้างอำนาจตามคำสั่ง คสช. ที่ 64/2557 เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ หรือนโยบายทวงคืนผืนป่า โดยขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ เปิดเผยข้อมูลจากคณะทำงานศึกษาร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ชี้ว่าตั้งแต่ในระยะเวลา 8 ปี ตั้งแต่ 2557-2565 มีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่ของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ รวมกันอย่างน้อย 34,692 คดี

สารคดีสั้น เรื่องประเด็นปัญหาของ 'วันเสาร์ ภุงาม'