โฆษก กมธ.ร่าง พ.ร.บ.กยศ. อัด 'ประยุทธ์' เมินช่วยนักศึกษาติดแก้หนี้กองทุนกู้ยืม ระบุกองทุนฯเตรียมยึดทรัพย์เพิ่ม 4 แสนรายเผยตัวเลขนักศึกษาและผู้ค้ำติดหนี้กองทุนรวม 8 ล้านคน 'เพื่อไทย' จี้รัฐบาลยกเลิก ‘กัญชาเสรี’ จนกว่าจะมีกฎหมายรองรับ
27 ก.ค.2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า อนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมาธิการใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของ การพิจาณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับที่จะคิดกับผู้กู้ ซึ่งกรรมาธิการเสียงฝ่ายค้าน เสนอคิดดอกเบี้ยที่ 0.25 บาท และไม่มีเบี้ยปรับ แต่ฝ่ายรัฐบาล ไม่ยอมจะคิดดอกเบี้ยและมีเบี้ยปรับจึงทำให้มีปัญหายังไม่ได้ข้อสรุปปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาที่กู้เงินจากกองทุน กยศ.จำนวนมมากกว่า 2 ล้านคน ที่กำลังถูกดำเนินคดีจาก กยศ.ถ้ามีการดำเนินคดีจะมีคนถูกยึดทรัพย์สูงถึง 400,000 ราย ทั้งตัวนักศึกษาและผู้ค้ำประกัน ดังนั้นกรรมาธิการอยาก ให้มีการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ไม่ควรที่จะกระทบกับภาคสังคม
อนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน กยศ.มีเงินทุนหมุนเวียนสูงถึง 800,000 ล้านบาท เงินที่เข้ามาส่วนหนึ่งเป็นเบี้ยปรับจากนักศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 6 ล้านคน ที่กู้เงินจากกองทุนกยศ.ในขณะที่กยศ.ใช้งบประมาณสูงถึงปีล่ะ 1,000 ล้านบาทในการว่าจ้างบริษัทกฏหมายติดตามหนี้และฟ้องร้องนักศึกษา
“พรรคเพื่อไทยเคยเสนอให้รัฐบาลหาทางออกโดยการนิรโทษกรรมให้กับนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากการฟ้องร้องของกยศ. ทั้งนักศึกษาและผู้ค้ำประกันทั้งหมด 8 ล้านคน แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ให้ความสำคัญดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะให้ความสำคัญในการเร่งปลดล็อคอนาคตของนักศึกษาเหล่านี้ จะสร้างโอกาสในการพัฒนาประเทศได้อย่างแน่นอน ซึ่งรัฐควรคืนรอยยิ้มและสร้างโอกาสให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ควรไปสร้างตราบาปให้กับนักศึกษาที่ถือเป็นอนาคตของชาติ” อนุรักษ์ กล่าว
จี้รัฐบาลยกเลิก ‘กัญชาเสรี’ จนกว่าจะมีกฎหมายรองรับ
ณพลเดช มณีลังกา คณะทำงานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี 851 แพทย์รามาธิบดี แสดงพลังคัดค้านออกแถลงการณ์ จี้ปิดสภาวะกัญชาเสรีทันที ว่าเป็นการชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดขาดความรอบคอบของรัฐบาล ไม่เฉพาะเครือข่ายแพทย์ ที่กังวลใจ ประชาชนจำนวนมาก ต่างก็ต้องการให้ยกเลิกการปลดล็อกกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศ ด้วยเหตุผล 5 ประการ
1.มีข้อเท็จจริงว่าประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบอย่างหนักจากนโยบายกัญชาเสรีและมีผลกระทบต่อสุขภาพ
2.มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนออกประกาศห้ามใช้กัญญาในหน่วยงานแล้ว และเริ่มมีการต่อต้านโดยการออกแคมเปญให้ยกเลิกกัญชาเสรี ผ่าน Change.org แล้ว
3.มีงานวิจัยสำรวจความคิดเห็น จากสวนดุสิตโพล ชี้ให้เห็นว่าประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง และมองว่าการปลดล็อกกัญชาเสรีมีผลเสียมากกว่าผลดี
4.การนำเข้าส่งออก ยังขัดกับกฎหมายต่างประเทศในหลายประเทศ
5.ขั้นตอนของการ ปลดล็อคกัญชาแบบเสรีมิได้มีการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งอาจขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ตราไว้ในมาตรา 77 ที่วางหลักว่า “ให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย”
ณพลเดช กล่าวต่อไปว่า จากที่ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการจัดเสวนาวิชาการเพื่อการพัฒนาศักยภาพการวิจัยและนักวิชาการด้านการเสพติด โดยรศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้นโยบายทางการเมือง และกระทรวงสาธารณสุขที่ผลักดันเรื่องการใช้กัญชาโดยเน้นการใช้ทางการแพทย์ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่เน้นการใช้เพื่อสันทนาการ แต่ในทางปฏิบัติอาจมีความย้อนแย้งกัน
คณะทำงานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นข้อกฎหมาย การกำหนดสารสกัดที่มี THC ไม่เกิน 0.2% จะได้รับการยกเว้นไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ ยังขัดต่อหลักความเป็นจริงเพราะอย่างในร้านอาหารบางร้านหากมีการใส่กัญชา จะทราบได้อย่างไรว่ามีสารสกัดTHC ไม่เกิน 0.2% หรือไม่ มีหน่วยงานใดมีอำนาจหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และต้องใช้งบประมาณประเทศมากมายเพียงใดในการตรวจสอบเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย อีกทั้งเรายังไม่ได้วางหลักกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายต่างประเทศ ด้วยในขณะนี้มีผลกระทบทั้งการนำเข้าส่งออก อีกทั้งยังกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทย และกลับไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้การปลอดล็อกกัญชาเสรี ดังกล่าวยังมิได้มีการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งอาจขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ตราไว้ในมาตรา 77 ที่วางหลักว่า “ให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย”
ณพลเดช กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอสนับสนุน 851 แพทย์รามาธิบดี แสดงพลังคัดค้านกัญชาเสรี โดยให้รัฐบาล ออก พ.ร.ก. ยกเลิกกัญชาเสรี และให้เปิดกว้างในการเปิดเวทีเสวนา รวมทั้งการทำประชามติ และออกกฎหมายควบคุมที่เป็นหลักสากล ให้เป็นไปตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน