Skip to main content
sharethis

'พีมูฟ' แถลงจี้รัฐยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่า ดันนิรโทษกรรมคดีจากนโยบายรัฐ หลังหญิงชาวกะเหรี่ยงวัย 58 ปีถูกจำคุก 2 ปี 8 เดือน ปรับ 3.1 แสน ไม่รอลงอาญา ชี้ 8 ปี คสช. คือ 8 ปีแห่งความทุกข์ทวีของประชาชน เผย 8 ปี มีผู้ถูกดำเนินคดีจากนโยบายทวงคืนผืนป่าแล้ว 34,692 คดี

 

28 ก.ค. 2565 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ รายงานต่อสื่อวันนี้ (28 ก.ค.) พีมูฟ ออกแถลงการณ์เรื่อง ถึงเวลาหยุด ‘ทวงคืนผืนป่า’ หรือยัง? หลัง 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก วันเสาร์ ภุงาม หญิงชาวกะเหรี่ยงวัย 58 ปี ชาวบ้านท่าเสลา อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ได้รับโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน เรียกค่าเสียหาย 3.1 แสนบาท ไม่รอลงอาญา และให้รื้อถอนบ้าน สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงต้องออกจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานทันที โดยพีมูฟ เห็นว่ากรณีนี้สะท้อนความอัปยศของนโยบายด้านการจัดการที่ดิน-ป่าไม้หลังการรัฐประหารอีกครั้ง รวมถึงยังหมายถึงกระบวนการยุติธรรมไทยที่ล้มเหลว ไม่อาจผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม

วันเสาร์ ภุงาม ชาวกะเหรี่ยง บ้านท่าเสลา อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลยกฟ้องรื้อถอน "บ้านป่าแหว่ง" ชี้อยู่นอกเขตป่าสงวนและอุทยานฯ-สั่งจำคุกเหยื่อทวงคืนผืนป่าในอุทยานฯ แก่งกระจาน

พีมูฟ อ้างอิงข้อมูลจากคณะทำงานศึกษาร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ชี้ว่าในระยะเวลา 8 ปี ตั้งแต่ 2557-2565 มีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่ของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ รวมกันอย่างน้อย 34,692 คดี

"นั่นหมายความว่าประชาชนนับหมื่นต้องถูกผลักดันออกจากผืนดินของตนเอง กลายเป็นเกษตรไร้ที่ดิน ความเจ็บปวดของนางวันเสาร์ ครอบครัว และพี่น้องในผืนป่าแก่งกระจานเกิดขึ้นแล้วในวันนี้ และจะต้องเกิดขึ้นอีกกี่ครั้งในวันหน้า หรือประชาชนในเขตป่าทำได้เพียงเฝ้ารอโชคชะตาว่าผู้มีอำนาจจะชี้เป็นชี้ตายวันใด เราขอประณามหน่วยงานรัฐภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอประณามรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และขอประณามกระบวนการยุติธรรม ที่ได้รวมหัวกันรังแกประชาชน" พีมูฟ กล่าว

นอกจากนั้น ยังมีข้อเรียกร้องถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายทวงคืนผืนป่า ดังนี้

1. รัฐบาลต้องยกเลิกกฎหมายและนโยบายภายใต้แผนการทวงคืนผืนป่าทั้งหมด แล้วเปิดให้ประชาชนได้สร้างกฎหมายด้านที่ดิน-ป่าไม้ ในนามผู้ถูกกดขี่และผู้อยู่อาศัย ทำกินในเขตป่าที่รัฐประกาศทับด้วยตัวเอง

2. สภาผู้แทนราษฎรต้องตรวจสอบงบประมาณและแผนการดำเนินงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในปี 2566 ที่ยังคงปรากฏว่ามีแผนแม่บทป่าไม้ฯ จากปี 2557 เป็นส่วนหนึ่งในการสนองความปรารถนาของชนชั้นปกครองที่อยากมีตัวเลขพื้นที่ป่า 40 เปอร์เซ็นต์ และมีงบประมาณด้านการปราบปรามมากกว่าการแก้ปัญหาที่ดินถึง 8 เท่า

3. ต้องผลักดันร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ที่เสนอให้ยกเลิกคดีความที่ไม่เป็นธรรม และคืนสิทธิ์แก่ประชาชน

“เราขอย้ำว่า 8 ปีของการทวงคืนผืนป่า คือ 8 ปีแห่งความทุกข์ทวี หาใช่ความสุขตามที่เขาหลอกลวง และจนถึงวันนี้ การทวงคืนผืนป่าที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในกฎหมายและนโยบายของรัฐจะต้องถูกรื้อถอน คืนความเป็นคนสู่ประชาชนในเขตป่าเสียที” พีมูฟย้ำ

รายละเอียดแถลงการณ์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net