Skip to main content
sharethis

ส.ว. 'วันชัย สอนศิริ' ค้านกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เตือนระวังจะเสียผู้เสียคน - ปธ.วิปรัฐบาล จบข่าวลือหวนใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ชี้มาไกลมากแล้วแก้ รธน.ยุ่งยาก - กมธ.พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ระบุปรับแก้ กม.ลูกตามสูตรหาร 500 แล้ว - 'ประชาธิปัตย์' ค้านบัตรใบเดียว จุดยืนพรรคบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2565 เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานว่านายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญเพื่อกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ว่าในส่วนของส.ว.ยังไม่แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ไม่ว่าใครจะให้กลับ ทั้งพรรคการเมืองหรือผู้มีอำนาจคนใดก็ตาม จะเสียผู้เสียคนมากกว่า เหมือนอย่างกรณีสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ที่จากเดิมหาร 100 ก็มีการกลับไปเป็นหาร 500 แล้วจากหารด้วย 500 ก็จะกลับมาเป็นหารด้วย 100 อีก และยังจะกลับไปแก้รัฐธรรมนูญก็จะทำให้ยิ่งเสียคนมากขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องที่จะมองแค่ความได้เสียเปรียบเสียเปรียบทางการเมืองมากกว่า การดำเนินการให้เป็นไปด้วยความตรงไปตรงมา ขาดความถูกต้อง ขาดความมีจริยธรรมทางการเมือง ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือ

เมื่อถามว่ามองว่ามีโอกาสที่จะกลับไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียวได้หรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า ตนคิดว่าใครที่คิดแต่เรื่องอำนาจอย่างเดียว คิดแต่จะเอาเปรียบอย่างเดียวแล้วรวมหัวกัน ก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นได้

“หากจะเกิดขึ้นได้ก็จะต้องมีการร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองกับผู้มีอำนาจ ที่หวังจะเอาอำนาจและหวังจะได้เปรียบทางการเมืองเท่านั้น แต่หากพรรคการเมืองไม่เล่นด้วย ส.ส.ไม่เล่นด้วย ก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ลำพังส.ว.เพียวๆ ก็ไม่มีทางที่จะทำได้เลย” นายวันชัย กล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยหรือไม่หากจะมีการกลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว นายวันชัย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย เพราะตนเห็นด้วยกับการหารด้วย 100 ตั้งแต่ต้น และหากจะกลับไปกลับมา ตนมองว่ามันเป็นการกะล่อนกันทางการเมืองมากกว่าที่จะทำเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง

ปธ.วิปรัฐบาล จบข่าวลือหวนใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ชี้มาไกลมากแล้วแก้ รธน.ยุ่งยาก

วันเดียวกันนั้น (29 ก.ค.) ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่านายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือกฎหมายลูก ที่จะนำกลับเข้ารัฐสภาในวันที่ 2-3 ส.ค. ว่า ตอนนี้กฎหมายว่าด้วยโทษปรับเป็นพินัยคาอยู่ในสภาต้องให้จบก่อน กฎหมายลูกค่อยเข้าต่อ ทั้งนี้ จะพยายามดันให้จบ ภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพราะถ้าทำไม่จบจะเสียหายและเสื่อมเสียมาก

เมื่อถามว่า วิปรัฐบาลจะกำชับพรรคร่วมเรื่องกฎหมายลูกอย่างไรบ้าง นายนิโรธ กล่าวว่า เราต้องเดินหน้า เพราะเราทำหน้าที่นิติบัญญัติ เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติเห็นแก้เป็นใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500 แล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องทำกฎหมายมาตราที่เกี่ยวข้องให้จบ เพื่อให้กฎหมายสมบูรณ์ พอจบก็ส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และครม.ส่งต่อไปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่ากฎหมายที่ฝากเข้าสภาตอนนี้พิจารณาเสร็จแล้วเป็นอย่างนี้เห็นด้วยอย่างไรก็พิจารณาไป และค่อยส่งกลับมาใหม่ เพราะกฎหมายฉบับนี้ กกต.เป็นผู้เสนอ

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้มีสัญญาณว่า จะให้โหวตกฎหมายลูกไปในทิศทางใด หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่มี เราต้องทำตามที่ฝ่ายนิติบัญญัติกำหนดมา ที่สภามอบหมายให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ไปพิจารณากฎหมายลูกทั้งสองฉบับ เมื่อกมธ.พิจารณาเสร็จแล้วก็เอากลับเข้ามาสภา ส่วนสภาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับกมธ.อย่างไร กมธ.ก็ต้องยอมรับเสียงของสภา เพราะถือว่ากมธ.หมดหน้าที่ที่จะมาคุยโต้ ซึ่งตนเข้าใจว่าเขาไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของเขา เมื่อ กมธ.เสนอมา 1 กับ 2 สภาบอกว่าจะเอา 1 กมธ.ก็ต้องยอมรับและไปแก้มาให้จบ ฉะนั้นเป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ไม่ได้เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะมาพูดนู่นพูดนี่หรือออกคำสั่งมันไม่มี เป็นเพียงการกล่าวร้ายป้ายสีหัวหน้าพรรค พปชร. เเละด้อยค่าพรรค พปชร. เพื่อผลประโยชน์ของพรรคตัวเอง ตนมองว่าคนพวกนี้ไม่มีจริยธรรมและคุณธรรม ทำให้ประชาชนสับสนบ้านเมืองวุ่นวาย

เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวที่พรรค พปชร.อยากจะย้อนกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่มี เป็นเพียงการพูดคุยกันเมื่อรัฐธรรมนูญแก้เป็นบัตรสองใบ และสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500 พวก ส.ส.ก็มาพูดคุยกันว่าแบบ 500 และ 100 รวมทั้งคุยถึงบัตรเลือกตั้งแบบใบเดียวและสองใบ ว่า แบบไหนดีกว่ากัน เป็นเพียงการคุยกันในวงว่าใครชอบแบบไหน ไม่ใช่ว่าพรรคพปชร.จะทำอะไร เพราะหากจะย้อนกลับไปใช้บัตรใบเดียวมันไกลมาก จะต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งกระบวนการก็ยุ่งยากไม่ใช่มาพูดคุยกันและจะทำได้เลยเดียวมันไกลมาก จะต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งกระบวนการก็ยุ่งยากไม่ใช่มาพูดคุยกันและจะทำได้เลย

กมธ.พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ระบุปรับแก้ กม.ลูกตามสูตรหาร 500 แล้ว 

30 ก.ค. 2565 สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่านายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าขณะนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้บรรจุวาระการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ แล้ว หลัง กมธ. นำกลับมาแก้ไขเพิ่มเติม 2 มาตรา เพื่อให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามที่ที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบให้ใช้จำนวน 500 คน หาค่าเฉลี่ย โดยสามารถพิจารณาต่อในมาตราที่เหลือ

ขณะเดียวกัน ในความเห็นส่วนตัว ขอย้ำว่าใครอยากได้อะไร ตนเองไม่รู้ แต่หน้าที่ของ กมธ. ควรทำให้เป็นหาร 100 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ส่วนหากถึงขั้นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อกลับไปใช้ระบบเลือกตั้งบัตรใบเดียว จะขอคัดค้านคนแรก และคัดค้านจนถึงที่สุด

'ประชาธิปัตย์' ค้านบัตรใบเดียว จุดยืนพรรคบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2565 ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่านายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ว่า จุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันบัตรเลือกตั้งสองใบ เพราะเราเป็นเจ้าของร่างในการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบ เพราะเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย ไม่จำกัดสิทธิของประชาชนในการที่จะมีสิทธิเลือกพรรคและตัวบุคคล ในการเลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ และวันนี้เดินมาไกลกว่าที่จะกลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว

เพราะใกล้เลือกตั้งแล้ว และรัฐธรรมนูญที่แก้มาก็ยังไม่ได้ใช้เลย แล้วจะเอาเหตุผลอะไรมาเปลี่ยนเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว ที่สำคัญทางคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ก็ได้แก้ไขมาตราที่เกี่ยวข้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 500 เสร็จแล้ว และส่งให้กับประธานรัฐสภาแล้ว ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 3 ส.ค. นี้

จึงคิดว่าประเด็นการหาร 100 หรือ 500 ก็จบ ถ้าผ่านวาระ 3 ประธานรัฐสภาก็ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา หากไม่ผ่านก็ถือว่าตกไป แต่เชื่อว่าผ่านวาระ 3 แน่นอน เพราะทุกคนก็ผ่านวาระ 2 มาแล้ว

“ดังนั้น การจะกลับไปใช้บัตรใบเดียวเป็นไปได้ยาก ไม่ต้องมาพูดกันแล้ว แต่หากมีความพยายามที่จะหยิบยกขึ้นมา เราคัดค้านอยู่แล้ว และจะบอกกับคนที่พยายามด้วยว่า เอาเวลาไปทำงานดีกว่า อย่ามาทำอย่างนี้เลย เพราะการแก้รัฐธรรมนูญกลับไปกลับมาประชาชนเขารับไม่ได้” นายอัครเดชกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net