Skip to main content
sharethis

Summary

  • การประท้วงของคนทำงานในภาคก่อสร้างของจีน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นี้ เนื่องจากปัญหาการค้างชำระค่าจ้างให้กับคนทำงาน ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังดิ้นรนอย่างหนักในประเทศจีน
  • การประท้วงไม่ได้เป็นผลมาจากด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลมาจากการล่วงละเมิดสิทธิแรงงานโดยบริษัทต่างๆ มาเป็นเวลานาน
  • แม้ว่ารัฐบาลจีนได้ให้คำมั่นที่จะยุติการค้างชำระค่าจ้างให้กับคนทำงานภายในปี 2563 โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง แต่เป้าหมายนั้นไม่บรรลุผลในปี 2563 ที่ผ่านมา และยิ่งดูห่างไกลกว่าความเป็นจริงในปัจจุบัน


ที่มาภาพ: tuiguang158.com 

China Labour Bulletin (CLB) สื่อที่จับตาประเด็นแรงงานในจีน ได้นำเสนอข้อมูลประเด็นการประท้วงของคนทำงานในภาคก่อสร้างของจีน ที่ทำสถิติการประท้วงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นี้ เนื่องจากปัญหาการไม่จ่ายค่าจ้างให้กับคนทำงานของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังดิ้นรนอย่างหนักในประเทศจีน

การประท้วงโดยเฉพาะการที่ผู้รับเหมาไม่จ่ายค่าจ้างให้กับคนทำงานยังคงเป็นรูปแบบที่แพร่หลายและดูเหมือนจะสิ้นหวังของคนทำงานก่อสร้างในจีน พวกเขามักเผชิญกับความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะให้คำมั่นสัญญาว่าจะยุติปัญหานี้ให้ได้ก็ตาม

อนึ่งข้อมูล ณ ช่วงเดือน ก.ค. 2565 พบว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จีนนั้นยังคงอยู่ภายใต้แรงกดจากการที่หลายบริษัทยังมีหนี้สูง มีความเสี่ยงในช่วงที่ต้องมีการ Rollover [1] หนี้เก่าและยอดขายบ้านที่ซบเซาในช่วงกลางปี 2565 ก็มีผลต่อการดำเนินโครงการใหม่ๆ ทั้งนี้ทางภาครัฐจีนมีความพยายามในการเพิ่มสภาพคล่องในระบบ การเริ่มกระตุ้นการซื้อบ้านในกลุ่มเพื่อการอยู่อาศัยมากขึ้น การดูแลเรื่องสภาพคล่องในระบบ ล่าสุดคณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและประกันภัยของจีน (CBIRC) ได้เรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ขยายวงเงินกู้ให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการเงินสดของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเพื่อเป็นการบรรเทาความกังวล หลังจากเกิดกรณีผู้ซื้อบ้านไม่ยอมจ่ายค่าจำนองสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามมีการมองกันว่าปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์นี้ยังต้องใช้เวลาในการแก้ไขอยู่
___
[1] 'Rollover' ใช้กับกรณีที่สถาบันการเงินให้ลูกหนี้กู้เงินก้อนใหม่ได้ โดยใช้เงื่อนไขเดิมทุกประการ เช่น ใช้วงเงินเดิม อัตราดอกเบี้ยเดิม การผ่อนชำระเท่าเดิม หมายความว่า ทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขเดิมทั้งสิ้น แบบนี้เท่ากับลูกหนี้หวนกลับไปมีมูลหนี้เท่ากับวงเงินกู้ที่มีอยู่ เช่น วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ก็ให้กู้ใหม่ในวงเงิน 1 ล้าน


ที่มาภาพ: China Labour Bulletin

การประท้วงของคนงานก่อสร้างคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ของเหตุการณ์ประท้วงทั้งหมดที่บันทึกไว้ในแผนที่ Strike Map ของ CLB ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 

โดยปกติแล้วการประท้วงของคนทำงานก่อสร้างมักจะเพิ่มขึ้นก่อนวันตรุษจีน และจะค่อยๆ ลดลงเมื่อถึงเดือน มี.ค. ของทุกปี แต่การประท้วงของคนทำงานก่อสร้างในปี 2565 นี้ยังมีมีต่อเนื่องเรื่อย ๆ ในเดือน มิ.ย. 2565 เพียงเดือนเดียว การประท้วงของคนทำงานก่อสร้างคิดเป็น ร้อยละ 47 ของเหตุการณ์ประท้วงทั้งหมดที่ CLB รวบรวมข้อมูลไว้

แต่ปฏิกิริยาต่อการประท้วงของคนทำงานก่อสร้างนั้นก็รุนแรงเกินควร พบว่ามีการตอบโต้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ ร้อยละ 67 และมีการใช้ความรุนแรงต่อคนงานถึง ร้อยละ 75 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นอกจากนี้ยังมีกรณีที่คนทำงานก่อสร้างที่ออกมาประท้วงขู่ว่าจะฆ่าตัวตายอีกด้วย


ที่มาภาพ: China Labour Bulletin

ในการประท้วงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก คนทำงานทั้งหมดที่ทำงานในโครงการก่อสร้างของบริษัท Evergrande ในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประท้วงหยุดงานเนื่องพวกเขาไม่ได้รับค่าจ้างและเงินสมทบประกันสังคม ตามรายงานจากโซเชียลมีเดีย โครงการก่อสร้างที่พักอาศัยริมทะเลแห่งนี้หยุดจ่ายเงินให้คนทำงานมาตั้งแต่ปลายปี 2564 โครงการนี้มีกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 30 มิ.ย. 2565 แต่ด้วยปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้โครงการนี้ยังคงต้องเลื่อนออกไป

Evergrande บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน เกือบเป็นต้นเหตุให้เศรษฐกิจภายในประเทศจีนเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2564 เนื่องจากบริษัทผิดนัดชำระหนี้จำนวนมหาศาลให้กับเจ้าหนี้ วิกฤตของ Evergrande เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการตกต่ำในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ที่เริ่มมาตั้งแต่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในปี 2563 เป็นต้นมา

ยอดขายที่ลดลงและหนี้สินที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ ทั้งนี้ในระบบเศรษฐกิจจีนประมาณ ร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ มาจากบริการและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกิดจากการก่อสร้างและการขายอสังหาริมทรัพย์

การประท้วงของคนทำงานก่อสร้างมักไม่ได้เป็นผลมาจากด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลมาจากการล่วงละเมิดสิทธิแรงงานโดยบริษัทต่างๆ เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปีก่อนที่การประท้วงจะระเบิดขึ้น CLB ชี้ว่าการประท้วงในทุกวันนี้น่าจะเป็นอาฟเตอร์ช็อกของปัญหาทางการเงินก่อนหน้านี้ที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนประสบ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวช้า แต่การประท้วงในภาคการก่อสร้างจำนวนมากอาจยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปีต่อจากนี้

มีกรณีที่คนทำงานย้ายถิ่นจากเสฉวนประท้วงที่อาคารรัฐบาลท้องถิ่นในฉู่ฟู่ มณฑลซานตง เมื่อปลายเดือน มิ.ย. 2565 โดยเรียกร้องเงิน 2 ล้านหยวน ที่นายจ้างไม่ยอมจ่ายให้กับแรงงานพลัดถิ่นกลุ่มนี้มากกว่า 40 คน ค่าจ้างค้างจ่ายจำนวนนี้ นายจ้างเป็นหนี้พวกเขาตั้งแต่วันตรุษจีนในปี 2564 คนทำงานกล่าวว่าเนื่องจากยังไม่ได้ค่าจ้าง พวกเขาจึงไม่สามารถส่งเงินกลับบ้านให้ครอบครัวในเสฉวนได้ ซึ่งทำให้ลูกๆ ของพวกเขาบางคนไม่ได้ไปโรงเรียน

ในเดือน พ.ค. 2565 กลุ่มคนทำงานก่อสร้างได้จ้างทนายความและพยายามฟ้องร้องบริษัท Shandong Ruima Construction and Engineering ที่กระทำความผิดต่อพวกเขา คนทำงานได้จัดให้มีการสาธิตเล็กๆ ที่หน้าสำนักงานหรูของบริษัทที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมากับมือ และนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ด้วยความหวังว่าสื่อต่างๆ จะให้ความสนใจกับคดีความของพวกเขามากขึ้น

ในคำร้องโจทย์ซึ่งเป็นคนทำงานก่อสร้างระบุว่าพวกเขามาทำงานที่เมือง 'ชวีฟู่' อันเป็นบ้านเกิดของ 'ขงจื๊อ' "เพราะเราเชื่อว่าในบ้านเกิดของขงจื๊อ รัฐบาลจะปกครองให้คนสามัคคีกัน ผู้คนจะเรียบง่ายและซื่อสัตย์ ที่นี่พวกเขาไม่สามารถเป็นหนี้ได้ พวกเขาต้องจ่ายเงินให้กับคนทำงาน แต่พวกเราตกใจกับความเป็นจริงที่เราได้พบ"

การประท้วงของคนทำงานก่อสร้างจำนวนมาก ณ ปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่หมักหมมมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นการละเลยการบังคับใช้กฎหมายที่กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินให้คนทำงานเต็มจำนวนและตรงเวลา แม้ว่าในปี 2560 คณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ให้คำมั่นที่จะยุติการค้างชำระค่าจ้างให้กับคนทำงานภายในปี 2563 โดยมุ่งไปที่ปัญหาเฉพาะในภาคการก่อสร้างของท้องถิ่นต่างๆ แต่เป้าหมายนั้นไม่บรรลุผลในปี 2563 ที่ผ่านมา และยิ่งดูว่าจะไกลกว่าความเป็นจริงในปัจจุบัน

สหภาพแรงงานที่ทางการจีนให้การรับรอง ระบุว่าคนทำงานก่อสร้างต้องมีตัวแทนจากสหภาพแรงงาน รวมถึงการมุ่งเน้นที่จะแก้ปัญหาให้แรงงานพลัดถิ่นในอุตสาหกรรมนี้ แต่จากการสืบสวนของ CLB พบว่าในหลายสิบกรณี สหภาพแรงงานในท้องถิ่นไม่สามารถตอบสนองต่อคนทำงานก่อสร้างที่ขอเรียกร้องค่าจ้างค้างชำระและค่าชดเชยสำหรับการบาดเจ็บจากการทำงานได้ 

แต่อย่างไรก็ตาม การมีสหภาพแรงงานเข้ามาเกี่ยวข้องก็ยังจะพอช่วยเหลือคนทำงานได้บ้าง ตัวอย่างเช่นกรณีที่เมืองรื่อจ้าว มณฑลซานตง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการไกล่เกลี่ยการเรียกร้องค่าแรงหลังจากคนทำงานนัดหยุดงานในเดือน ม.ค. 2565 คนทำงานก่อสร้างกว่า 60 คน ได้รับค่าจ้างมากกว่า 2 ล้านหยวนที่นายจ้างค้างชำระแก่พวกเขา สหภาพแรงงานท้องถิ่นได้เข้าช่วยเหลือพวกเขาจนได้รับค่าจ้างทันเวลาเพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษจีนพร้อมครอบครัวเมื่อกลับบ้านเกิด ในกรณีนี้สหภาพแรงงานตั้งข้อสังเกตว่าช่องทางทางกฎหมายที่ล่าช้านั้นส่งผลเสียต่อคนทำงาน ส่วนการไกล่เกลี่ยกับบริษัทโดยตรงถือเป็นแนวทางในอุดมคติในการระงับข้อพิพาท (หากไกล่เกลี่ยได้สำเร็จ)

CLB ชี้ว่าอันที่จริง ตัวอย่างนี้ได้แสดงให้เห็นว่าคนทำงานอาจไม่ต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ข้อบังคับใหม่ของรัฐบาล หรือคำมั่นสัญญาที่ว่างเปล่าจากสหภาพแรงงาน (ที่ทางการให้การรับรอง) เพื่อแก้ไขปัญหาของพวกเขา คนทำงานก่อสร้างทั่วประเทศสามารถปกป้องผลประโยชน์ของตนเองได้ หากพวกเขาได้รับโอกาสให้สาธารณะรับรู้ปัญหาของพวกเขาในวงกว้าง และการมีสหภาพแรงงานที่ใช้งานได้จริงซึ่งในอุดมคติแล้วคนทำงานต้องเลือกตัวแทนของพวกเขาได้โดยตรง เหล่านี้อาจจะเป็นคำตอบในการแก้ไขปัญหาเรื้อรังเรื่องการค้างชำระค่าจ้างในอุตสาหกรรมการก่อสร้างของจีน.

 

ที่มา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net