'ประยุทธ์' จาก 'รัฐประหารทำไปก็ไม่จบ' 'ขอเวลาอีกไม่นาน' 'วันเดียวยังไม่อยากอยู่' 'มึงมาไล่ดูสิ' สู่วิกฤตครบ 8 ปี

ย้อนคำพูด 'ประยุทธ์' ตั้งแต่ 'รัฐประหารทำไปก็ไม่จบ' จนสุดท้ายก็ทำ และออกเพลงคืนความสุขฯ ที่มีท่อนสำคัญคือ 'ขอเวลาอีกไม่นาน' เมื่ออยู่ในอำนาจบางช่วงบอก 'วันเดียวยังไม่อยากอยู่' บางช่วงท้าทาย  'มึงมาไล่ดูสิ' สมัย 2 ยังเคยถามประชาชน 'เดือดร้อนอะไรมากหรือไม่ที่ผมเป็นนายกฯ' ก่อนวิกฤตครบ 8 ปี ที่จะถึง 24 ส.ค.นี้

ประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 8 ปี ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้งเนื่องจาก 24 ส.ค.ที่จะถึงนี้จะเป็นวันที่ถึงกำหนดหากตีความว่า ข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ นั้นนับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่หลังการรัฐประหาร เริ่มนับอย่างเป็นทางการวันที่ 24 ส.ค.2557  โดย รัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 158 วรรคสี่ บัญญัติประเด็นนี้ไว้ว่า "นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่” 

อย่างไรก็ตามท่าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ คนที่เคยแต่งเพลง 'คืนความสุข' ที่มีท่อนฮุคคือ "เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน" เป็นเพลงที่เปิดย้ำทุกช่องทางการสื่อสารภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ออกมาปฏิเสธตลอดว่าจะไม่มีการรัฐประหารรวมทั้งบอกด้วยว่า "ถ้าทหารปฏิวัติ(รัฐประหาร)อีก แก้ปัญหาผิดทาง ปัญหาอื่นๆ ก็จะเกิดขึ้นอีก"

แต่ 8 ปี ผ่านมาเมื่อเกิดกระแสกดดันรวมทั้งคำถามต่อสถานะของความเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ กลับตอบสั้นๆ ว่า “ให้ไปถามศาลรัฐธรรมนูญโน้น” หรือล่าสุด 17 ส.ค.หลังฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบแทน พล.อ.ประยุทธ์ ว่านายกรัฐมนตรียืนยันไม่ยุบสภา จะเดินหน้าทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ในเวลาที่เหลืออยู่ 

"ใครก็แล้วแต่บันทึกเอาไว้ด้วย ในประวัติศาสตร์ พูดแล้วต้องทำตามนั้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเมื่อ25 ส.ค.58 (ที่มา : โพสต์ทูเดย์) และ "ทหารนี้ตามหลักนิยมทางทหารต้องทำก่อนแล้วค่อยพูด ก็ดีกว่าบางคนพูดแล้วไม่ทำ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว เมื่อ 19 ก.ย. 57 ที่มา : ประชาไท)

เพื่อสนองต่อสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดไว้นั้น จึงขอย้อนทบทวนสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ เอง เคยพูดไว้ในวาระต่างๆ เกี่ยวกับการดำรงอยู่ในอำนาจดังนี้

อย่าเรียกร้องให้ทหารออกมา ทหารออกมาจะวุ่นวาย

28 ต.ค. 2556 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีความกังวลว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นว่า “สื่อบางสื่อใช้ไม่ได้เพราะเขียนข่าวแบ่งคนเป็นพวกๆ และเมื่อถึงเวลาคนพวกนี้เขาออกมาตีกัน สื่อต้องรับผิดชอบด้วย วันนี้หลายเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นม็อบ ชายแดน ภาคใต้ และปัญหาอื่นๆ ยังแก้ไม่ได้สักเรื่อง เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ได้รวดเร็ว แต่ดูเหมือนสื่อต้องการให้เหตุการณ์แรง ผมไม่เข้าใจ เหตุการณ์ในประเทศไทยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ไม่เคยนำมาเป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเสียชีวิต การที่ท่านจะมุ่งไปสู่เป้าหมายอะไร ต้องหาวิธีการที่ไม่รุนแรง หรือไม่กระทบคนอื่น ยืนยันว่าทหารทำหน้าที่จริงใจทุกปี ทุกเหตุการณ์ ทหารต้องทำงาน 100 เปอร์เซ็นต์ จะเอาทหารออกมา เตาะแตะไม่ได้ อย่าเรียกร้องให้ทหารออกมา ทหารออกมาจะวุ่นวาย อยากขอให้ทุกคนเข้าใจทหาร”

(ที่มา : 28 ต.ค.2556, คมชัดลึก, 'บิ๊กตู่'พร้อมสู้คดีปราบแดง-ไม่สน'นิรโทษฯ')

ทหารออกด้วยคำสั่งตามกฎหมาย ไม่ใช่นึกอยากจะออกก็ออก

4 พ.ย. 56 พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวถึงการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมถ้า และตอบคำถามประเด็นที่ว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อทหารจะออกมาหรือไม่ ว่า ถ้าไม่สั่งก็คงไม่ออก แต่ถ้าสั่งให้ทหารออกก็ต้องดูว่าให้ออกไปทำอะไร ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลเมื่อสั่งให้ทหารออก เราก็ออก รัฐบาลชุดที่แล้วสั่งเราก็ออก ถ้ารัฐบาลชุดนี้สั่งแล้วเราไม่ออกจะได้หรือไม่ ซึ่งก็ไม่ได้ ตนอยากจะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าที่ทหารออกมาทุกครั้งออกมาด้วยคำสั่งตามกฎหมาย ไม่ใช่นึกอยากจะออกก็ออก ถ้าออกมาโดยที่ไม่ฟังคำสั่ง ตนถามว่าเหตุการณ์จะจบหรือไม่ ซึ่งก็ไม่จบแล้วจะเรียกร้องให้ทหารออกมาทำไม ส่วนจะทำอย่างไรก็ไปคิดกันเอาเอง

(ที่มา, 4 พ.ย. 2556, ไทยรัฐออนไลน์, 'ประยุทธ์'ชี้ทหารออกมีบทเรียนวอนให้ถอยคนละก้าว)

รัฐประหารเป็นการแก้ปัญหาผิดทาง ปัญหาอื่นๆ จะเกิดอีก

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 56 พล.อ.ประยุทธ์ ออกมายืนยันว่า ไม่ว่าเหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส. ในวันที่ 9 ธ.ค. 56 จะเป็นอย่างไร ทหารก็จะไม่ออกมาปฏิวัติ พร้อมกล่าวด้วยว่า

"ถ้าทหารปฏิวัติ(รัฐประหาร)อีก แก้ปัญหาผิดทาง ปัญหาอื่นๆ ก็จะเกิดขึ้นอีก ประเทศไทยจะยืนอยู่ในสังคมโลกอย่างไร ทุกคนรักชาติแต่ไม่ยอมเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสันติ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

(ที่มา : 8 ธ.ค.2556, สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ), ผบ.ทบ.ยืนยันทหารไม่ปฏิวัติแม้การชุมนุมพรุ่งนี้จะออกมาแบบใด )

ข่าวลือก็เป็นข่าวที่ไม่จริง

7 ม.ค. 57 พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวันสถาปนากรมแพทย์ทหารบกครบรอบ 114 ปีถึงกระแสข่าวว่า การที่ทหารเคลื่อนย้ายกำลังในช่วงนี้เพื่อทำการปฏิวัติว่า ข่าวลือก็เป็นข่าวที่ไม่จริง ดังนั้น ไม่ต้องเชื่อ เพราะเรามีการเคลื่อนย้ายกำลังพลทุกปี และนโยบายในปี 2557 ของกองทัพบกเป็นการนำพากองทัพไปสู่ความทันสมัยในอนาคต ในปีนี้เป็นวาระพิเศษที่เรากำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เราจะนำยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ ที่ได้จัดซื้อจัดหามาให้ประชาชนในกรุงเทพฯ ได้เห็นว่า สิ่งที่เราได้จัดซื้อมามีสมรรถนะเพียงใด

(ที่มา : 7 ม.ค. 2557, ไทยรัฐออนไลน์, บิ๊กตู่ ย้ำข่าวปฏิวัติแค่ลือ เตือนระวังมือที่สาม)

ไม่สามารถทำอะไรนอกเหนือกฎเกณฑ์ได้

22 ม.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ว่า วันนี้จัดทหาร 40 กองร้อย จัดตั้งจุดตรวจร่วม 30 กว่าจุด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ จัดจุดตรวจของทหารอีกกว่า 20 จุดมีการปรับแผนการทำงานทุกวัน โดยมีกองทัพภาคที่ 1 เป็นคนรับผิดชอบในภาพการใช้กำลัง ตามแนวทางของ ศอ.รส. ทุกวันได้เสนอแผนจากกองทัพไปยัง ศอ.รส.ตลอด ที่ผ่านมาความขัดแย้งระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมีมาก ทหารจึงจำเป็นต้องไปเสริมในหลายจุด เราต้องลดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความรุนแรงเกิดขึ้น ทหารยังต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแล และเป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวม ทหารเป็นผู้สนับสนุน ในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานในการออกไปดูแลประชาชนทุกฝ่ายให้เกิดความปลอดภัย ไม่ใช่ว่า เรานิ่งนอนใจ ทหารทำทุกอย่าง แต่วันนี้เราต้องยึดถือกฎเกณฑ์ ไม่สามารถทำอะไรนอกเหนือกฎเกณฑ์ได้ เพราะกำลังพลถืออาวุธ ดังนั้นการทำอะไรต่างๆ ต้องระมัดระวัง รวมถึงการวางตัวของทหารทุกคน ซึ่งตนได้กำชับกำลังพลที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่เสมอ ทหารมีบทเรียนมากมาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

(ที่มา : 22 ม.ค. 2557, ผู้จัดการออนไลน์, “บิ๊กตู่” พอรู้มือบึ้ม-ขู่อย่าทำ ห่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉินรุนแรงลดหรือไม่ แนะพัฒนาใต้ทุกรูปแบบ)

กองทัพต้องยึดถือกฎหมายรัฐธรรมนูญ

24 ก.พ. 57 พล.อ.ประยุทธ์ ได้อ่านแถลงการณ์ชี้แจงจุดยืนของกองทัพบกต่อสถานการณ์ทางการเมืองผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5)  ตอนหนึ่งว่า สิ่งที่กองทัพดำเนินการในเวลานี้จำเป็นต้องยึดถือกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยการจัดกำลังออกมาดูแลประชาชนในพื้นที่ที่มีการประกาศกฎหมายพิเศษเป็นจำนวนมากตลอด 24 ชั่วโมง หากเราดำเนินการไม่ถูกวิธี หรือใช้กำลังทหารเต็มรูปแบบ เราจะแน่ใจได้หรือว่า สถานการณ์จะยุติลงได้โดยสงบ ขณะที่ทุกฝ่ายยังไม่พยายามลดเงื่อนไข ไม่พยายามพิสูจน์หาข้อเท็จจริง และยอมรับกฎกติกา กฎหมายของสังคม สิ่งที่น่ากระกระทำในเวลานี้คือ ให้ทุกฝ่ายได้ทำงานตามความรับผิดชอบของตนอย่างเต็มสติกำลังอย่างครบถ้วนด้วยความเป็นธรรม อำนวยความยุติธรรมได้อย่างถูกต้อง และสมบูรณ์โดยไม่ถูกกดดันโดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และหาทางลดความขัดแย้งให้ได้โดยเร็ว ประการสำคัญคือ การใช้กำลังทหารคลี่คลายสถานการณ์อย่างเต็มรูปแบบนั้น จะได้รับการยอมรับจากประชาชนที่อยู่นอกเหนือจากความขัดแย้งนี้หรือไม่ เรื่องนี้ต้องพิจารณาด้วยความระมัดระวัง ประกอบกับขณะนี้สภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจสังคมของประเทศไทยในสายตาของต่างชาติยังมีความสำคัญ สำหรับความขัดแย้งในครั้งนี้เป็นไปอย่างกว้างขวางมากกว่าปี 2553 เพราะในปี 53 เกิดจากคู่ขัดแย้งไม่มากนัก แต่ในปัจจุบันมีหลายกลุ่มและมีเงื่อนไขสลับซับซ้อน

(ที่มา : 24 ก.พ.2557, เดลินิวส์ เว็บ, “ประยุทธ์” แถลงจุดยืนกองทัพผ่านช่อง 5 จี้ยุติความรุนแรง)

จะไปเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยกติกาไหน

25 มี.ค. 57 พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหนึ่งในแคนดิเดตเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลางด้วยนั้น ว่า ต้องไปถามเขา เขาตั้งตนได้ไหม ถ้าตั้งไม่ได้แล้วจะมาถามตนทำไม แล้วถามจะไปเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยกติกาไหน และกติกาจะเกิดหรือไม่ตนก็ไม่รู้ แต่อย่าถามตนว่า ตนจะทำนั่นทำนี่หรือไม่ ตนไม่ตอบ เพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตน ไม่ใช่เรื่องของตน

(ที่มา : 25 มี.ค. 2557, กรุงเทพธุรกิจ, ผบ.ทบ.อัดกลับข่าวนายกฯคนกลาง)

จุดยืนกองทัพ ไม่เข้าข้างคนทำผิดกฎหมาย

9 เม.ย. 57 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยเรื่องรัฏฐาธิปัตย์ว่า "จุดยืนกองทัพในตอนนี้ คือ ไม่เข้าข้างคนทำผิดกฎหมาย และเรื่องรัฏฐาธิปัตย์ DSI ก็ดำเนินการไปแล้ว ผมไม่ได้เข้าข้างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ หรือใครทั้งนั้น เพราะทหารต้องทำหน้าที่ของทหาร ที่ทำอยู่ทุกวันไม่ใช่หน้าที่ แต่มาลงที่ทหารทั้งหมด จะรบกับศัตรูนอกประเทศก็ทหาร รบในประเทศก็จะใช้ทหาร เขียนไปเขียนมาให้ผมอยู่ข้างนั้นข้างนี้ ผมอยู่ข้างความถูกต้องเท่านั้น ภายใต้ความอดทนและทนอยู่ทุกวันนี้ ส่วนแนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ต้องไปถามรัฐบาล"

(ที่มา : 9 เม.ย. 2557, ประชาชาติธุรกิจ, ผบ.ทบ.ลั่นไม่เข้าข้าง "สุเทพ-ณัฐวุฒิ-จตุพร" ย้อนถาม "รัฏฐาธิปัตย์" คืออะไร ผิด กม.ต้องดำเนินคดี)

การรัฐประหารทำไปก็ไม่จบ

10 พ.ค. 57 พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากข้อความผ่านทางรายการ ลับ ลวง พลาง โดยยืนยันกองทัพตัองหนักแน่น จะทำตามใครเรียกร้องไม่ได้ ต้องใจเย็น ขอให้เชื่อมั่นในทหาร ซึ่งจะต้องเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประเทศชาติและประชาชนได้ในทุกโอกาส ให้เก็บทหารไว้เป็นที่พึ่งสุดท้าย เชื่อว่า การรัฐประหารทำไปก็ไม่จบ ขอให้เข้าใจทหาร เพราะทหารทำหรือไม่ทำก็โดนตำหนิ

(ที่มา : 10 พ.ค.2557, สำนักข่าวเจ้าพระยา, “ประยุทธ์” เผยรัฐประหารไปปัญหาก็ไม่จบ)

รัฐประหารเป็นคำถามที่ตอบไม่ได้

20 พ.ค. 57 พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะ ผอ.กอ.รส.  ตอบคำถามกรณีแนวคิดตั้งนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 หลังประกาศกฏอัยการศึก ว่า ที่ประชุมไม่ได้กล่าวถึง แต่ถ้าทำได้ก็ทำ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย แต่ทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนการรัฐประหารนั้น เป็นคำถามที่ตอบไม่ได้ สำหรับสถานะรัฐบาลและการรายงานให้รัฐบาลทราบหลังประกาศใช้กฎอัยการศึก ขณะนี้รัฐบาลอยู่ไหนไม่ทราบ แต่ถ้าเจอจะรายงานให้ทราบถึงสถานการณ์ อย่างไรก็ตามขอให้เป็นกำลังใจทหารตำรวจในการทำงานด้วย

(ที่มา : 20 พ.ค. 2557, มติชนออนไลน์, "ประยุทธ์"แจงเหตุใช้กฎอัยการศึก เตรียมนำคู่ขัดแย้งเจรจา ส่ง′อำพน′ถกฝ่ายการเมือง สั่งดีเอสไอหยุดฟ้อง)

จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ

22 พ.ค. 57 พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. พร้อมด้วยผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ออกประกาศการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557 เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ

“ตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศหลายๆ พื้นที่ เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัว จนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้น

เพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 เป็นต้นไป..”

(ที่มา : 22 พ.ค.2557, ประชาไท, ผบ.ทบ.ตั้ง 'คณะรักษาความสงบแห่งชาติ' ประกาศยึดอำนาจ!)

"เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน..."

6 มิ.ย. 57 ภายหลังรัฐประหาร เพลงที่ถูกเปิดแทบทุกช่องทางการสื่อสารคือเพลง "คืนความสุขให้ประเทศไทย"  ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผลงาน การนำเสนอของพล.อ.ประยุทธ์  ที่มอบให้ วิเชียร ตันติพิมลพันธ์ เป็นผู้เรียบเรียงประกอบทำนอง และขับร้องโดยกองดุริยางค์ กองทัพบก  โดยมีท่อนที่เป็นท่อนสำคัญและติดหูคือ "เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา เราจะทำอย่างซื่อตรง ขอแค่เธอจงไว้ใจและศรัทธา แผ่นดินจะดีในไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน

(ที่มา : 6 มิ.ย.2557, voicetv.co.th, บทเพลง'คืนความสุขให้ประเทศไทย'นี่คือคำสัญญาจากใจ'พลเอกประยุทธ์')

อาจจะต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยชั่วคราวไปก่อน

1 ส.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า "..ถ้ามีรัฐบาล มีรัฐธรรมนูญชั่วคราว มี ครม. ถือว่าเป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยบ้างวันนี้เรานำประชาธิปไตยแบบสากลมามาก อาจจะต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยชั่วคราวไปก่อน.."

(ที่มา : 1 ส.ค.2557, สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์, รายการ คืนความสุขให้คนในชาติ วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2557)

ไม่มีการกำหนดเวลาทำงาน เชื่อมั่นในความดีจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้

2 ก.ย.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เปิดเผยถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า จะไม่มีการกำหนดระยะเวลาการทำงานเพราะไม่ต้องการให้เงื่อนไขของเวลามาเป็นอุปสรรคส่วนตัวเชื่อมั่นในความดี ว่าความดีจะชนะความไม่ดี และจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้

(ที่มา : 2 ก.ย.2557, มติชนออนไลน์, "บิ๊กตู่" ลั่นครม.ไม่มีกำหนดระยะเวลาทำงาน เชื่อมั่นความดีจะฟันฝ่าอุปสรรคได้)

ผมไม่ได้แย่งอำนาจใครมา แต่เพราะเขาทำไม่ได้ ผมจึงมาทำแทน

15 ก.ย. 57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ารับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์ทหาร พ.ศ. 2558-2562 ของคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นปี 2556 ซึ่งจัดโดยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า

“ตอนนี้ทำงานมาถึงระยะที่ 2 จะวางพื้นฐานประเทศต่อไปให้ได้ ผมไม่ได้แย่งอำนาจใครมา แต่เพราะเขาทำไม่ได้ ผมจึงมาทำแทน และขอให้มั่นใจการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ทุกคนจงร่วมมือกันแก้ปัญหาประเทศต่อไปเพื่ออนาคตประเทศ”

(ที่มา : 15 ก.ย.2557, สำนักข่าวไทย, นายกฯ ขอความร่วมมือคนไทยใช้วิกฤติเป็นโอกาสสร้างชาติ)

เราเข้ามาด้วยวิถีทางของเรา จี้เราตรงนี้มันได้อะไรขึ้นมา

26 ก.ย.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, 26 ก.ย.57 นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยตอนหนึ่งว่า

“ท่านเตือนผม ผมก็รับฟัง แต่ผมเตือนท่าน ท่านไม่ฟังผม อย่างนี้ไม่ใช่ ต้องช่วยกัน ผมโกรธท่านไม่ได้ ท่านก็โกรธผมไม่ได้เหมือนกัน วันนี้เราเข้ามาด้วยวิถีทางของเราแบบนี้ ท่านก็จะจี้เราตรงนี้ ตรงโน้นอยู่ตลอดเวลา แล้วมันได้อะไรขึ้นมา มีอะไรดีขึ้นมาไหม ถ้าเป็นอย่างที่ท่านต้องการ จะเป็นไปได้ไหม คนส่วนใหญ่เขาก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นผมว่าต้องขอร้องอีกครั้ง”

(ที่มา : 26 ก.ย. 2557, มติชนออนไลน์, บิ๊กตู่ ตอกนักวิชาการ ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่เลือกตั้ง ทำไมท่านไม่สอนว่านักการเมือง ต้องทำตัวอย่างไร!)

ไม่ใช่ผมดีใจผมเป็นนายก แทนที่ผมจะได้พักผ่อน

26 ก.ย. 57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. กล่าว "ผมยืนยันว่าพวกเราตั้งใจในการทำงาน ทุกวันไม่ได้สบายนะ ในเมื่อเราบอกว่าเราไม่ต้องการอะไรเลย แล้วมันจะทำไปทำไม ทำไม ไม่เห็นในความเสียสละของพวกเราบ้าง เราเสียสละนะ ไม่ใช่ผมดีใจผมเป็นนายกนี่ เท่เหรอ ไม่ไม่ใช่อะ แทนที่ผมจะได้พักผ่อน ผมต้องมาทำงาน"

(ที่มา : 26 ก.ย. 2557, matichon tv, ประยุทธ์ ตอบเรื่อง 60 นักวิชาการกับเสรีภาพทางวิชาการ 23 ก.ย.57)

อยากจะลาออกทุกวัน

15 ต.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ เคยกล่าวว่า “ผมพร้อมจะลาออก อยากจะลาออกทุกวัน แต่เห็นประชาชนเดือดร้อนทนไม่ได้ และไม่ได้อยากอยู่เกินแม้แต่วันเดียว.." 

(ที่มา : ข่าวสดออนไลน์)

วันเดียวยังไม่อยากอยู่เลย

หากย้อนกลับไป ช่วงปี 2558 เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการสืบทอดอำนาจจากฝ่ายที่หลายฝ่ายมองว่าเคยสนับสนุน คสช. อย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ตอบโต้ว่า "ขอเรียนท่านอภิสิทธิ์เลยว่า ผมไม่ต้องการที่จะสืบทอดอำนาจอยู่แล้ว ขอให้บอกกับพวกเขาเลยว่าผมไม่ต้องการ วันเดียวยังไม่อยากอยู่เลย.."

(ที่มา : ประชาไท)

ขอแค่ 5 ปี แค่นี้ 

22 เม.ย.59 ในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ เฉพาะกิจ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย 22 เม.ย. 59 เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า "ก็ขอแค่ 5 ปี แค่นี้ แล้วท่านจะทำอะไรขอท่านไป ผมคิดว่า 5 ปีนี่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมาก ถ้าทุกคนร่วมมือ"

(ที่มา : ประชาไท)

มึงมาไล่ดูสิ

1 ก.พ.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงท้ายของการแถลงผลงาน 4 ปีรัฐบาลตอนท้ายว่า “อย่าไปไล่ล่ากันมากนัก พอไล่คนนี้แล้วลาออก แล้วเดี๋ยวมาไล่นายกฯออก ก็กฎหมายว่าอย่างนี้ มึงมาไล่ดูสิ ไล่ให้ได้สิ ผมไม่ท้าทาย แต่ไม่ออก การที่พรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แพ้การเลือกตั้งปี 2554 ในการแข่งกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำไมแพ้ล่ะ เป็นรัฐบาลหรือเปล่าทำไมแพ้ แสดงว่าการเป็นรัฐบาลไม่น่าจะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบขึ้นมาแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับรับบาลมีผลงานหรือไม่ หากไม่มีประชาชนก็ไม่เลือกอยู่แล้ว ก็ไปหวังในสิ่งใหม่ๆ ที่เขาพูดออกมาจริงบ้างไม่จริงบ้าง นั่นคือการเมืองไทย”

(ที่มา : มติชนออนไลน์)

พวกเราเดือดร้อนอะไรมากหรือไม่ที่ผมเป็นนายกฯ

13 ก.ย.62 กล่าวขณะเดินพบปะพูดคุยกับประชาชนที่จ.นครศรีธรรมราช ตอนหนึ่งว่า “เห็นนายกฯคนนี้แล้วเป็นอย่างไร ใช้ได้มั้ย ส่วนเรื่องหล่อเอาไว้ก่อน ถามว่าทำงานใช้ได้หรือไม่ดีกว่า และพวกเราเดือดร้อนอะไรมากหรือไม่ที่ผมเป็นนายกฯ ไม่เดือดร้อนใช่ไหม รายได้ก็ยังดีอยู่ แต่ก็ยังมีปัญหามีบางคนที่ยังออกมาพูดไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อีอีซี หรือเรื่องของรายได้ ก็ว่ากันไป”

(ที่มา : ข่าวสดออนไลน์)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท