Skip to main content
sharethis

วงเสวนา 'วิเคราะห์การเมืองไทยหลังเงื่อนไข 8 ปีนายกฯ' แนะ 'ประยุทธ์' หยุดดันทุรัง ผูกขาดอำนาจ ชี้เดินหน้าต่อทุกข์หนักกว่าเดิม ย้ำหากศาลสั่งยุติต้องหยุดทำหน้าที่ทันที ห้ามนั่งรักษาการ 

20 ส.ค. 2565 มติชนออนไลน์ รายงานว่าที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และเครือข่าย 99 พลเมือง จัดเวทีสาธารณะ “วิเคราะห์การเมืองไทยหลังเงื่อนไข 8 ปีนายกฯ และชะตากรรม พล.อ.ประยุทธ์” โดย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร.) อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า

ทางออกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ใช่มีแค่ 3 ทางแต่ยังมีทางเลือกที่ 4 คือ โดนประชาชนไล่และขอให้คิดด้วยว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ เพราะกระแสของประชาชนเข้าใจว่าส่วนหนึ่งอึดอัดใจกับการบริหารประเทศที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับประชาชนได้ และการคงอยู่ในตำแหน่งที่นานเป็นการคงอยู่ในตำแหน่ง โดยใช้เทคนิคทางการเมือง

ดังนั้นการคงอยู่ 8 ปีเป็นการผูกขาดอำนาจที่ไม่ใช่วิธีในรัฐสภาปกติและรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนขึ้นมา เพื่อบอกว่าในกรณีปกติ แม้ว่าท่านจะมาจากการเลือกตั้งก็ตาม แต่จะอยู่ต่อ 2 สมัยติดต่อกันไม่ได้ และจะอยู่ 8 ปีติดต่อหรือไม่ติดต่อกันก็ไม่ได้ถ้ามาจากการเลือกตั้งและ 8 ปีของท่านไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทั้งหมด 4 ปีครึ่งมาจากการทำรัฐประหาร อีก 3 ปีกว่ามาจากการฉ้อฉลในอำนาจ ขอแนะนำว่าท่านควรปล่อยวางในเรื่องนี้ หากไม่ปล่อยวางจะทุกข์หนักมากกว่านี้

นายสมชัยกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเข้าชื่อกันเพื่อให้ประธานรัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวันไหนไม่รู้ แต่จะยื่นในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งวันที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเป็นจุดหนึ่งที่ต้องจับตาดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งอย่างไร เพราะการรับได้ 2 อย่างคือ 1.รับแล้ววินิจฉัย 2.รับแล้วสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพราะถ้าหากอยู่ต่ออาจจะเป็นผลเสียต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

ฉะนั้นจุดที่จะต้องดูคือจุดที่ 1.ที่จะต้องดูคือเมื่อศาลรับแล้วศาลจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ถ้าสั่งหยุด จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แบบไม่มีเงื่อนไข จะนั่งรักษาการหรือนั่งเป็นประธานอะไรไม่ได้ 2.กรณีที่ศาลยังไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เชื่อว่าศาลจะใช้เวลาไม่นาน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นทางกฎหมาย ไม่ประเด็นที่ต้องแสวงหาข้อมูลหลักฐาน พยานมาพิสูจน์อะไรอีกเป็นเพียงข้อกฎหมาย เชื่อว่าความรู้ความสามารถของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แค่อ่านกฎหมายมาตรา 158 วรรคสี่ เพื่อบอกว่าอะไรเป็นอะไร ใช่หรือไม่ใช่วินิจฉัยได้ทันที เชื่อว่าศาลจะใช้เวลาไม่นาน ทั้งนี้ หากมีผลออกมาให้ทำหน้าที่ต่อ เชื่อว่าจะเกิดความวุ่นวายแน่นอน

นายสมชัยกล่าวอีกว่า แต่หากสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ศาลจะสั่งวันไหนก็แล้วแต่ ต้องถอยกลับมา ณ วันที่ 24 ส.ค. นี้ พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เบี้ยประชุม ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากตัวท่านจะต้องคืนหลวงทั้งหมด

ทั้งนี้ ฉากทัศน์ภาพที่เลวร้ายที่สุด คือ ไม่ลง ไม่ออกจากตำแหน่งรอให้ศาลตัดสิน หรือไปล็อบบี้ศาลให้ตนเองอยู่ในอำนาจได้นานที่สุด เชื่อว่าความขัดแย้งในบ้านเมืองจะขยายตัวประชาชนจะไม่พอใจเพิ่มมากขึ้น

ด้าน นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาเอกสาขาการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า วันที่ 23 สิงหาคมนี้ ขอให้จับตาดู มี 3 ทางเลือกคือ 1.ลาออกจากตำแหน่ง 2.ยุบสภา และ 3.คือรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ทางออกที่ดีของ พล.อ.ประยุทธ์ และที่ดีต่อประเทศชาติ สถานการณ์การเมืองในประเทศ คือในวันที่ 23 ส.ค. นี้ นายกฯควรออกรายการทีวีพูล ไปนั่งประกาศอำลาประชาชนว่าขอยุติการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และขอให้ประธานรัฐสภาดำเนินการเลือกนายกฯ คนใหม่มาตามกระบวนการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net