Skip to main content
sharethis

มติวุฒิสภารับ ร่างพ.ร.บ.กบข. ที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบแล้วไว้พิจารณา รับโอนเงินกองทุนอื่น และเพิ่มทางเลือกให้สมาชิก กบข. นำเงินไปลงทุนหรือสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นให้กับสมาชิก รวมทั้งสามารถเพิ่มเงินสะสมได้ถึงร้อยละ 30 หวังเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองยามเกษียณอายุราชการ

22 ส.ค.2565 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  รายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ.กบข.) ในวาระที่ 1 ซึ่งเป็นการพิจารณาร่างกฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้วโดยมี อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้แทนจากกรมบัญชีกลางและคณะกรรมการกองทุน กบข. ร่วมประชุมชี้แจงถึงความสำคัญของกฎหมาย เพื่อให้การบริหารงานของกองทุนฯมีความคล่องตัว และสอดคล้องกับสภาวะการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

มีสาระสำคัญอาทิ กำหนดให้กองทุน กบข.สามารถรับโอนเงินของผู้ที่เคยเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนอื่นที่จัดขึ้นตามกฎหมายและมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีออกจากงานหรือชราภาพมายังกองทุนกบข. ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาเข้ารับราชการสามารถเริ่มสะสมเงินกับ กบข.และได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอย่างต่อเนื่อง แก้ไขเพิ่มเติมอัตราการส่งเงินสะสมของสมาชิกโดยสมัครใจให้ส่งได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินเดือน (จากเดิมไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินเดือน) แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารเงินของสมาชิกที่สมาชิกภาพสิ้นสุดลงแบ่งเป็นกรณีสมาชิกสิ้นสุดสมาชิกภาพแต่ยังไม่ขอรับเงินคืนหรือขอทยอยรับเงินคืนสมาชิกมีสิทธิเลือกแผนการลงทุนที่ กบข. จัดให้ และกรณีที่ กบข. บริหารเงินให้สมาชิกต่อและต่อมาสมาชิกเสียชีวิต ผู้มีสิทธิรับมรดกยังไม่ยื่นคำขอรับเงิน ให้ กบข.บริหารเงินนั้นต่อไปได้ ตามแผนการลงทุนที่สมาชิกได้เลือกไว้จนกว่าทายาทจะยื่นคำขอรับเงิน รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมให้ กบข.จัดแผนการลงทุนที่หลากหลาย โดยให้สมาชิกมีสิทธิเลือกแผนการลงทุนได้ซึ่งแต่ละแผนอาจลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงแตกต่างกันได้

อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมาย กบข.ที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบส่งมายังวุฒิสภานี้เป็นการนำเนื้อหาที่คณะรัฐมนตรีเสนอตามประเด็นดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับที่ พิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กับคณะเป็นผู้เสนอ  ซึ่งปรากฏในร่างกฎหมายมาตรา 5 ที่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 43/1 เกี่ยวกับการให้สิทธิสมาชิกขอรับเงินจากกองทุนไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนเงินสะสม สมทบ และผลประโยชน์ตอบแทน เพื่อใช้ในการจัดหาที่อยู่อาศัยซึ่งรัฐบาลยังคงยืนยันไม่เห็นด้วยกับประเด็นดังกล่าว

เมื่อที่ประชุมวุฒิสภารับฟังการชี้แจงหลักการสำคัญของกฎหมายแล้วสมาชิกให้ความสนใจอภิปราย และแสดงความเห็นด้วยกับหลายประเด็นของร่างกฎหมาย อาทิ สถิต ลิ่มพงศ์พันธุ์ ถวิล เปลี่ยนศรี  ที่เห็นว่าการเพิ่มทางเลือกให้สมาชิก กบข. นำเงินไปลงทุนหรือสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นให้กับสมาชิกจะเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองในยามเกษียณอายุราชการได้ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ต้องการทราบถึงความชัดเจนในการลงทุน และความเสี่ยงตามที่ร่างกฎหมายกำหนดให้ลงทุนได้ในเงินฝากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)หรือธนาคารรัฐวิสาหกิจ หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ออก พันธบัตรรัฐบาลตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตร ธปท. ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณเป็นผู้ออกส่วนประเด็นที่จะเปิดให้สมาชิก สามารถเบิกเงินไปจัดหาที่อยู่อาศัยนั้น พล.อ.ต.เฉลิมชัยเครืองาม มองว่าจะไม่เกิดเสถียรภาพต่อ กบข. เนื่องจากเงินจำนวนหลายแสนล้านบาทจะต้องถูกเบิกออกจากกองทุนหากเห็นชอบกับประเด็นดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวุฒิสภาพิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบด้วยกับหลักการของร่างกฎหมายกบข.ที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอมาให้พิจารณาด้วยเสียง 176 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 5เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง จากผู้ร่วมประชุมจำนวน 184 คน พร้อมกำหนดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯทำหน้าที่พิจารณาต่อจำนวน 21 คน เปิดให้สมาชิกแปรญัตติใน 7 วัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net