ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารบริษัทในสหรัฐฯ 700 คน พบ 52% ได้ระงับการจ้างงาน และบริษัทมากกว่า 40% ยกเลิกการรับสมัครพนักงาน นอกจากนี้ 50% เริ่มเลิกจ้างพนักงานหรือเตรียมลดจำนวนพนักงานแล้ว
ที่มาภาพประกอบ: RosZie (Pixabay License)
27 ส.ค. 2565 ผลสำรวจครั้งใหม่ระบุว่าบริษัทในสหรัฐฯ มากกว่าครึ่งกำลังวางแผนที่จะเลิกจ้างพนักงานเนื่องจากต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
การสำรวจของ PwC ซึ่งสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารบริษัทจำนวน 700 คน ทั่วสหรัฐอเมริกา พบว่า ร้อยละ 52 ของบริษัทต่างๆ ได้ประกาศระงับการจ้างงานแล้ว, ร้อยละ 40 ได้ยกเลิกการรับสมัครพนักงานใหม่หรือยกเลิกการเซ็นสัญญาจ้างงานใหม่, และประมาณ ร้อยละ 50 ได้เริ่มเลิกจ้างพนักงานหรือกำลังเตรียมที่จะลดจำนวนพนักงาน
ตัวเลขที่น่าตกใจนี้ตอกย้ำว่าความรู้สึกที่เปลี่ยนไปอย่างมากจากปีที่แล้ว (2564) ที่เหล่าบรรดานายจ้างคร่ำครวญถึงการสูญเสียพนักงานท่ามกลางปรากฎการณ์ "การลาออกครั้งใหญ่" (Great Resignation) เมื่อพนักงานต่างลาออกจากบริษัทขนานใหญ่
อย่างไรก็ตาม บริษัทต่างๆ ยังคงพยายามรักษาพนักงานที่เหลือเอาไว้ด้วยเช่นกัน โดย 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าได้เพิ่มค่าจ้าง ขยายผลประโยชน์ หรืออนุญาตให้มีตารางการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับพนักงานที่เหลือ บางบริษัทยอมรับการทำงานทางไกลแบบเต็มเวลาเพื่อรักษาพนักงานเอาไว้
ผู้ตอบแบบสำรวจ ร้อยละ 70 ระบุว่าพวกเขากำลังเพิ่มทางเลือกและความยืดหยุ่นในการทำงานทางไกล และ 61% ของนายจ้างกล่าวว่าพวกเขาต้องการให้พนักงานที่มีบทบาทในการทำงานร่วมกันทำงานในสำนักงานมากขึ้น บริษัทสามสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ใช้จ่ายเงินมากขึ้นเพื่อเพิ่มรอยเท้าอสังหาริมทรัพย์
แม้อัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ แต่บริษัทขนาดใหญ่กำลังเตรียมพร้อมรับมือการหดตัวทางเศรษฐกิจ และในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง Walmart, Apple และ Oracle ได้ประกาศลดจำนวนพนักงานลงแล้ว
“บริษัทต่าง ๆ กำลังเล่นรุกและตั้งรับด้วยกลยุทธ์ของพวกเขา” ภูชาน เซธี ผู้เขียนรายงานของ PwC กล่าว
เซธีเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการกับสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน เช่น การเลิกจ้างพนักงานหรือการยกเลิกข้อเสนอควรกระทำอย่างมืออาชีพ และไม่ควรลดค่าใช้จ่ายที่จะทำให้เกิดการทำลายชื่อเสียงของบริษัท
“ผู้คนมีความทรงจำที่ยาวนาน และโซเชียลมีเดียก็มีบทบาทมากขึ้นในตอนนี้” เซธีกล่าว