Skip to main content
sharethis

วันที่ 24 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00 น. เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายและนโยบายด้านป่าไม้ รวมตัวกันที่ประตูท่าแพเพื่อเคลื่อนขบวนไปตั้งเวทีคู่ขนานที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน ระหว่างทางตำรวจปิดถนนและตั้งแนวแผงเหล็กตั้งแต่เชิงสะพานแม่ข่า ถ.ลอยเคราะห์ เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมสามารถเคลื่อนผ่านต่อไปถึง ถ.ช้างคลาน ที่ตั้งโรงแรมเลอเมอริเดียนได้

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำระดับรัฐมนตรีเอเปคด้านสิ่งแวดล้อม

ข้อมูลจาก iLaw ระบุว่า เวลา 10.28 น. ผู้ชุมนุมพยายามจะฝ่าแนวสิ่งกีดขวางบริเวณเชิงสะพานแม่ข่าเข้าไปทีละน้อย แต่ตำรวจไม่ยินยอม ขณะนี้ขบวนของผู้ชุมนุมประชิดแนวตำรวจ หลังจากนั้นมีความพยายามจะขยับแนวตำรวจเข้าใกล้โรงแรมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 10.46 น. ตำรวจเริ่มคุมตัวผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านหน้าแนวอย่างน้อย 4 คน ผู้ชุมนุมย้ำขอให้ตำรวจเปิดการเจรจาและขอให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกคุมตัวไปด้านหลังแนวรถตู้ออกมา มี 1 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างที่มีการคุมตัว

เวลา 11.21 น. รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงมาที่พื้นที่ชุมนุม ผู้ชุมนุมขอให้รองปลัดฯสั่งให้ตำรวจเปิดทางและย้ำว่า พี่น้องจะไม่มีใครเข้าไปในโรงแรม  พชรถามผู้ชุมนุมว่า ลูกหลานใครต้องออกจากโรงเรียนเพราะพ่อแม่โดนยึดที่บ้างครับ? “เคย” เสียงของพี่น้องหลายคนที่ตอบรับว่า มีประสบการณ์เช่นนั้น พวกเขาถูกยึดที่ดินทำกินและไม่มีเงินในการดูแลครอบครัว ท้ายสุดยังไม่มีการเปิดทางทำให้ผู้ชุมนุมปักหลักตั้งเวทีคู่ขนานที่หน้าแนวตำรวจ

เวลา 11.51 น. หลังผู้ชุมนุมประกาศปักหลักปราศรัยเวทีคู่ขนานที่หน้าแนวกั้นของตำรวจ ผู้ชุมนุมทราบข่าวว่า วราวุธ ศิลปอาชาจะเดินทางออกจากโรงแรมในเวลา 12.00 น. ผู้ชุมนุมมีความพยายามจะเคลื่อนขบวนไปที่ด้านหน้าโรงแรมอีกครั้งเพื่อเจอหน้าก่อน แต่ตำรวจไม่ยินยอมเปิดแนวให้ ขณะนี้ไม่มีแผงเหล็กแล้วตำรวจแนวหน้าสุดเป็นพลถือโล่ ตัวแทนประกาศให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านหน้านั่งลงก่อน เวลา 11.55 น. สถานการณ์คลี่คลาย จากนั้นพี่น้องชาติพันธุ์กะเหรี่ยงทำพิธีตามวิถี มีการนำภาพของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชามาใช้ในการทำพิธีด้วย “สิ่งไหนที่ทำไม่ดีไว้มันก็จะตอบสนอง เราไม่ได้สาปแช่ง แต่เราขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงช่วยดลบันดาลให้ปัญหาของพวกเราเป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก” ตัวแทนกล่าว

เวลาประมาณ 12.20 น. สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) เรื่อง ผู้นำเอเปคจะฟังเสียงประชาชน หรือจะร่วมมือรัฐไทยละเมิดสิทธิผู้คนในเขตป่า โดยสรุปว่า ระหว่างการประชุมเอเปค มีประชาชนที่ต้องถูกกดขี่จากนโยบายทวงคืนผืนป่า เป็นจำเลยว่า เป็นเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทำให้เกิดภัยพิบัติ มีประชาชนจำนวนมากต้องสูญเสียที่ดิน มีชาวชาติพันธุ์ต้องถูกฆาตกรรม อุ้มหายอยู่ในอุทยานแห่งชาติเพียงเพราะเขาออกมาเรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกินของบรรพชน

“ท่านผู้นำทั้งหลาย เราขอประกาศให้ท่านทราบว่า พวกเรามีเลือดเนื้อ มีชีวิต มีจิตใจ เราคือประชาชนที่มีความเป็นคนไม่ต่างไปจากท่านผู้มีอำนาจทั้งหลาย เรามาเพื่อถามหาจิตสำนึก ถามหามโนธรรม มาเพื่อบอกว่ารัฐบาลไทยไม่เคยเป็นฮีโร่ในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม มีแต่ประชาชนทั้งนั้นที่ช่วยกันดูแลทรัพยากร และหากท่านไม่รับฟังเสียงของพวกเรา ยังคงเชื่อคำลวงและเดินรอยตามนโยบายขายฝันของรัฐบาลไทย จงรู้ไว้เถิดว่าท่านทั้งหลาย คือผู้มีส่วนรู้เห็นในการเข่นฆ่าและละเมิดสิทธิมนุษยชนของพวกเรา” 

#เอเปคป่าไม้ #เชียงใหม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net