ส.ส.จังหวัดภาคเหนือ พรรคเพื่อไทย' เรียกร้องรัฐบาล เยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ทบทวนราคาผลผลิตต่ำเกณฑ์

25 ส.ค. 2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานว่า ที่ชั้น 1 อาคารรัฐสภาเกียกกาย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าในวันนี้ ส.ส.ในเขตจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ ของพรรคเพื่อไทย ได้แถลงการณ์กรณีที่ลำไยราคาตกต่ำและออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร เป็นการเร่งด่วน ส.ส.ภาคเหนือพรรคเพื่อไทย เรียกร้องรัฐบาลให้ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยตั้งแต่ต้นฤดูการผลิตจนถึงช่วงปลายฤดู ก็ยังไม่เห็นมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยอย่างครอบคลุม ตรงกับสภาพปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนลำไย

วิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาล ช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งแม้ขณะนี้ใกล้จะหมดฤดูกาลลำไยแล้ว แต่อย่าลืมว่ามีลำใยนอกฤดูกาลรัฐบาลก็ต้องดูแลประชาชนด้วย การที่รัฐบาลปล่อยผ่านโดยไม่ให้ความสนใจและใส่ใจกับเกษตรกร ปล่อยให้ชาวสวนลำไยเหมือนถูกทิ้งขว้างผลผลิตที่ได้มาก็เหมือนโดนทิ้งขว้างเช่นกัน สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ แทนที่จะแปรให้เป็นเม็ดเงินเข้าประเทศ และแปรเป็นเงินพัฒนาประเทศ จะได้ประโยชน์ต่อประชาชนมวลรวม

สงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน น กล่าวเพิ่มว่า ที่ผ่านมานี้ ไม่ได้มีการเข้าไปช่วยเหลือ เกษตรกรลำไย ดังในรัฐบาลในสมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรเป็นอันมาก ปล่อยให้พ่อค้าคนกลางแทรกแซงราคา ทำราคาลำไยแทบไม่มีมูลค่า ตนอยากจะให้รัฐบาลโดยเฉพาะ กระทรวงพาณิชย์ เข้ามาให้การช่วยเหลือเกษตรกรลำไยเป็นการด่วน

รังสรรค์ มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน กล่าวต่อเพิ่มว่า จนอยากจะให้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะที่มารักษาการนายกรัฐมนตรี จากที่ท่านได้ลงพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ต้องเห็นอยู่แล้วว่าเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรลำไยได้รับความเดือดร้อนเพียงใด ตนอยากจะให้ พล.อ.ประวิตร แสดงผลงานสักครั้ง ในฐานะที่มารักษาการนายกฯ เพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ผู้จัดการออนไลน์รายงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ชาวสวนลำไยหลายจังหวัดภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ที่ถือเป็นแหล่งผลิตใหญ่ กำลังประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ สวนทางกับค่าจ้างคนขึ้นเก็บลำไย ที่สูงถึงวันละ 500 บาท ขณะที่ต้นทุนค่าปุ๋ยขยับขึ้นกว่า 1-2 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ทำให้ขายผลผลิตแล้วแทบไม่เหลือเงินเก็บ จนบางรายตัดสินใจขายทั้งต้นให้พ่อค้าตัดส่งโรงอบลำไยทำฟืนแทน

ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมานั้น วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ติดตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ที่ จ.ลำพูน และเชียงใหม่ ตามนโยบายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับสมาคมผู้ผลิตลำไยอบแห้งภาคเหนือ และสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทยเข้าไปรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกรในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน น่าน พะเยา และแพร่ ทำให้ราคาลำไยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกษตรกรพอใจที่ขายผลผลิตได้คุ้มกับต้นทุน

สถานการณ์ราคาลำไยล่าสุดปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยเกรดสดช่อส่งออก AA ราคาปีนี้อยู่ที่ 28-35 บาท สูงกว่าปีที่แล้ว เกรด A อยู่ที่ 25-35 บาท สูงกว่าปีที่แล้ว เกรดมัดปุ๊กใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ราคาสูงสุดอยู่ที่ 20 บาท มัดปุ๊ก B อยู่ที่ 15 บาท ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว สำหรับเกรดรูดร่วง ตอนนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตเข้าสู่ช่วงกลางค่อนปลาย ก็จะมีผลผลิตส่วนหนึ่งที่อาจจะต้องรูดออกมา ราคาในช่วงนี้อยู่ในเกณฑ์ที่เกรดรูดร่วง AA สูงกว่าปีที่แล้ว 17-18 บาทแล้วในบางพื้นที่

“ได้รับทราบจากนายกสมาคมฯ ว่าราคาลำไยรูดร่วง AA ปรับขึ้นอีก 1 บาท ถือเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไย ในหลายพื้นที่มีราคาดีขึ้น หรือไม่ก็ทรงตัวจะไม่ต่ำกว่านี้ และทางสมาคมฯ กับสมาชิกยังได้ยืนยันที่จะช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป และมั่นใจว่าราคาจะไม่ต่ำไปกว่านี้” วัฒนศักย์กล่าว