ช่วงเช้าวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ชาวม้งในพื้นที่ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ กว่า 500 คน รวมตัวปิดทางเข้าออกพื้นที่ หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้กว่า 300 นาย นำกำลังเข้ารื้อถอนบ้านเรือนและโฮมสเตย์ของชาวม้งในพื้นที่ เบื้องต้นประชาชนในพื้นที่ได้มีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำให้ยังไม่มีการรื้อถอนเกิดขึ้น แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับการรื้อถอนในอนาคต ในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค. 2565) ชาวม้งในพื้นที่จึงจะเดินทางลงมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ศาลากลาง

30 ส.ค. 2565 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ กว่า 500 คน รวมตัวปิดทางเข้าออกพื้นที่ม่อนแจ่ม หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้กว่า 300 นาย นำกำลังเตรียมเข้ารื้อถอนบ้านเรือนและโฮมสเตย์ของชาวม้งในพื้นที่ ตามคำสั่งของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 A ขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์ม้งที่มายืนยันว่าตนเองเป็นชุมชนดั้งเดิมที่ตั้งรกรากในพื้นที่ม่อนแจ่มมานานกว่าร้อยปี

โดยในส่วนของการดำเนินการรื้อถอนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าประกอบด้วย หลังสวนโฮมสเตย์ ม่อนดาวเรือง ม่อนดูดาว ม่อนแสงระวี และ แสงเหนือแคมปิ้ง ซึ่งทั้งหมดถูดตรวจสอบว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ เนื่องจากมีการใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์และมีการเปลี่ยนมือให้กับนายทุนหรือนอมินีเข้ามาประกอบกิจการแทน

สำนักข่าวองศาเหนือ รายงานว่า กลุ่มชาติพันธุ์ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ก็ยืนยันว่า ชุมชนของตนมีการตั้งรกรากมาอย่างยาวนานในพื้นที่ม่อนแจ่มมากว่า 100 ปี “ดอยม่อนแจ่มเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของชนชาติพันธุ์ ม้ง ซึ่งบรรพบุรุษได้อพยพเข้ามาตั้งรกรากเมื่อประมาณ พ.ศ.2447 และมีร่องรอยการตั้งถิ่นฐานของหมู่บ้านเป็นภาพถ่ายทางอากาศของกรมเเผนที่ทหารยุดแรกๆที่มีการเก็บภาพถ่ายทางอากาศ ในปี2495 และมีการทำประโยชน์ในพื้นที่เรื่อยมา”  

เฟซบุ๊กเพจ “วิสาหกิจชุมชนม่อนแจ่ม” รายงานว่า การเจรจากันของผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าป่าไม้ที่ยืดเยื้อต่อเนื่องจนถึงช่วงบ่าย (วันที่ 29 ส.ค.2565) และยังคงไม่สามารถบรรลุข้อสรุปชัดเจน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะถอยกำลังกลับไป เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับมากจากผู้ชุมนุมกลับไปบอกกับต้นสังกัด พร้อมแจ้งผู้ชุมนุมว่าจะกลับเข้ามาดำเนินการใหม่ ทั้งนี้ หากไม่สามารถเจรจากับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้ยุติการรื้อถอนได้ กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ม่อนแจ่ม จะเดินทางไปยืนเรื่องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ศาลากลาง ในวันพุธ 31 ส.ค. 2565

ต่อมา วันที่ 30 ส.ค.2565 สำนักข่าว ThaiPBS รายงานว่า วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้ารื้อรีสอร์ตที่ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจว่า เป็นสิ่งที่ดำเนินการมาตลอดในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา และยืนยันว่าทำตามกรอบของกฎหมาย ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งในเบื้องต้น โครงการหลวงขอให้ดำเนินการ

ทั้งนี้การเข้าไปอยู่ที่ม่อนแจ่มนั้นมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเดิมและบุคคลที่เข้ามาอยู่ใหม่ ดังนั้นจึงต้องดูวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ดิน พร้อมกับย้ำว่า ต้องทำกฎหมาย ตามระเบียบ

ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากประชาชนยังไม่พอยังไง วราวุธ ระบุว่า ต้องให้ฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ไปพูดคุยเจรจากันก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาปะทะกันในพื้นที่

และย้ำเจ้าหน้าที่ทุกคนว่า อย่าให้เกิดการเถียงกัน และหากมีอะไรเกิดขึ้นให้ถอยออกมา และใช้วิธีเจรจา ทำความเข้าใจกับประชาชน ยืนยันว่าต้องไม่ให้เจ้าหน้าที่เดือดร้อน แต่หากไม่เข้าไปดำเนินการจะถูกมองว่า ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องเข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายด้วย