Skip to main content
sharethis
  • ป.ป.ช. เผยผลประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส 'กลาโหม-เหล่าทัพ' ก.การต่างประเทศ ก.ท่องเที่ยวฯ ก.พัฒนาสังคมฯ และก.อุดมศึกษาฯ ผ่าน 100% ส่วนไม่ผ่านการประเมิน คือ ก.อุตสาหกรรม ก.สาธารณสุข ก.มหาดไทย และหน่วยงานไม่สังกัดสำนักนายกฯ
  • ส.ว.ตีตก 'อารยะ ปรีชาเมตตา' พลาดเก้าอี้ป.ป.ช. อ้างมีแนวคิดตรงข้ามฝ่ายอนุรักษ์นิยม
  • รองโฆษก ทบ.แจง ของบฯ ซื้อยุทโธปกรณ์ เป็นชั้นความลับ-ห้ามรั่วไหล

1 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ส.ค.) เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เผยแพร่ประกาศสำนักงาน ป.ป.ช. เรื่อง ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีหน่วยงานรัฐที่เข้าร่วมการประเมินจำนวนทั้งสิ้น 8,303 แห่ง จำนวนบุคลากรที่ร่วมประเมิน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชน จำนวน 1,300,132 ราย มากที่สุดนับตั้งแต่มีการประเมิน ITA มา

ซึ่งกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานสรุปไว้ว่า พบมีอยู่ 4 แห่ง ไม่ผ่านการประเมิน (ไม่ผ่านเกณฑ์ 85%) คือ 1. กระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานใต้สังกัด 8 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 88 คะแนน ผ่าน 5 แห่ง คิดเป็น 62.50% 2. กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานใต้สังกัด 17 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 88.61 คะแนน ผ่าน 13 แห่ง คิดเป็น 76.47% 3. กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานใต้สังกัด 14 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 92.20 คะแนน ผ่าน 11 แห่ง คิดเป็น 78.57% และ 4. หน่วยงานไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง 18 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 89.79 คะแนน ผ่าน 14 แห่ง คิดเป็น 77.78%

มีกระทรวงที่ผ่านการประเมิน 100% จำนวน 5 กระทรวง ได้แก่ 1. กระทรวงกลาโหม หน่วยงานใต้สังกัด 4 แห่ง (กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานปลัดกระทรวงฯ) ได้คะแนนเฉลี่ย 94.91 คะแนน ผ่าน 8 แห่ง คิดเป็น 100% 2. กระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานใต้สังกัด 1 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 91.12 คะแนน ผ่าน 1 แห่ง คิดเป็น 100% 3. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หน่วยงานใต้สังกัด 7 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 95.18 คะแนน ผ่าน 7 แห่ง คิดเป็น 100% 4. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หน่วยงานใต้สังกัด 9 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 93.01 คะแนน ผ่าน 9 แห่ง คิดเป็น 100% และ 5. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หน่วยงานใต้สังกัด 17 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 92.66 คะแนน ผ่าน 17 แห่ง คิดเป็น 100%

ส่วนอีก 12 แห่ง สรุปคะแนนได้ ดังนี้ 1. สำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานใต้สังกัด 32 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 90.72 คะแนน ผ่าน 28 แห่ง คิดเป็น 87.50% 2. กระทรวงการคลัง หน่วยงานใต้สังกัด 26 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 92.62 คะแนน ผ่าน 24 แห่ง คิดเป็น 92.31% 3. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานใต้สังกัด 22 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 91.54 คะแนน ผ่าน 21 แห่ง คิดเป็น 95.45% 4. กระทรวงคมนาคม หน่วยงานใต้สังกัด 18 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 90.23 คะแนน ผ่าน 16 แห่ง คิดเป็น 88.89% 5. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) หน่วยงานใต้สังกัด 8 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 90.78 คะแนน ผ่าน 7 แห่ง คิดเป็น 87.50%

6. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานใต้สังกัด 15 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 91.37 คะแนน ผ่าน 13 แห่ง คิดเป็น 86.67% 7. กระทรวงพลังงาน หน่วยงานใต้สังกัด 9 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 93.28 คะแนน ผ่าน 8 แห่ง คิดเป็น 88.89% 8. กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานใต้สังกัด 12 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 91.12 คะแนน ผ่าน 10 แห่ง คิดเป็น 83.33% 9. กระทรวงยุติธรรม หน่วยงานใต้สังกัด 13 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 90.97 คะแนน ผ่าน 12 แห่ง คิดเป็น 92.31% 10.กระทรวงแรงงาน หน่วยงานใต้สังกัด 6 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 90.38 คะแนน ผ่าน 5 แห่ง คิดเป็น 83.33% 11.กระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานใต้สังกัด 10 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 90 คะแนน ผ่าน 8 แห่ง คิดเป็น 80% และ 12.กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานใต้สังกัด 11 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 89.58 คะแนน ผ่าน 10 แห่ง คิดเป็น 90.91%

ในส่วนหน่วยงานรายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่ได้คะแนนเฉลี่ยไม่ถึง 50% มีจำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ มี 144 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 79.47 คะแนน ผ่าน 54 แห่ง คิดเป็น 37.50% จังหวัดบุรีรัมย์ มี 210 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 82.41 คะแนน ผ่าน 102 แห่ง คิดเป็น 48.57% จังหวัดปทุมธานี มี 66 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 80.09 คะแนน ผ่าน 27 แห่ง คิดเป็น 40.91% จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มี 62 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 82.75 คะแนน ผ่าน 29 แห่ง คิดเป็น 46.77% จังหวัดพิจิตร มี 103 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 80.99 คะแนน ผ่าน 44 แห่ง คิดเป็น 42.72% จังหวัดมหาสารคาม มี 144 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 80.72 คะแนน ผ่าน 61 แห่ง คิดเป็น 42.36% จังหวัดราชบุรี มี 113 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 76.43 คะแนน ผ่าน 34 แห่ง คิดเป็น 30.09% (คะแนนต่ำที่สุด) จังหวัดศรีสะเกษ มี 218 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 82.27 คะแนน ผ่าน 102 แห่ง คิดเป็น 46.79% และ จังหวัดอุบลราชธานี มี 240 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 77.34 คะแนน ผ่าน 75 แห่ง คิดเป็น 31.25%

 

ส.ว.ตีตก 'อารยะ ปรีชาเมตตา' พลาดเก้าอี้ป.ป.ช. อ้างมีแนวคิดตรงข้ามฝ่ายอนุรักษ์นิยม

วันเดียวกัน (1 ส.ค.) สำนักข่าวไทย รายงานว่า  การประชุมวุฒิสภา(ส.ซ.) ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานได้พิจารณาลงคะแนนเสียงให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คือ อารยะ ปรีชาเมตตา โดยมีผลการลงคะแนนเสียง ให้ความเห็นชอบ 38 เสียง ไม่ให้ความเห็นชอบ 146 เสียง ไม่ออกเสียง 14 เสียง

ทั้งนี้ จากผลการออกเสียงลงคะแนนถือว่า อารยะไม่ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช. เนื่องจากได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของวุฒิสภา คือ ไม่น้อยกว่า 125 คะแนน

สำนักข่าวอิศรา รายงานด้วยว่า แหล่งข่าวจากวุฒิสภา เปิดเผยว่า เหตุผลที่วุฒิสภาลงมติไม่เห็นชอบ เนื่องจาก ศ.อารยะ ถูกมองว่า พฤติการณ์และมีแนวคิดทางการเมืองตรงข้ามฝ่ายอนุรักษ์นิยม

รองโฆษก ทบ.แจง ของบฯ ซื้อยุทโธปกรณ์ เป็นชั้นความลับ-ห้ามรั่วไหล

สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพบกได้เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ตามกระบวนการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล และต่อมาได้มีการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนถึงเอกสารที่หน่วยงานนำมาเสนอประกอบการประชุมว่าไม่ควรปฏิบัติแบบเป็นเอกสารลับนั้น กองทัพบกยืนยัน กระบวนการนำเสนอข้อมูลให้กับคณะกรรมาธิการ มีทั้งการนำเสนอด้วยเอกสารและการเข้าชี้แจงโดยผู้ที่รับผิดชอบด้านงบประมาณของกองทัพบกและผู้บังคับบัญชาระดับสูง

รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เอกสารที่ใช้ประกอบการชี้แจงงบประมาณ กองทัพบกดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการพุทธศักราช 2544 ข้อ 17 ที่ระบุว่า “การกำหนดชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารที่มีชั้นความลับหลายชั้นในเรื่องเดียวกัน ให้กำหนดชั้นความลับสูงสุดที่มีอยู่ในข้อมูลข่าวสารลับนั้น” ซึ่งกองทัพบกกำหนดชั้นความลับของเอกสารที่นำเสนอ โดยพิจารณาจากภาพรวมของเอกสารทั้งหมดอย่างรอบคอบตามระเบียบ เนื่องจากเป็นชุดเอกสารเดียวกันที่ข้อมูลมีชั้นความลับหลายชั้น ประกอบด้วยเรื่องยุทโธปกรณ์สำคัญทางทหาร จนถึงการจัดหาครุภัณฑ์ปกติ

“โดยเฉพาะข้อมูลคุณลักษณะและขีดความสามารถของอาวุธยุทโธปกรณ์ ถือว่าเป็นชั้นความลับทางทหารที่มีความสำคัญยิ่งในงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการป้องกันประเทศ จึงจำเป็นต้องปฏิบัติต่อชุดข้อมูลที่มีหลายชั้นความลับดังกล่าว โดยยึดตามข้อมูลที่มีชั้นความลับสูงสุด เพื่อป้องกันข้อมูลข่าวสารที่มีชั้นความลับรั่วไหลหรือถูกนำไปเผยแพร่อย่างไม่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของหน่วยงาน การนำเอกสารที่มีชั้นความลับไปแสดงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ โดยเมื่อพิจารณาเสร็จและหน่วยงานขอคืนเอกสาร แสดงว่าไม่ประสงค์ให้นำไปเปิดเผยต่อ ซึ่งการเปิดเผยเอกสารลับของทางราชการ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานเจ้าของเอกสารก่อนจึงจะทำได้” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว

รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การชี้แจงตามระบบผ่านกลไกของรัฐสภา กองทัพบกได้นำเสนอข้อมูลครอบคลุมทุกด้าน ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบประกอบการพิจารณา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกส่วนต้องตระหนักคือการที่ผู้ใดส่วนใดที่ได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลหรือเอกสารลับของทางราชการ จำเป็นต้องให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.2544 ระมัดระวังในการนำข้อมูลที่ตนเองเข้าถึงไปเผยแพร่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง อันอาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ หรือความเสียหายต่อผลประโยชน์แห่งรัฐ รวมทั้งความเข้าใจอันดีของสังคมโดยรวมได้เช่นกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net