Skip to main content
sharethis

'ศรีสุวรรณ' ยื่นกกต.สอบ ส.ส.พรรคเล็ก กรณีไลน์หลุดรับแจกกล้วย ชี้โทษถึงยุบพรรค เหตุยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิก ควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา พรรคไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมนั่นเอง เชื่อถ้าเร่งสอบไม่เกิน 3 เดือนรู้ผล

1 ส.ค.2565 เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ศรีสุวรรณ จรรยา' โพสต์แจ้งพร้อมภาพระบุว่า วันนี้ (1 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มีหลักฐานยืนยันว่ารับเงินหรือทรัพย์สินจากบุคคลอื่น โดยการโอนบัญชีธนาคารผ่านระบบ internet banking ของธนาคารนับแสนบาทต่อเดือน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ข้อมูลจากกรณีไลน์หลุด ซึ่งมีเนื้อหาและภาพที่ระบุให้เห็นว่า มีรายชื่อ ส.ส.พรรคเล็ก เซ็นต์ชื่อรับเงินกันหลายคนจากบุคคลซึ่งไม่ปรากฎชื่อ และมีภาพหลักฐานสลิปการโอนเงินไปยังบุคคลปลายทาง ซึ่งเป็นชื่อของหัวหน้าพรรคการเมืองเล็กๆ รวมทั้งหัวหน้ากลุ่มการเมืองด้วยโดยจ่ายกันเป็นรายเดือนๆ ละ 100,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลักฐานดังกล่าวสามารถบ่งชี้ได้ว่านักการเมืองต่างๆ มีพฤติการณ์การรับเงินกันจริง แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นการโอนรับกันเพื่อวัตถุประสงค์ใด หรือเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์บางอย่างกัน หรือยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการครอบงำหรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือไม่

นอกจากนั้น ยังมีข้อพิรุธว่า ส.ส.บางคนอ้างว่าเงินที่ได้รับโอนมาดังกล่าวนำไปใช้ในการลงพื้นที่ ดูแลชาวบ้านนั้น จะถือเป็นรายได้หรือรายรับของพรรคการเมืองตาม ม.62(5) และหรือ (7) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 หรือไม่ และได้มีการประกาศให้ประชาชนทราบตาม ม.65 และหรือได้มีการปฏิบัติตาม ม.67 ครบถ้วนแล้วหรือไม่ และหรือมีการจัดทำและลงรายการทางบัญชีรายรับ-รายจ่ายของพรรคการเมืองตาม ม.59 หรือไม่ ฯลฯ แต่หากไม่ใช่ก็อาจถือได้ว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทันที ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.72 ประกอบ ม.126 ของกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเท่าใดก็ได้ขึ้นอยู่กับศาลกำหนด

ที่สำคัญการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.28 ประกอบ ม.92(3) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้อีกด้วย ที่บัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมนั่นเอง

ศรีสุวรรณ ระบุว่า ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้นำพยานหลักฐานที่ไม่เคยปรากฎในสื่อมาก่อน นำมามอบให้ กกต.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่ออัปเปหิ และหรือเอาผิดเหล่า ส.ส.หรือหัวหน้าพรรคการเมืองตามหลักฐานดังกล่าวต่อไป

สำนักข่าวไทย รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรอบระยะเวลาการตรวจสอบ เบื้องต้นทางกกต.ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งสื่อมวลชนได้รายงานไปแล้วบางส่วน และถ้าได้รับข้อมูลจากตนจะทำให้หลักฐานมีความแน่นหนามากยิ่งขึ้น ถ้ารวบรวมหลักฐานครบ จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติม คาดว่าระยะเวลาการตรวจสอบไม่ควรจะเกิน 3 เดือน เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นต่อคณะกรรมการป.ป.ช.เรื่องจริยธรรมของส.ส.กรณีที่มีการรับทรัพย์สินเกิน  3,000  บาท ซึ่งมีโทษถูกศาลตัดสิทธิ์ทางการเมืองอย่างน้อย 10 ปี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net