Skip to main content
sharethis
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคน้องใหม่ประชุมวันแรกเมื่อ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา เลือก ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ เป็นหัวหน้าพรรค ด้าน ‘เอกนัฎ พร้อมพันธุ์’ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. นั่งเก้าอี้เลขาฯ ไร้คู่แข่ง พร้อมประกาศ กวาดทุกเขตภาคใต้ ดึง ส.ส. ปชป. ร่วมงานเพียบ
  • สูตรไหนก็ต้องพร้อม พีระพันธุ์ เผยพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เน้นแค่บัญชีรายชื่อ และเน้นทั้ง 2 บัญชี อุบดึง ส.ส.ประชาธิปัตย์ร่วมงานเพิ่มในอนาคต ตั้งเป้าได้ ส.ส.มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • หัวหน้ารวมไทยสร้างชาติ ปัดเป็นพรรคสำรองให้ประยุทธ์ ย้ำจุดยืนพรรคของประชาชน ชูอุดมการณ์ค้ำจุน 3 เสาหลักของชาติ อุบหนุนใครเป็นนายกฯ

6 ส.ค. 2565 หลายสำนักข่าวรายงานเมื่อ 3 ส.ค. 2565 พรรครวมไทยสร้างไทย ประชุมวิสามัญ นัดแรกที่สโมสรราชพฤกษ์ ถ.วิภาวดีรังสิต เวลา 8.00-12.00 น. โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ พร้อมเปิดตัวผู้ร่วมอุดมการณ์ 

บีบีซีไทย รายงานว่าผลจากการประชุมปรากฏว่าได้ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และบุตรบุญธรรมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค ชนิดที่ว่าไม่มีคู่แข่งอื่นๆ

(กลาง) พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และ (ขวา) เอกนัท พร้อมพันธุ์ เลขาฯ (ที่มา: เพจไลฟ์สด พรรครวมไทยสร้างชาติ United Thai Nation Party)

หลังรับตำแหน่ง พีระพันธุ์ ประกาศวิสัยทัศน์ต่อหน้าสมาชิกพรรคนับร้อยคนว่า “เราจะไม่ทำให้ประชาชนและประเทศไทยผิดหวังในพรรครวมไทยสร้างชาติ” และ “จะสร้างรวมไทยสร้างชาติให้เป็นพรรคหลักของประเทศ นำพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยความมั่นใจ มั่นคง และจะชนะให้ได้มากที่สุด” 

หัวหน้าพรรควัย 63 ปี ยังกล่าวเชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันค้ำจุนปกป้องเสาหลัก 3 ประการของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของทุกคนในความเป็นชาติ ความเป็นคนไทย นอกจากนี้ ยังร่วมกันร้องเพลงประจำพรรค และเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนปิดการประชุมด้วย

ที่ประชุมร่วมยืนสรรเสริญ ก่อนปิดประชุมวิสามัญครั้งแรกของพรรครวมไทยสร้างชาติ (ที่มา: ไลฟ์สดเพจเฟซบุ๊ก พรรครวมไทยสร้างชาติ United Thai Nation Party)

สูตรคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบไหนก็ต้องพร้อม

บีบีซีไทย และผู้จัดการ รายงานว่า พีระพันธุ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงกติกาการเลือกตั้ง โดยขณะนี้สภาอยู่ในช่วงระหว่างพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งมีประเด็นสำคัญอยู่ที่สูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งยังติดที่จะใช้สูตรหาร 500 หรือ 100 

ทั้งนี้ เมื่อ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สภาล่มระหว่างพิจารณา พ.ร.ป.การเลือกตั้ง วาระ 2 เหตุจากองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งต้องดูการประชุมสภาครั้งหน้า วันที่ 10 ส.ค.นี้ ว่าจะเป็นอย่างไร

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน พีระพันธุ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคที่อาจจะเจอกับกติกาเลือกตั้งใหม่ เผยกับสื่อ มองว่าเรื่องนี้มีผลเกี่ยวข้อง ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะหารเท่าไร เขตก็คือเขต เราไม่ได้เน้นแต่บัญชีรายชื่อ แต่เน้นทั้ง 2 บัญชี ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องพร้อม 

“เรามีความพร้อมในการส่งผู้สมัคร ส.ส.เขต และเชื่อว่าจะสามารถผ่านการเลือกตั้งได้ แต่บางคนยังเปิดตัวไม่ได้เพราะยังเป็น ส.ส.อยู่” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุ 

ทั้งนี้ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งเป้าหมายเหมือนทุกพรรคว่าจะให้ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด แต่ทว่าเขาไม่ยอมระบุถึงตัวเลขที่แน่ชัด

“ถ้ามีจำนวนพอสมควรที่พอจะเข้าร่วมรัฐบาล ก็สามารถนำแนวทางไปสู่การปฏิบัติได้เป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้น ขอให้สื่อช่วยสนับสนุนด้วย” หัวหน้ารวมไทยสร้างชาติ กล่าวย้ำ 

ต่อกรณี จำนวน ส.ส.ที่ตบปากรับคำจะมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ ตอบว่า “ยังไม่อยากบอก เอาเป็นว่าเยอะแล้วกัน” และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการดึง ส.ส. จากประชาธิปัตย์ เข้ามาร่วมเป็น ส.ส.พรรค หากมีการเลือกตั้งในอนาคตด้วยหรือไม่นั้น ตัวของหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า เป็นเรื่องของอนาคต 

ตั้งเป้ากวาด ส.ส. ใต้ยกภาค 

สำหรับพีระพันธุ์ ด้วยความที่เคยเป็นอยู่พรรคประชาธิปัตย์ มาก่อน ทำให้เกิดกระแสคำถามว่า รวมไทยสร้างชาติ เหมือนจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ สาขา 2 

“ไม่เหมือนหรอก ผมนึกไว้แล้วว่าต้องถามแบบนี้ มีกี่คนที่เป็นคนประชาธิปัตย์” พีระพันธุ์ย้อนถามผู้สื่อข่าว ก่อนแจกแจงว่า กรรมการบริหารพรรคของเขาก็ไม่ได้มีแค่คนประชาธิปัตย์ จึงเป็นสิ่งที่สื่อพูดกันไปเอง

ขณะที่ ‘ผู้จัดการ’ มองว่า การประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา น่าสังเกตว่า สมาชิกในพรรครวมไทยสร้างชาติส่วนใหญ่มาจากพรรคประชาธิปัตย์หลายคน เช่น เจือ ราชสีห์ อดีต ส.ส. สงขลา โกวิทย์ ธารณา อดีต ส.ส. กทม. สามารถ มะลูลีม พงศ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี และ รัดเกล้า สุวรรณคีรี บุตรสาวนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และยังมีกลุ่มเพื่อน ส.ส.ลูกช้าง-ลูกหมี นายชุมพล จุลใส (ลูกหมี) อดีต ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ และนายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ซึ่งเป็นกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และชุมพร ซึ่งมีแววจะเลือกตั้งในสมัยหน้า

นอกจากนี้ ยังมี พรเทพ เตชะไพบูลย์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และปภัสรา เตชะไพบูลย์ภรรยา มาร่วมสังเกตการณ์ และพวกเขาแสดงท่าทีลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคนี้อีกด้วย รวมทั้ง นายถาวร เสนเนียม อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.สงขลา มาร่วมแสดงความยินดี

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศกวาด ส.ส. "ภาคใต้ทั้งภาค" ซึ่งต้องจับตาว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะสามารถคว้าที่นั่งจากทั้งหมด 54 ที่นั่ง ได้กี่ที่นั่ง 

ทั้งนี้ เมื่อพูดถึง ส.ส.ภาคใต้ ก็ต้องนึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคที่มีได้คะแนนเสียงจากคนใต้มาโดยตลอด เมื่อปี 2554 พรรคประชาธิปัตย์ เคยทำแลนด์สไลด์ภาคใต้ กวาดที่นั่ง ส.ส. ไปสูงถึง 50 ที่นั่ง จากทั้งหมด 53 ที่นั่ง ส่วน 3 ที่นั่งที่เหลือ เป็นของพรรคภูมิใจไทย มาตุภูมิ และชาติไทยพัฒนา พรรคละ 1 ที่นั่ง 

ก่อนที่การเลือกตั้งล่าสุด เมื่อปี 2562 ประชาธิปัตย์ กลับเสียเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกินครึ่ง เหลือเพียง 22 ที่นั่งจาก 50 ที่นั่ง โดยตกเป็นของพรรคพลังประชารัฐ 13 ที่นั่ง (ได้เพิ่มจากการเลือกตั้งซ่อมอีก 1 ทั่งนั่ง) ภูมิใจไทย 8 ที่นั่ง และเป็นประชาชาติ 6 ที่นั่ง และพรรครวมพลัง 1 ที่นั่ง 

พรรคสำรองประยุทธ์ (?)-ที่ปรึกษาพรรคออกตัวหนุน

เมื่อดูเส้นทางประวัติของพีระพันธุ์ ก่อนหน้าที่จะมารับตำแหน่งที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เขาเคยเป็นที่ปรึกษาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (2562-2565) และ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (2564-2565) ทำให้มีคำถามต่อมาว่า พรรคนี้จะเป็นพรรคสำรองให้กับประยุทธ์ หรือไม่ 

พีระพันธุ์ กล่าวว่า “ใครพูดล่ะ ผมไม่เคยพูด เมื่อกี้ก็พูดชัดแล้ว ว่าพรรคนี้ทำเพื่อประชาชน เราตั้งพรรคการเมือง ไม่ได้ไปตั้งพรรค เพื่อไปสนับสนุนอะไรใคร พรรคการเมือง ก็ต้องทำงานการเมือง”

เช่นเดียวกับคำถามที่ว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรคหรือไม่ ซึ่งนายพีระพันธุ์บอกว่า เร็วเกินไปที่จะพูด แต่แนวทางของพรรคไม่ได้สนับสนุนตัวบุคคล แต่สนับสนุนแนวทางและการทำงานเดียวกัน ที่สำคัญคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

เมื่อสื่อถามว่า หากมติพรรครวมไทยสร้างชาติเห็นชอบให้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะดำเนินการตามมติพรรคหรือไม่ ทำให้นายพีระพันธุ์ ตอบกลับทันทีว่า “จะเป็นพรรคไหนก็แล้วแต่ แม้แต่พรรคเพื่อไทย ถ้าเสียงสนับสนุนหรือมติของพรรค บอกว่าต้องสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ทุกคนก็ต้องทำตามมติพรรค คำถามนี้เป็นเบสิก เราเดินและบริหารพรรคการเมืองตามข้อบังคับพรรค ไม่ได้บริหารตามอำเภอใจ การสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนใครเป็นไปตามมติพรรคอยู่แล้ว”

ด้าน ปองพล อดิเรกสาร ที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเรื่องเดียวกันว่า การสนับสนุนใครต้องดูผลงาน ความพร้อม และดูสถานการณ์ของประเทศ ไปจนถึงของโลกในปัจจุบัน หากนำรายชื่อผู้ที่อยู่ในข่ายจะเป็นผู้นำของประเทศมาเรียงกันดู ก็จะเห็นว่า พล.อ. ประยุทธ์ มีผลงาน และสถานการณ์โลกในปัจจุบันก็เข้มข้น จึงต้องอาศัยคนที่จะตัดสินใจได้เด็ดขาด

เขาเห็นว่า ระยะเวลา 8 ปีที่ พล.อ. ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งก็พิสูจน์ให้เห็น ซึ่งประเด็นสำคัญที่สุดคือเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เพราะถ้าไม่มีข้อนั้นคงอยู่ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม พรรคมีสิทธิเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ แค่ 3 ชื่อ ก็ต้องพูดคุยหารือกันก่อนว่าจะเสนอชื่อใครบ้าง

เส้นทางการเมืองของพีระพันธุ์

ปัจจุบัน พีระพันธุ์ วัย 63 ปี ยังนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าภารกิจที่ทำกับ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นภารกิจชาติที่ได้รับมอบหมาย ขณะที่ส่วนการทำพรรคการเมืองเป็นเรื่องส่วนตัว

เขาได้แจ้งต่อ พล.อ. ประยุทธ์ด้วยว่า วันนี้ (3 ส.ค.) จะมาทำหน้าที่ทางการเมือง ซี่งเป็นการกราบเรียนให้ทราบในฐานะที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา

เส้นทางพีระพันธุ์ เริ่มเมื่อปี 2539-2562 เป็น ส.ส. 6 สมัย เข้าเส้นทางการเมืองครั้งแรกในฐานะเพื่อนร่วมทีม สมัครชิง ส.ส. กทม. กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 

ปี 2551-2554 เป็นรัฐมนตรี 1 สมัย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ 

ปี 2556 เป็นหนึ่งใน 4 เจ้าของคำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กับพวกรวม 312 คน กระทำการล้มล้างการปกครองฯ กรณีแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ที่มาของ ส.ว. ก่อนที่ตุลาการเสียงข้างมากมีมติว่า เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 68 

ปี 2562 ‘พีระพันธุ์’ เป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 8 ชิงชัยกับจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ก่อนพ่ายไปด้วย 37.21% ต่อ 50.59%

ปี 2562-2565 เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ปี 2563 ประธานกรรมการวิสามัญศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ปี 2560 

ปี 2564-2565 เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ 

ปี 2565 เป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ 

รายชื่อ กก.บห. “รวมไทยสร้างชาติ”

บีบีซีไทย เผยรายชื่อ กก.บห. ภายใต้การนำของนายพีระพันธุ์มีทั้งสิ้น 9 คน โดยทุกคนได้รับการเสนอชื่อ ชนิดที่ไม่มีคู่แข่งขันอื่นๆ ในระหว่างการเลือกตั้งของสมาชิกพรรค รทสช.

หัวหน้าพรรค

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตสมาชิก พปชร.

เลขาธิการพรรค

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม. ปชป. และอดีตแกนนำ กปปส.

เหรัญญิกพรรค

นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ 

นายทะเบียนพรรค

นายเกรียงยศ สุดลาภา อดีตรองผู้ว่าราชการ กทม. และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

กรรมการบริหารพรรค

1. นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สาธารณสุข, อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. และอดีตแกนนำ กปปส. 2. นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และอดีตเลขาธิการพรรครวมพลังประชาชาติไทย 3. นายชื่นชอบ คงอุดม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง และอดีต ส.ส.กทม. ปชป., อดีตสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท, อดีตสมาชิก พปชร. 4. นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง 5. นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี, อดีตสมาชิก ภท. และอดีต ส.ว.ราชบุรี

หมายเหตุ - มีการแก้ไขชื่อ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เมื่อ 6 ส.ค. 2565 เวลา 18.25 น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net