เพลิงไหม้ชั้น 33 อาคารศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ตึก A ระบุอยู่ระหว่างตกแต่งต่อเติม สามารถคุมเพลิงได้ในเวลา 1 ชั่วโมง ขณะที่ ปภ.แจงอาคารมีระบบป้องกันอัคคีภัยดี แต่ระบบยังไม่ทำงานเหตุความร้อนยังไม่ถึงจุดทำงาน เร่งหาสาเหตุไฟไหม้ - ตำรวจค้านประกันตัวเจ้าของ MOUNTAIN B ชั้นพนักงานสอบสวน หวั่นผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยาน และป้องกันการหลบหนี เตรียมส่งตัวฝากขังศาลในวันที่ 8 ส.ค.นี้ - 'ชัชชาติ' สั่งให้สถานบันเทิง 83 แห่ง หยุดปรับปรุง หลังพบปัญหามีความเสี่ยงความปลอดภัย
ที่มาภาพ: ศูนย์วิทยุพระราม 199 (อ้างใน Thai PBS)
7 ส.ค. 2565 นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) ชี้แจงเหตุเพลิงไหม้ว่า เหตุเพลิงไหม้ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.34 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในพื้นที่ผู้เช่าอาคาร ชั้น 33 อาคาร EnCo ตึก A ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์
เบื้องต้นทีมบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินของศูนย์บริหารอาคาร EnCo พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงสุทธิสาร ได้เข้าระงับเหตุเป็นการเร่งด่วน และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้วทั้งนี้ ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ และจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร พร้อมกับอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง สามารถควบคุมเพลิงได้ พร้อมใช้เครื่องดูดควันออกจากตัวอาคาร
ผู้อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุนั้น มีพนักงานของอาคารดังกล่าว มีอาการเหนื่อยหอบ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองลงมาจากอาคารได้ เข้าไปช่วยเหลือนำส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัย จำนวน 2 คน และยังเผยอีกว่าขณะขึ้นไปพบกลุ่มควันหนาแน่น ทำให้หายใจค่อนข้างลำบาก แต่ไม่พบแสงเพลิง
นายสุรเดช อำนวยสาร รองผอ.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เบื้องต้นจากสำรวจเหตุเกิดบริเวณชั้น 33 เป็นพื้นที่ที่มีการต่อเติมของบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ต้นเพลิงได้ไหม้กองวัสดุก่อสร้าง ได้รับความเสียหาย แต่ไม่ส่งผลกระทบโครงสร้างอาคาร
“ระบบรักษาความปลอดภัยของอาคารแห่งนี้ดีที่สุดในประเทศ มีการซ้อมแผนอัคคีภัยร่วมกับปภ.เป็นประจำ ส่วนระบบดับเพลิงอัตโนมัติของอาคารไม่ทำงาน เนื่องจากความร้อนยังไม่ถึงระดับจุดที่ระบบจะทำงาน ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ”
ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ตำรวจ สน.บางซื่อ จะดำเนินการสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมคนงานก่อสร้างไปปสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติม
ตำรวจค้านประกันตัวเจ้าของ MOUNTAIN B ชั้นพนักงานสอบสวน
ส่วนกรณีความคืบหน้ากรณีเหตุไฟไหมผับ MOUNTAIN B ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมานั้น วันนี้ (7 ส.ค.) นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ อายุ 27 ปี เจ้าของ MOUNTAIN B ถูกคุมตัวเข้าห้องขัง หลังเข้ามอบตัวลงบันทึกจับกุมกับพนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยเดินทางมาพร้อมกับทนายความและญาติ หลังศาลจังหวัดพัทยา อนุมัติหมายจับ 2 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และ เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต อัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปี หลังปล่อยให้เกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บจำนวนมาก
ทนายความ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่ญาติได้เตรียมหลักทรัพย์ประกันตัว 1 ล้านบาท แต่ในชั้นพนักงานสอบสวน ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากมีผู้เสียชีวิตหลายคน หวั่นผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยาน และป้องกันการหลบหนี โดยจะส่งตัวฝากขังศาลในวันที่ 8 ส.ค.นี้
ด้านภรรยาเจ้าของ MOUNTAIN B เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุได้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยกู้ภัยและดับเพลิง พร้อมสั่งให้พนักงานช่วยเหลือลูกค้าที่ติดอยู่ภายใน ส่วนเธอและสามีพยายามช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บ และยืนยันว่า ไม่ได้หลับหนี โดยอยู่ที่ สภ.พลูตาหลวงมาตลอด 2 วัน พร้อมขออภัยผู้ประสบภัยและครอบครัว ส่วนกรณีที่สังคมสงสัยว่ามีคนมีสีมาเกี่ยวข้อง มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนให้นั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชัชชาติ' สั่งให้สถานบันเทิง 83 แห่ง หยุดปรับปรุง หลังพบปัญหามีความเสี่ยงความปลอดภัย
7 ส.ค. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ Thai PBS หลังจากสั่งการให้ไปตรวจสอบความปลอดภัยของสถานบันเทิงทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิง ที่สีลม ซอย 2 เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ตอนนี้มีรายงานเข้ามาแล้ว 400 แห่ง ในจำนวนนี้มี 83 แห่ง ที่พบปัญหาความเสี่ยง และ 3 แห่งมีปัญหาทางหนีไฟ จึงได้สั่งการให้หยุดให้บริการและปรับปรุงไปแล้ว
“ทางหนีไฟต้องมีให้ชัดเจน เพราะเวลาในสภาวะยปกติยังหายาก แต่ช่วงโกลาหล เพราะบางคนอาจจะดื่มสุรา มีอาการมึนเมาอาจจะหาทางออกยาก ได้ประสานตำรวจไปตรวจสอบ เพราะประชาชนจะไม่รู้หรอกว่าที่ไหน ถูกหรือผิดกฎหมาย”
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. ได้ประสานงานกับตำรวจในการลงพื้นที่แล้ว ซึ่งได้ดำเนินการมาเดือนกว่าแล้ว จากเหตุการณ์ไฟไหม้ สีลมซอย 2 ที่ได้ลงไปดู และได้ดำเนินการล่วงหน้ามาก่อน หลังจากนี้ต้องทำงานแบบเข้มข้นต่อไป
ที่มาเรียบเรียงจาก: Thai PBS [1] [2] [3]