Skip to main content
sharethis

กลุ่มศิลปินไม่ศิลปะ (artn’t) จัดนิทรรศการ “Peace and Prosperity” แสดงผลงานของศิลปินไร้ชื่อจากฮ่องกงที่ถูกห้ามแสดงงานในประเทศตัวเอง ด้วยเหตุผลเพียงแค่เขาหยิบเอาการต่อต้านอำนาจจากจีนแผ่นดินใหญ่ของคนฮ่องกงขึ้นมาอยู่ในผลงาน นิทรรศการนี้ยังสอดแทรกงานของ artn’t ศิลปินรุ่นใหม่จากเชียงใหม่ที่พยายามท้าทายอำนาจเผด็จการ และถูกเซ็นเซอร์ผลงานจากรัฐหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะผลงานธงที่ทำให้สมาชิก artn’t โดนคดี ม.112

10 ส.ค. 2565 Peace and Prosperity นิทรรศการที่จัดแสดงผลงานของ “ศิลปินไร้ชื่อ” จากเกาะฮ่องกง ภายในร้าน Brewginning ร้านกาแฟเล็กๆ กลางเมืองเชียงใหม่ ด้วยความตั้งใจของกลุ่มศิลปินไม่ศิลปะ (artn’t) ที่ต้องการจัดแสดงผลงานของศิลปินพูดถึงการต่อต้านอำนาจรัฐและถูกห้ามแสดงผลงานในบ้านเกิดตัวเอง

ผลงานจากศิลปินไร้ชื่อที่จัดแสดงในนิทรรศการ Peace and Prosperity เป็นศิลปะที่ใช้การเขียนหมึกพู่กัน (ink art) สร้างผลงานภาพเขียนตัวอักษรและใบหน้าของผู้คนที่เขาได้แรงบันดาลใจมาจากองค์ประกอบทางสายตาที่พบเห็น ทั้งจากการเคลื่อนไหวในสังคม กราฟฟิตี้ ศิลปะบนถนน และศิลปะการเขียนพู่กันจีน สิ่งนี้คือการตอบสนองทางกายภาพต่อบรรยากาศพลวัตสังคมฮ่องกงที่ตัวศิลปินเห็นมาตั้งแต่ปี 2019 ก่อนจะเปลี่ยนมันเป็นศิลปะที่ใช้เทคนิคหลากหลาย ทั้งการปาดพู่กันจีนและภาพตัดปะ ซึ่งตรงต่อประวัติศาสตร์ร่วมสมัยที่คนฮ่องกงเผชิญ

สัญลักษณ์และตัวอักษรที่ซ้อนทับกันเปรียบเหมือนการคลี่คลายให้เห็นโลกตะวันออกและโลกตะวันตกที่ผสมรวมกันผ่านประสบการณ์และการมองโลกของศิลปิน

นิทรรศการนี้จึงเป็นการเก็บเอาสัญลักษณ์ ภาพ และถ้อยคำจากสองประเทศมาให้เห็นประจักษ์ชัด บริบทที่เปลี่ยนจากริมถนนมาบนพื้นที่ปลอดภัยทำให้ชิ้นงานถูกสำรวจใหม่ในน้ำเสียงกับเวลาที่ต่างออกไป รอยผุกร่อนและพังครืนที่ปรากฏ ความดิบเถื่อน หรือกระทั่งข้อความที่กระจัดกระจายไม่เป็นสัดส่วน ชักชวนให้หวนสำนึกกลับไปมองในหนทางที่ประเทศซึ่งต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยกำลังเผชิญ

artn’t กลุ่มศิลปินรุ่นใหม่จากเชียงใหม่ และคิวเรเตอร์ของนิทรรศการนี้มองเห็นความเหมือนในชะตากรรมของศิลปินและศิลปะที่วิพากษ์สังคมและแตะต้องเผด็จการ จึงได้นำงานของศิลปินไร้ชื่อจากฮ่องกงมาจัดแสดง โดยสอดแทรกผลงานของพวกเขาร่วมด้วย ในฐานะศิลปินจากสองประเทศที่ถูกจับตาจากรัฐในการแสดงผลงานเหมือนกัน ไกร ศรีดี หนึ่งในสมาชิก artn’t บอกเล่าถึงเหตุผลในการจัดนิทรรศการครั้งนี้ว่า

“เราได้รับโจทย์มาว่ามีศิลปินฮ่องกงคนหนึ่งที่ทำงานศิลปะออกมาและแสดงที่ประเทศตัวเองไม่ได้ เขาอยากมาจัดแสดงงานที่ประเทศไทย บริบทแบบนี้มันย้ำให้เราต้องทำ และเราเห็นว่างานของเขาก็เทียบเคียงกับ artn’t ได้ ต้องเป็นเราแล้วล่ะที่ต้องทำ

เราคิดว่าในการจัดแสดงมันควรจะมีงานของเราด้วย ของเขาด้วย เพราะเป็นเอเชียนเหมือนกัน และพูดในเรื่องเดียวกันคือการต่อต้านอำนาจรัฐ” ไกร กล่าว

ไกร ศรีดี สมาชิก artn’t (เสื้อสีแดง)

ในฐานะคิวเรเตอร์ตอนที่ได้ดูผลงานของศิลปินจากฮ่องกง ไกรคิดว่า “ผมเข้าใจวิธีการที่เขานำงานศิลปะมาพูดถึงการถูกควบคุมของจีนใหม่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยความเป็นบริบทของฮ่องกงเขานำเนื้อเพลงชาติของจีนและคำสบถหรือเสียงของคนฮ่องกงที่ดึงมาจากท้องถนนมาอยู่บนผืนผ้าใบ ผมเลยรู้สึกว่านี่คือวิธีการตะโกนอีกแบบหนึ่งของศิลปิน และเป็นศิลปินที่ใกล้เคียงกันด้วยเราพยายามที่จะดึงเอาคำบนถนนหรือการต่อต้านให้มันเข้าไปสู่กรอบของโลกศิลปะ หรือพื้นที่เซฟโซนบางอย่างของทุกศาสตร์ พอเห็นงานเขามันเลยเทียบเคียงกันได้พอดีเลย”

การที่รัฐออกมาเปิดกั้นผลงานศิลปะของศิลปินทั้งไทยและฮ่องกงเป็นเรื่องที่กระทบต่อตัวศิลปินโดยตรง และปฏิเสธสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่างไม่ปิดบัง

“ผมคิดว่าสิ่งที่เขาทำ เพราะว่าเขากลัว เขากลัวทั้งในเรื่องการตีความ ความลื่นไหนของประชาชน และการตีความตัวผลงานที่ทำให้เขาไม่สามารถกักเก็บอำนาจไว้ได้ เมื่อประชาชนรู้แล้วว่าข้อมูลเป็นอย่างไร ความย่ำแย่ของรัฐเป็นอย่างไร เขายิ่งต้องรีบรักษาอำนาจนั้นให้อยู่ในมือเขาให้ได้ จริงๆ ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เกิดการควบคุมการพูด ไม่ใช่แค่ศิลปะอย่างเดียวที่โดน แต่ยิ่งควบคุมมันก็จะยิ่งโผล่ออกมาเรื่อยๆ

เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะควบคุมได้ตลอดเวลา” ไกร กล่าว

 

“Peace and Prosperity” นิทรรศการโดย ศิลปินไร้ชื่อ จัดสรรโดย artn’t

แสดงที่ร้านกาแฟ Brewginning ตั้งแต่วันที่ 6 - 21 สิงหาคม 2565

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net