Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผย บันทึกเยี่ยมทะลุแก๊ส “หิน” อัครพล ระบุ ทะลุแก๊สถูกผู้คุมตามติดถ่ายภาพชีวิตในเรือนจำ จนอึดอัด และยังไม่รู้เจตนา พร้อมชวนจับตาทะลุแก๊สถูกเบิกตัวไปศาลอาญา 5 ก.ย. นี้

 

1 ก.ย. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผย บันทึกเยี่ยมทะลุแก๊ส โดยเมื่อวันที่ 25 และ 29 ส.ค. 2565 ทนายความจากศูนย์ทนายฯ ได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ถูกคุมขังและไม่ได้ประกันตัวระหว่างต่อสู้คดี จำนวน 6 คน ได้แก่ คทาธรและคงเพชร จากกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงผู้ต้องขังกลุ่มทะลุแก๊ส จำนวน 4 คน ได้แก่ “หนึ่ง” เกตุสกุล, “หิน” อัครพล, “ดิว” สมชาย และ “คิม” ธีรวิทย์

 

“หิน” อัครพล ระบุ ถูกผู้คุมเรือนจำตามติด – ถ่ายภาพชีวิตทะลุแก๊สในเรือนจำ แต่ยังไม่รู้เจตนา

หินเล่าว่า รู้สึกเครียดอยู่เรื่องเดียวว่า ‘จะได้ออกไหม’ ช่วงนี้นอนหลับบ้างไม่หลับบ้าง อยู่ดีๆ ก็ตื่นตอนช่วงตี 1-2 แต่โดยรวมคิดว่าสภาพจิตใจของตัวเอง ‘โอเคขึ้น’ 

หินพอรู้ข่าวคราวภายนอกบ้าง เพราะเรือนจำเปิดทีวีให้ดูรายการข่าวในช่วงกลางวัน ตอนอยู่โรงเลี้ยง ช่วงนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำมาถ่ายรูปตอนเราทำกิจกรรมต่างๆ แรกๆ พวกเราก็รู้สึกอึดอัด เพราะไม่รู้ว่าถ่ายไปเพื่ออะไร ก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์ มีเพื่อนไม่สบาย เจ้าหน้าที่เรือนจำก็ให้กินยาอย่างเดียว ไม่ได้พาไปหาหมอ คนที่มีอาการเหมือนติดโควิดก็ไม่สนใจ เราต้องดูแลกันเอง แต่โอเคขึ้นแล้วเพราะมีเพื่อนทะลุฟ้ามาอยู่ด้วย 

หินได้รับจดหมายแล้ว เขาบอกว่า จดหมายทำให้เรารู้สึกดีขึ้น คนที่ไม่รู้จักเรา แต่เขียนมาให้กำลังใจ เราก็รู้สึกดีใจแล้ว ถ้าเจอจดหมายจากคนรู้จักก็จะยิ่งดีใจขึ้นไปอีก

หินเล่าว่า ตัวเขาเอง ‘หยก’ วรวุฒิ และ ‘ใหญ่’ พิชัย ไม่ค่อยมีญาติมาเยี่ยมเหมือนคนอื่นๆ หินจึงอยากชวนให้เพื่อนมาเข้าเยี่ยมแบบคอนเฟอเรนซ์ (วิดีโอคอลผ่านแอปพลิเคชันไลน์) หน่อย จะได้อัปเดตสถานการณ์ข้างนอกกันบ้าง เวลาได้กลับบ้านจะได้ไม่ต้องไปทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างถูกขังเยอะจนเกินไป

วันที่ 5 ก.ย. ที่จะถึงนี้ หินบอกว่าจะได้ออกไปศาลในนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ถูกคุมขังอยู่นี้ จึงอยากชวนให้ทุกคนมาร่วมจับตาที่ศาลอาญา สุดท้ายหินฝากบอกคนข้างนอกว่า “อดทนหน่อย ข้างในยังสู้เหมือนเดิม แม้จะโดนกดดันก็ตาม”

 

“ดิว” สมชาย เล่าว่า ทะลุแก๊สเหลือสบู่ ‘ก้อนเดียว’ แต่ต้องใช้อาบน้ำกัน 12 คน

ดิวเล่าว่า จนถึงตอนนี้แล้วก็ยังปรับตัวไม่ได้สักที ยังรู้สึกเครียด อยากออกไปจากที่ที่เรียกว่าคุกสักที พักนี้นอนไม่หลับแทบจะตลอดทั้งคืน จนต้องขอยานอนหลับมาช่วยให้นอนได้ 

วันที่ 5 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ดิวบอกว่าจะถูกเบิกตัวออกศาลอาญา อยากให้แฟนมาด้วย เพราะคิดถึงแฟนมาก เงินที่แฟนฝากให้ก็หมดแล้ว เพราะอยู่ที่นี่ต้องแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ เหลือแต่มาม่าเอามาต้มกินกับข้าว ของใช้ส่วนตัวก็ใกล้หมด อย่างเช่นสบู่ ก็เหลือแค่ก้อนเดียว แต่ต้องใช้ด้วยกันทั้งห้อง 12 คน

ตอนนี้ยังกินข้าวตามปกติ แต่กินเพียง 1 มื้อตอนกลางวัน ด้านงานในเรือนจำยังคงประจำอยู่กองงาน ‘ขัดอ่างน้ำ’ อยู่ เมื่อทำงานเสร็จก็จะไปซ้อมต่อยมวย ดีกว่าอยู่เฉยๆ จะทำให้รู้สึกเครียดและฟุ้งซ่านคิดถึงความเป็นไปของโลกภายนอกเสมอ

จากนั้นทนายได้อ่านจดหมายที่มีคนฝากมาให้ดิวได้ฟัง เมื่อทนายอ่านจบ ดิวบอกว่า “น้ำตาจะไหล” เพราะรู้สึกตื้นตันใจที่มีคนข้างนอกห่วงใยอยู่เสมอ 

ดิวฝากบอกด้วยว่า “รอวันพวกผมออกไปกินหมูกระทะด้วยกัน”

 

“คิม” ธีรวิทย์ ดีใจที่ผู้จัด Demo Expo จัดที่นั่งรอผู้ต้องขังการเมือง

“เราอยู่ในนี้มา 60 กว่าวันแล้ว” คิมพูดพร้อมโชว์ปฏิทินน้อยที่เขาพกติดตัวให้ทนายดู 

กว่า 2 เดือนแล้วที่ถูกคุมขัง ตอนนี้ทานอาหาร 1 มื้อตอนบ่าย ช่วงนี้มีปัญหาเรื่องนอนหลับยากในตอนกลางคืน ช่วงกลางวันคิมก็เลยพยายามที่จะไม่งีบนอนระหว่างวัน เพื่อจะได้นอนหลับกลางคืนได้

ผู้ต้องขังชายที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ คิมเล่าว่า ตอนนี้แยกกันอยู่เป็น 2 ห้อง ทะลุแก๊ส 1 ห้อง และทะลุฟ้า 1 ห้อง ทุกคนมาอยู่รวมกันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน เพราะได้ช่วยเหลือกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่ม ได้ใช้เวลาว่างเตะฟุตบอล เล่นวอลเลย์บอลด้วยกันบ้าง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน 

ตอนนี้คิมมีหน้าที่ดูแลจดหมายเข้า-ออก และอีเมลของเรือนจำโดยตรง “จดหมายที่คนข้างนอกส่งมาให้เพื่อนๆ ในเรือนจำจะไม่ตกหล่นแน่นอน เพราะเขาเป็นคนดูแลเองกับมือ การได้ทำงานในเรือนจำอย่างนี้ช่วยฆ่าเวลาให้ผ่านไปได้ไวกว่าอยู่เฉยๆ” เขาบอก

เขาได้รับจดหมายที่คนข้างนอกส่งมาให้แล้ว ทำให้ได้รู้ว่า คนข้างนอกยังคงคิดถึงและไม่ลืมพวกเรา อ่านแล้วก็ใจฟูขึ้นมากๆ วันที่ 5 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐาน คิมไม่แน่ใจว่าจะถูกเบิกตัวไปจากศาลหรือให้ติดต่อไปผ่านวิธีวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 

ก่อนจะจากกัน คิมถามว่า “งานคอนเสิร์ต ‘DEMO EXPO’ ที่จัดขึ้นที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2565 มีคนจัดที่ว่างให้เขากับเพื่อนๆ ไปดูคอนเสิร์ตจริงไหม” 

“จริง” ทนายตอบ เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็เบิกยิ้มกว้าง แสดงอาการดีใจ และฝากขอบคุณคนข้างนอกที่เขียนจดหมายมาให้และยังคิดถึงกันอยู่

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net