Skip to main content
sharethis

บริษัทเวียดนามที่ลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมที่มีเผด็จการทหารพม่าเป็นเจ้าของอย่าง MyTel สูญเสียรายได้ หลังจากที่ผู้บริโภคบอยคอตต์กิจการของพวกเขา รวมถึงมีปฏิบัติการอื่นๆ ที่สร้างความเสียหายให้กับ Mytel เป็นบทเรียนต่อบริษัทที่ร่วมทุนกับเผด็จการทหารที่ก่อรัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว

 

2 ก.ย. 2565 บริษัทสัญชาติเวียดนามกำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเมืองจากการลงทุนข้ามชาติ เนื่องจากพวกเขาได้รับบทเรียนราคาแพงจากการทำธุรกิจร่วมกับเผด็จการทหารพม่าผู้เหี้ยมโหด ซึ่งเป็นกลุ่มที่คาดเดาได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มอำนาจนิยมกลุ่มอื่นๆ ที่เวียดนามเคยร่วมงานด้วย

บริษัทจากเวียดนามที่ใหญ่ที่สุดที่ลงทุนในพม่าคือ VietTel ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม บริษัทนี้ได้ทำการลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MyTel ที่มีกองทัพพม่าเป็นเจ้าของ แต่บริษัทนี้ก็มีลูกค้าลดลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ซึ่งกองทัพทำการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ตลอดปีครึ่งที่ผ่านมา เวียดนามเป็นหนึ่งในกลุ่มที่แสดงออกสนับสนุนทางการทูตต่อเผด็จการทหารพม่าอย่างคงเส้นคงวามากที่สุดประเทศหนึ่ง ซึ่งอาจจะมองได้ว่าเป็นการที่ประเทศอำนาจนิยมพยายามเกาะกลุ่มกันเอง โดยอ้างเรื่องหลักการไม่แทรกแซงของอาเซียน ซึ่งประเทศเวียดนามได้ทำการโต้ตอบเวลาที่อาเซียนวิพากษ์วิจารณ์พม่าและทำการวิจารณ์โต้กกลับกลุ่มอาเซียนหลังจากที่มาเลเซียนำการคว่ำบาตรไม่เชิญชวนผู้นำพม่าเข้าร่วมการประชุมสำคัญของอาเซียน

อย่างไรก็ตาม การที่เวียดนามสนับสนุนเผด็จการทหารพม่านั้นยังมีเรื่องของการที่พวกเขามีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกับเผด็จการพม่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถึงแม้ว่าสองประเทศนี้จะมีการค้าขายกันน้อย แต่พม่าก็เป็นแหล่งลงทุนที่สำคัญสำหรับบริษัทเวียดนาม โดยที่ประเทศเวียดนามกำลังเริ่มลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพยายามหาตลาด 5G ในประเทศต่างๆ ที่กลัวบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนอย่างหัวเหว่ย

แต่ทว่า ปัญหาที่บริษัทจากเวียดนามต้องเผชิญในพม่าคือกระแสจากการเคลื่อนไหวของประชาชนในการต่อต้านเผด็จการทหาร ซึ่งส่งผลสะเทือนต่อบริษัทเวียดนามในหลายระดับ เช่น กรณีของบริษัทย่อยของ THADICO เวียดนามที่ทำการลงทุนต่อ "เมียนมาร์พลาซ่า" ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าและพื้นที่สำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในย่างกุ้ง แต่ห้างแห่งนี้ก็เคยสร้างความไม่พอใจให้กับคนในพื้นที่หลังจากที่ยามของห้างทำการโจมตีผู้ประท้วงอารยะขัดขืนเมื่อเดือน พ.ย. 2564 จนทำให้เกิดการบอยคอตต์ห้างแห่งนี้ ทำให้ร้านค้าภายในนั้น 200 ร้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนในที่สุดแล้วบริษัทต้องขอโทษต่อสาธารณะ

สำหรับภาคส่วนที่เวียดนามลงทุนมากที่สุดในพม่าคือ Mytel ที่มีการร่วมทุนกันระหว่าง VietTel กับ บรรษัทเศรษฐกิจเมียนมาร์ (Myanmar Economic Corporation หรือ MEC) และนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ การร่วมลงทุนนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน  มิ.ย. 2561 แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 แหล่งที่ VietTel ทำการลงทุน

VietTel เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Mytel อยู่ที่ร้อยละ 49 ตามมาด้วยสตาร์ไฮ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ MEC เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 28 ซึ่งบริษัทนี้เป็นผู้ที่ตอบสนองต่อคำสั่งของสำนักงานพลาธิการของกองทัพพม่าโดยตรง สำนักงานดังกล่าวนี้ทำหน้าที่จัดหาอาวุธและเสบียงให้กับกองทัพพม่า รวมถึงเป็นผู้ดำเนินกิจการมากกว่า 100 บริษัท จึงมองได้ว่า Mytel มีเจ้าของเป็นทหารทั้งสิ้นเพราะ VietTel เองก็มีกองทัพเวียดนามเป็นเจ้าของถึงแม้ว่าจะมีการบริหารจัดการโดยพลเรือนก็ตาม เพราะบริษัทนี้มีซีอีโอคือกรรมาธิการกลางระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเวียดนาม

มีรายงานบางส่วนระบุว่าในตอนนี้ทั้ง MEC และบริษัทลูกของ MEC เป็นผู้ถือหุ้น MyTel มากถึงร้อยละ 39 แล้ว นอกจากนี้ลูกสาวของ มินอ่องหล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหารคนปัจจุบันก็ยังเป็นผู้อำนวยการของบริษัท พินนาเคิล เอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทที่รับสร้างเสาโทรศัพท์ของ Mytel ด้วย จนกระทั่งต่อมาบริษัทพินนาเคิล เอเชีย ถูกคว่ำบาตร ทำให้ลูกสาวของผู้นำเผด็จการถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ

Mytel อ้างตัวว่าเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 32 และมีโครงข่ายเสาโทรศัพท์ สถานีภาคพื้นดิน และเคเบิลใยแก้วนำแสง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 5G รายแรกของพม่า พวกเขาทำรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมเมื่อเทียบระหว่างปี 2563-2564 เพราะการขยายโครงข่าย 5G แต่การรัฐประหารก็ทำให้การขยายตัวของพวกเขาหยุดชะงักลงเพราะความไม่พอใจจากประชาชนและกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านเผด็จการทหารที่มีต่อ Mytel

Mytel เป็นบริษัทร่วมทุนกับต่างชาติที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากการบอยคอตต์ของประชาชน นับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2564 หลังการรัฐประหาร พวกเขาก็สูญเสียผู้สมัครสมาชิก 2 ล้านราย ประเมินมูลค่าความสูญเสียได้ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 918 ล้านบาท) อีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความสูญเสียให้ Mytel คือการที่บริษัทให้บริการชำระเงินที่มีฐานในสิงคโปร์ตัด Mytel ออกจากบริการทางมือถือของพวกเขาเมื่อเดือน มี.ค. 2564 ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ Mytel สูญเสียรายได้ติดต่อกัน 7 ไตรมาส

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในเรื่องที่กองกำลังติดอาวุธที่ต่อต้านเผด็จการทหารพม่าทำลายเสาโทรศัพท์ของ Mytel มีการทำลายสถานีของ Mytel ไม่ว่าจะทำการเผาหรือทำลายด้วยระเบิด เมื่อถึงสิ้นปี 2564 กลุ่มกองกำลังประชาชน (PDF) อ้างว่าพวกเขาทำลายเสาโทรศัพท์ของ Mytel ไปแล้ว 359 แห่ง ในช่วงระหว่างวันที่ 4 ก.ย. 2564 ถึง 7 ต.ค. 2564 PDF ได้ทำลายเสาโทรศัพท์ไปแล้ว 120 แห่ง สร้างความเสียหายมูลค่า 20,000 ล้านจ๊าต (ราว 350 ล้านบาท) ถึงแม้ว่าตัวเลขเสาโทรศัพท์ที่ถูกทำลายเหล่านี้อาจจะดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนเสาโทรศัพท์ทั้งหมดของ Mytel รวม 12,000 เสา แต่มันก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าประชาชนต่อต้านพวกเขา

นอกจากนี้กองกำลัง PDF ยังประกาศอย่างหน้าชื่นตาบานว่าพวกเขาเอาเศษเหล็กที่ได้จากการทำลายเสาโทรศัพท์ของบริษัทเผด็จการทหารมาหลอมทำเป็นวัตถุดิบสร้างปืนครกและเครื่องยิงลูกระเบิด

นอกเหนือจากการทำลายเสาไฟฟ้าแล้ว PDF ยังเคยทำการลอบสังหารหัวหน้าฝ่ายการเงินของ Mytel Thein Aung เมื่อเดือน พ.ย. 2564 ด้วยโดยที่ก่อนหน้านี้ Thein Aung เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารอาวุโสของ MEC และมีความเป็นไปได้ว่าผู้บริหารธุรกิจของเผด็จการทหารอาจจะตกเป็นเป้าหมายโจมตีมากขึ้นด้วย

มีเหตุการณ์ในเดือน เม.ย. 2564 ที่มีชายสองคนขว้างระเบิดเข้าไปในสำนักงาน Mytel ที่พะโค ในเดือน ส.ค. 2565 มีเหตุมือปืนเปิดฉากยิงใส่สำนักงาน Mytel ในย่างกุ้งซึ่งเป็นสำนักงานลับไม่มีใครรู้จัก ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุต้องการจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความสามารถในการรวบรวมข่าวกรอง

ชาวเน็ตพม่ายังได้เปิดโปงเรื่องของ Mytel ได้อย่างรวดเร็ว อย่างเช่นข้อมูลที่ว่า Mytel มีแผนการให้แจกซิมให้แก่สมาชิกของกองทัพ โดยที่กองทัพฉวยโอกาสใข้ซิมฟรีในการสอดแนมติดตามตัวเจ้าหน้าที่ทหารได้เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารของพม่าแปรพักตร์

เรื่องนี้ทำให้ VietTel ที่พยายามจะลงทุนครั้งใหญ่ในพม่าประสบความล้มเหลวอย่างรวดเร็ว เพราะผู้คนในพม่ามองเห็นว่าการร่วมทุนจากเวียดนามเป็นตัวที่ทำให้กองทัพพม่าคงอยู่ในอำนาจต่อไปได้ ไม่ว่าจะด้วยการได้รับการสนับสนุนทางการเงิน การใช้มันเป็นเครื่องมือในการข่าว และใช้เป็นเครื่องมือในการกดขี่ประชาชน

ถึงแม้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามดูจะยังไม่ละทิ้งเพื่อนเผด็จการอำนาจนิยมในพม่าไปง่ายๆ แต่การที่ VietTel ประสบความสูญเสียไปเรื่อยๆ ก็น่าจะทำให้รัฐบาลเวียดนามตระหนักอะไรได้บ้าง เพราะมันทำให้โครงการพัฒนาทางการทหารของเวียดนามให้มีความทันสมัยเกิดความล่าช้าไปด้วย

เวียดนามควรจะตระหนักว่ากองทัพพม่ากำลังประสบกับความสูญเสียและยังหาหนทางที่จะชนะไม่ได้ ในสภาพการณ์แบบนี้เวียดนามจะต้องเจอกับผลกระทบจากฝ่ายต่อต้านเผด็จการทหาร ถ้าหากว่า รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) สามารถคืนการปกครองกลับมาเป็นประชาธิปไตยได้และทำให้กองทัพพม่ามีอำนาจครอบงำทางเศรษฐกิจในประเทศลดลง

 

 

 

เรียบเรียงจาก

In Myanmar, Vietnamese firms learn the political risks of backing the junta, Radio Free Asia, 28-08-2022

https://www.rfa.org/english/news/myanmar/risks-08262022190934.html

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net