ชาวม้งในพื้นที่ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ กว่า 2,000 คน นัดรวมตัวในวันที่ 5 ก.ย. 2565 นี้ เพื่อเตรียมเดินเท้าเข้ากรุงเทพ ถวายฎีกาขอให้ทบทวนการรื้อถอนบ้านเรือนและโฮมสเตย์ในม่อนแจ่ม หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำกำลังเตรียมเข้ารื้อถอน เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา

2 ก.ย. 2565 กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมเดินเท้าเข้ากรุงเทพ เพื่อถวายฎีกา หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำกำลังเตรียมเข้ารื้อถอนบ้านเรือนและโฮมสเตย์ของชาวม้งในพื้นที่ ตามคำสั่งของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกระบุว่าเป็นการสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 A และเป็นการจัดระเบียบพื้นที่

เอกรินทร์ นทีไพรวัลย์ แกนนำกลุ่มชาติพันธุ์ม้งในพื้นที่ม่อนแจ่ม ได้รายงานความคืบหน้าของเหตุการณ์ว่า ชาวม้งในพื้นที่จำนวนกว่า 2,000 คน เตรียมวางแผนเดินเท้าเข้ากรุงเทพในวันที่ 5 ก.ย. 2565 นี้ โดยเริ่มจากการเดินเท้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ และเดินทางต่อไปยังกรุงเทพ เพื่อไปยื่นถวายฎีกาขอให้ทบทวนการรื้อถอนในพื้นที่ และเรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกมารับฟังข้อเท็จจริงจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อหาทางออกร่วมกัน เนื่องจากหากปล่อยให้มีการรื้อถอนเกิดขึ้นอาจเกิดความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ได้

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2565 กลุ่มพีมูฟ (P-move) หรือขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มชาติพันธุ์ม้งในพื้นที่ม่อนแจ่ม ดังนี้

1 ให้ยุติการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือการจับกุมดำเนินคดีชาวบ้านม่อนแจ่มโดยทันที และดำเนินการพิสูจน์สิทธิในที่ดินชาวบ้าน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2542 เรื่องแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน

2 ให้จัดทำแผนแม่บท (Master Plan) การบริหารจัดการพื้นที่ม่อนแจ่ม ตามข้อเสนอของหน่วยงานรัฐเอง ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และ

3 ให้หยุดใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 เป็นข้ออ้างในการดำเนินคดีชาวบ้าน ซึ่งถือเป็นการเลือกปฏิบัติกับชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ประกอบการให้บริการที่พักนักท่องเที่ยว