Skip to main content
sharethis

กลุ่มวิจัยอิสระ "เดตาฟอร์เมียนมาร์" เปิดเผยว่านับตั้งแต่พม่าเกิดการรัฐประหารมาจนถึงตอนนี้ กองทัพเผด็จการพม่าได้เผาบ้านเรือนประชาชนไปแล้วรวม 28,434 หลังคาเรือน ในสถานที่ 645 แห่ง ที่ถูกเผาทำลายจากเผด็จการ ภูมิภาคที่เผชิญเรื่องนี้หนักที่สุดคือภูมิภาคสะกาย ซึ่งเป็นพื้นที่ตอนกลางของประเทศใกล้กับมัณฑะเลย์

เดตาฟอร์เมียร์มาร์ระบุว่าในช่วงตั้งแต่ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 2564 ถึง 25 ส.ค. 2565 กองทัพพม่าได้ก่อเหตุเผาบ้านเรือนใน 11 รัฐและภูมิภาคต่างๆ ของพม่า ซึ่งนับเป็นการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร มีบ้านเรือนประมาณ 20,153 หลังคาเรือนในภูมิภาคสะกายถูกเผาทำลายโดยเผด็จการทหาร

อีกสองภูมิภาคที่ประสบกับความรุนแรงในเรื่องนี้รองลงมาคือ ภูมิภาคมาเกว ที่มีบ้านเรือน 5,418 หลังคาเรือนถูกเผาทำลาย และรัฐชีนมีบ้านเรือนถูกเผาทำลายโดยเผด็จการพม่ารวมแล้ว 1,474 หลังคาเรือน นอกจากสามแห่งนี้แล้วในพื้นที่อื่นๆ มีบ้านเรือนที่ถูกเผาทำลายรวมแล้วประมาณ 1,400 หลังคาเรือน

ถึงแม้ว่าผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ โนลีน เฮย์เซอร์ จะเคยเรียกร้องเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมาให้หัวหน้าคณะรัฐประหาร นายพลอาวุโส มินอ่องหล่าย หยุดใช้เครื่องบินและปืนใหญ่ยิงถล่มเป้าหมายพลเรือนและหยุดเผาบ้านเรือนประชาชน แต่ในช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ทหารของกองทัพเผด็จการพม่าก็ยังคงเผาบ้านเรือนประชาชนและใช้เครื่องบินโจมตีใส่หมู่บ้านมากกว่า 20 แห่งในสะกายและมาเกว มีการประเมินโดยอาศัยข้อมูลของคนในท้องถิ่นและจากกองกําลังป้องกันประชาชน (pdf) ระบุว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้มีพลเรือนมากกว่าสิบรายเสียชีวิตและมีอย่างน้อยประมาณ 50,000 รายที่ถูกบีบให้ต้องหนีออกจากบ้านตัวเอง

เดตาฟอร์เมียนมาร์ระบุว่ากองทัพเผด็จการพม่ายกระดับการเผาทำลายบ้านเรือนประชาชนเพิ่มขึ้นในเขตพื้นที่สะกายในช่วงระหว่างเดือน เม.ย., พ.ค. ถึง มิ.ย. ปีนี้ โดยทำการเผาทำลายบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 12,000 หลังคาเรือน ในภูมิภาคสะกายมีเมืองอยู่ 27 เมืองจากทั้งหมด 34 เมืองที่เผชิญเหตุการณ์เผาทำลายบ้านเรือนจากน้ำมือของเผด็จการทหาร ขณะที่ภูมิภาคมาเกวเผชิญกับการยกระดับการเผาบ้านประชาชนหนักขึ้นในเดือน ส.ค. ทำให้บ้านเรือน 1,300 หลังคาเรือนเสียหาย

กลุ่มนักวิจัยจากเดตาฟอร์เมียนมาร์ระบุว่าพวกเขาเก็บข้อมูลจากรายงานข่าว, รายงานของกลุ่มสิทธิมนุษยชน และขององค์กรผู้ลี้ภัย เพื่อนำมาคำนวณหาว่ามีบ้านเรือนถูกทำลายไปแล้วรวมกี่หลังคาเรือน อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ว่าจำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกเผาโดยรัฐบาลอาจจะมีจำนวนมากกว่าในรายงานเพราะมีหลายกรณีที่ได้รับทราบแต่ยังไม่ได้รับการยืนยันเหตุการณ์จึงไม่ถูกระบุในรายงาน

มีข้อสังเกตว่ากองทัพเผด็จการทหารพม่ายกระดับการโจมตีด้วยการเผาบ้านเรือนประชาชนและการใช้เครื่องบินโจมตีเป้าหมายพลเรือนเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2564 เป็นต้นมา หลังจากที่กลุ่มรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ประกาศสงครามกับเผด็จการทหาร โดยที่กลุ่ม NUG เป็นกลุ่มแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตยที่ตั้งรัฐบาลขึ้นมาคู่ขนานเพื่อโต้ตอบการรัฐประหาร

เมื่อกลางเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นเคยเรียกร้องให้ผู้นำเผด็จการทหารเลิกก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ ขอให้เคารพในสิทธิมนุษยชนและเคารพในหลักนิติธรรม รวมถึงเรียกร้องให้เปิดทางแก่กลุ่มช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้สามารถเข้าถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย แต่เผด็จการทหารพม่าก็ยังคงก่อเหตุทั้งเผาบ้านเรือนประชาชนและก่อเหตุรุนแรงละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ อย่างการทารุณกรรม การสังหารประชาชน และสังหารผู้ต้องขังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล มีการใช้ผู้ต้องขังที่เป็นพลเรือนมาเป็นโล่มนุษย์ มีการโจมตีพื้นที่ที่อยู่อาศัยของพลเรือนด้วยปืนใหญ่และเครื่องบินรบ รวมถึงมีการปล้นสะดมประชาชน และก่อความรุนแรงทางเพศ

จากการสำรวจสถิติโดยองค์กรช่วยเหลือนักโทษการเมืองในพม่าพบว่า นับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2564 จนถึงวันที่ 26 ส.ค. 2565 มีประชาชนถูกสังหารแล้วประมาณ 2,249 ราย มีผู้ที่ถูกจับกุมและคุมขังโดยรัฐบาลเผด็จการทหารรวม 15,239 ราย ในจำนวนนี้มีอดีตผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแต่ถูกโค่นล้มโดยเผด็จการทหารรวมอยู่ด้วย


เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net