'กมธ.ป.ป.ช.' เชิญอดีตทหารหญิงรับใช้ ให้ข้อมูลปม ส.ต.ท.หญิงทำร้าย 8 ก.ย.นี้ ย้ำเดินหน้ารื้อโครงสร้างบิดเบี้ยวมีทหารรับใช้ พร้อมตรวจสอบบัญชีผีกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ด้าน 'กก.จริยธรรมวุฒิฯ' เตรียมเชิญ ' ส.ว.ธานี' เข้าชี้แจง

5 ก.ย.2565 ความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.หญิง เข้ารับราชการโดยมิชอบและมีข้อสงสัยว่าไม่ได้ปฏิบัติราชการจริง หรือที่เรียกว่า “บัญชีทหารผี” นั้น เดลินิวส์เว็บ และสำนักข่าวไทย รายงานว่า ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) วันที่ 8 ก.ย. กมธ.ป.ป.ช. เตรียมเชิญ ส.ท.หญิงปัทมา ศิริรัตน์ อดีตทหารรับใช้เข้าให้ข้อมูลจากรณีอ้างถูก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้มทำร้ายร่างกาย จากนั้นจะทยอยให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องประมาณ 20 รายชื่อเข้าชี้แจงต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ทั้งนี้ยืนยันว่ากมธ.ป.ป.ช. ได้เรียกเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องการฝากเข้ารับราชการตำรวจและเข้ารับราชการทหาร การนำตัวไปเป็นทหารรับใช้ และเรื่องบัญชีผีที่มีชื่อไปทำงานที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค 4 สน.) แต่ตัวไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และมีชื่อใครบ้าง เพื่อแก้ไขระบบโครงสร้างของประเทศในระยะยาวต่อไป

“เรื่องการนำทหารไปรับใช้ ถือเป็นเรื่องที่มีรากมานาน แต่การที่ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ นำตัว ส.ท.หญิง ปัทมา ไปรับใช้ได้ก็เป็นเรื่องแปลก อีกทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วจะไม่มีการทำแบบนี้ เราจะต้องพยายามรื้อโครงสร้างที่บิดเบี้ยวไม่ชอบธรรมนี้ออกมาให้ได้” โฆษก กมธ.ป.ป.ช. กล่าว

'กก.จริยธรรมวุฒิฯ' เตรียมเชิญ 'ส.ว.ธานี' เข้าชี้แจง

ขณะที่วุฒิสภาวันนี้ (5 ก.ย.) มีการประชุมคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธาน และมีวาระสำคัญในการ เชิญ วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในฐานะผู้ร้อง กรณีขอให้วุฒิสภา ตรวจสอบทางจริยธรรม กับสมาชิกวุฒิสภาที่เกี่ยวข้อง กับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายทหารรับใช้ และยังมีตำแหน่งในกรรมาธิการวุฒิสภา อีก 2 คณะ  อย่างไรก็ตามก่อนเข้าประชุม พล.อ.สิงห์ศึก ยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่อนุญาตให้สื่อมวลชน บันทึกภาพในช่วงต้นได้เท่านั้น

วัชระ เดินทางมาพร้อมกับ สมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว. พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร่วมเป็นพยาน แต่ คณะกรรมการจริยธรรมอนุญาต ให้เฉพาะวัชระ เท่านั้น อย่างไรก็ตามระหว่างที่ วัชระ มาถึง ได้มีการชูป้ายข้อความ ต่อหน้าสื่อมวลชน ว่า “เดินหน้าสู้เพื่อความเป็นธรรม เพื่อลูกหลานประชาชน เพื่อสังคมที่ยุติธรรม เพื่อลูกหลานชาวบ้าน เท่าเทียม ไม่ต้องกลัวอะไร”  นอกจากนี้ยังได้นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  และน้ำเปล่า โชว์ว่าจำเป็นต้องใช้เวลา ในการชี้แจงนาน เนื่องจากมีข้อมูลจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม สมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะโฆษกคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งจะเป็นการพิจารณาเอกสาร โดยจะไม่มีการเชิญใครมาให้ข้อมูล และประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ย. เวลา 13.00 น. เพื่อดูเอกสาร จากนั้นเวลา 14.30 น. ได้เชิญให้ธานี อ่อนละเอียด ส.ว.มาให้ข้อมูล ซึ่งยังไม่มีหนังสือเชิญไป แต่คิดว่านายธานีคงไม่ปฏิเสธมาชี้แจง ส่วนพล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ส.ว.นั้น ทางกรรมการฯ ยังไม่ได้เชิญมาให้ข้อมูล เพราะเบื้องต้นเชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้อง แต่หากข้อมูลไม่เพียงพอ เราก็เชิญได้หมด และหากเจ้าตัวประสงค์จะชี้แจงก็มาได้

สมชาย กล่าวต่อว่า ส่วนที่ก่อนหน้านี้กรรมการฯได้มีมติขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กองบัญชาการกองทัพไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้านั้น ซึ่งจะได้เอกสารตอบกลับภายใน 7 วัน และวันนี้ที่ประชุมมีมติขอข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อสอบถามเรื่องการขอตัวคนมาช่วยราชการ

สมชาย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ วัชระ มาให้ข้อมูลนั้น ทางกรรมการฯได้รับข้อมูลเพิ่มเติมอีก 16 ประเด็น แต่จะเป็นประเด็นใดบ้างนั้น ขอเป็นความลับ ยืนยันว่า กรรมการฯจะทำงานหนักและดำเนินการตามกรอบฎหมาย ทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรน่ากังวล และจะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า วัชระ ระบุว่า ชาวจังหวัดราชบุรี ให้ข้อมูลเรื่องการยกน้ำชาของส.ว.ท่านหนึ่งกับสุภาพสตรี โฆษกคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา กล่าวว่า กรรมการฯเพิ่งทราบเรื่องจากวัชระ แต่ไม่ทราบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อใดและที่ไหน และเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัว เรายังไม่มีข้อมูลต้องรอตรวจสอบเพิ่มเติม ทั้งนี้นายวัชระร้องหลายข้อที่ผิดจริยธรรม ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการทำหน้าที่ ส.ว.ก็ถือว่าผิดจริยธรรม แต่เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ถ้าใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปเอื้อต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ถือว่าผิด และต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องที่นายวัชระ ระบุ เกี่ยวกับเงินบริจาคให้วัดบางลี่เจริญธรรมนั้น ที่ประชุมมีมติให้ทำหนังสือสอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัดว่า เงินบริจาคดังกล่าวเกี่ยวกับงานอะไร และเป็นเงินของใคร

เมื่อถามว่า สรุปแล้ว ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ทำงานให้กรรมาธิการกี่ชุด สมชาย กล่าวว่า ทางสำนักเลขาธิการวุฒิสภา แจ้งว่า ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าว เป็นเลขานุการ 1 คณะ เป็นนักวิชาการ 1 คณะ และเป็นที่ปรึกษา 1คณะ แต่ทุกอย่างดำเนินการตามมติของกรรมาธิการ ส่วนคุณสมบัติและการเข้าร่วมประชุมก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยขณะนี้ให้ฝ่ายเลขาธิการวุฒิสภา ตรวจสอบต่อว่าได้มาปฏิบัติงานหรือไม่และดูสถิติการเซ็นชื่อว่ามีกี่ครั้ง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพูดถึง ส.ต.ท.หญิงกรศิร์ ได้รับเครื่องราชฯด้วย โฆษกคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา กล่าวว่า ประธานวุฒิสภา ได้ตอบคำถามนี้ไปแล้ว ว่าการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาและเลขานุการกรรมาธิการ จะมีเงินเดือน หากทำงานได้ 1-2 ปีก็มีสิทธิ์ ได้รับเครื่องราชฯ แต่ทั้งนี้ต้องไปตรวจสอบรายละเอียด ซึ่งคนผู้นั้นต้องมาช่วยราชการตามกรอบเวลา เพราะหากเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ จะไม่มีเงินเดือนและจะไม่ได้รับเครื่องราชฯ