Skip to main content
sharethis

ตำรวจเพิ่งจับ "ไฟซ้อน สิทธินนท์" พิธีกรเวที #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เพิ่มอีก 1 คนตามหมายจับข้อหายุยงปลุกปั่น ม.116 ที่ออกตั้งแต่ 2 ปีก่อน จนอัยการฟ้องคนอื่นในคดีไปเมื่อสัปดาห์ก่อน 

6 ก.ย.2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสทิธิมนุษยชนรายงานว่าเมื่อเวลา 13.53 น. ตำรวจเข้าจับกุม สิทธินนท์ ทรงศิริ หรือ ไฟซ้อน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยใช้หมายจับที่ออกโดยศาลธัญบุรีตั้งแต่ 14 ส.ค.2563 ในข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และกำลังนำตัวไปที่ สภ.คลองหลวง

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าเหตุที่ใช้จับกุมสิทธินนท์คือเขาได้ขึ้นเป็นพิธีกรในเวที #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2563 ที่ลานพญานาค ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต

ศูนย์ทนายความฯ รายงานเพิ่มเติมว่า 16.00 น. หลังทนายความติดตามไปถึง สภ.คลองหลวง และตำรวจจัดทำบันทึกจับกุมเสร็จสิ้นแล้วตำรวจเร่งนำตัวสิทธินนท์ไปยังศาลจังหวัดธัญบุรีทันทีเพื่อยื่นขอฝากขังต่อศาล

ล่าสุดเมื่อ 17.30 น. หลังจากทนายความยื่นขอประกันตัวไฟซ้อนต่อศาลจังธัญบุรี ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวโดยต้องวางเงินประกันเป็นจำนวน 100,000 บาท

ตำรวจรัวออกหมายคดีชุมนุม - ศอปส.ร้องถอนประกัน อานนท์ เพนกวิน ไมค์

สิทธินนท์เคยมีชื่อปรากฏอยู่ในข่าวที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับร่วมกับ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง, ภาณุพงศ์ จาดนอกหรือไมค์ , อานนท์ นำภา, ณัฐชนน ไพโรจน์, ธนวัฒน์ จันผลึกหรือลูกมาร์ค ตั้งแต่ 18 ส.ค.2563 มาก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตามคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุมครั้งนี้ อัยการเพิ่งส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดธัญบุรีไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา(30 ส.ค.) โดยจำเลยในคดีมีเพียงปนัสยา, ภาณุพงศ์, อานนท์ , ณัฐชนน, พริษฐ์ ชิวารักษ์หรือเพนกวิน และชนินทร์ วงษ์ศรี หรือบอล เท่านั้นโดยไม่ได้มีสิทธินนท์รวมอยู่ด้วย

สำหรับคดีที่อัยการส่งฟ้องไปแล้วนี้มี 3 ข้อหาได้แก่ ยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) และฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่สำหรับชนินทร์มีเพียงข้อหาเดียวคือฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยอัยการระบุพฤติการณ์ว่าพวกเขาร่วมกันจัดชุมนุมดังกล่าวโดยมีการกล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาลและสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย

นอกจากนั้นอัยการยังระบุว่าในการชุมนุมยังมีการนำภาพของบุคคลอื่นคือสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ซึ่งเป็นผู้กระทําความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและอยู่ระหว่างหลบหนี ขึ้นบนจอแอลอีดีบนเวทีปราศรัยพร้อมข้อความไม่เหมาะสมและมิบังควรขึ้นฉายบนเวทีซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงรัฐบาลและสถาบันกษัตริย์ คือมีเสียงดนตรี คล้ายในข่าวพระราชสํานัก และเมื่อปรากฏภาพของบุคคลทั้งสองอยู่บนจอ พร้อมกับมีข้อความว่า “ด้วยข้าว ด้วยแกงอ่อม ขอหมูกระทะ” และข้อความว่า “ทรงพระเจริญ” พร้อมกับคํากล่าวนําว่า “ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ”

อัยการระบุว่าการกระทำดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสมและมิบังควร เพื่อเป้นการปลุกปั่นผุ้ชุมนุมและประชาชนให้เกิดความรู้สึกเห็นด้วยหรือคล้อยตาม เกลียดชังต่อต้านรัฐบาลและสถาบันกษัตริย์ ปลุกระดมให้เกิดความปั่นป่วน ใช้ข้อมูลเท็จเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายและใช้ความรุนแรง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ เกิดความแตกแยกของคนในชาติ อันนำไปสู่การล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ศาลอนุญาตให้ปนัสยา, ภาณุพงศ์, อานนท์ , ณัฐชนน, พริษฐ์ และชนินทร์ประกันตัวโดย 5 คนแรกต้องวางเงินประกัน 100,000 บาท ส่วนชนินทร์ต้องวางเงินประกัน 20,000 บาท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net