Skip to main content
sharethis
  • 'แพทองธาร’ ชวนฟังเซอร์ไพรส์เปิดนโยบายในเวทีครอบครัวเพื่อไทย จ.เชียงใหม่ 10 ก.ย. ยันแนวคิดจำนำข้าวเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องนำมาปรับแก้ไข บอกสื่อให้รอเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ช่วงโหมดเลือกตั้ง ชี้อยู่ที่ประชาชนจะลิขิต
  • เกษตรกรร้องเพื่อไทย หลังราคาลำไยตกต่ำทำเกษตรกรสุดช้ำ ‘ชลน่าน-แพทองธาร’ ชี้ทางออกแก้ปัญหาสินค้าเกษตรด้วย ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มมูลค่า’  ชี้ ‘ซันสวีทโมเดล’  ตัวอย่างทางรอด แก้ผลผลิตล้นตลาด 

 

9 ก.ย. 2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ที่บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังรับฟังปัญหาพี่น้องขาวสวนลำไยภาคเหนือและเยี่ยมชมขั้นตอนการผลิตแปรรูปข้าวโพด ถึงการเปิดนโยบายทางการเกษตรของพรรคเพื่อไทยว่า จริงๆ อยากจะขายนโยบายในวันเดียวกันนี้ แต่คงต้องรอวันที่ 10 ก.ย.นี้ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะมีการแถลงนโยบายของเวทีครอบครัยเพื่อไทย จ.เชียงใหม่ เพราะเป็นนโยบายที่พรรคช่วยกันคิดและทำงานหนักเพื่อนำปัญหาของประชาชนมาแก้ไขจริงๆ โดยจะเริ่มเปิดนโยบาย

“เกษตรกรเป็นแรงสำคัญเป็นแรงพลังหลักไม่ใช่เรื่องการหาเสียงเท่านั้น แต่ความกินดีอยู่ดีของพี่น้องต้องเริ่มที่เกษตรกร เกษตรกรแข็งแรง มันจะสะท้อนภาพใหญ่ของประเทศไทยให้ประเทศแข็งแรงไปด้วยกัน”  แพทองธาร ระบุ

เมื่อถามถึงนโยบายจำนำข้าวจะเดินหน้าต่อหรือไม่นั้น แพทองธาร กล่าวว่า ต้องขอไปทบทวนในเรื่องกระบวนการอีกครั้งก่อนโดยจะต้องทำให้ดี แน่นอนมีกระบวนการที่มีปัญหาเราต้องนำมาแก้ไข ตอบสนองพี่น้องประชาชนจริงๆ ทั้งนี้ จำนำข้าวเป็นการช่วยพี่น้องเกษตรกรในภาพกว้าง จุดมุ่งหมายของพรรคเพื่อไทยต้องการให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ยืนยันแนวคิดจำนำข้าวยังคงเป็นสิ่งที่ดี พร้อมขอให้รอดูเซอร์ไพรส์ในการเปิดนโยบายวันที่ 10 ก.ย.นี้

เมื่อถามถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะเปิดตัวได้เร็วขึ้นหรือไม่นั้น หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้มีการกำหนดวันเลือตั้งที่ชัดเจนก่อน พรรคเพื่อไทยจะประกาศอย่างชัดเจนแน่นอน พร้อมระบุด้วยว่าอยู่ที่ประชาชน คนในพรรคและเรื่องของเวลาด้วย เรื่องเวลาเมื่อวันเลือกตั้งมาถึง ประเทศต้องไปต่อต้องเป็นพรรคที่เสนอนโยบายตอบโจทย์ประชาชนจริงๆ แก้ปัญหาให้ประชาชนเอาประชาชนมาเป็นหลัก นั่นคือหัวใจประชาธิปไตย 

“รอลุ้นสิ ทำไมพี่ๆ นักข่าวให้ชอบไม่มีเซอร์ไพรส์” แพทองธาร กล่าว

ต่อคำถามที่ว่าจะมีชื่อของแพทองธารเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่นั้น แพทองธาร กล่าวว่า ต้องกราบขอบพระคุณที่ผลโพลสะท้อนออกมาสนับสนุน ก็ทำให้ตนเองดีใจมากๆ โดยเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อต้องรอดู ถ้ามีเหตุการณ์อะไรอีกโพลอาจจะเปลี่ยนอีกก็ได้

ถามว่า จากนี้ต้องลงพื้นที่เยอะมากขึ้นจะต้องใช้ใจบันดาลแรงหรือไม่ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า อะไรที่เรามีใจอยู่แล้วก็ไม่ต้องผลักมันมาก

ขณะที่ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะให้การสนับสนุนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ 11 เขต ซึ่งเป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทยทั้ง 11 เขต 

เกษตรกรร้องราคาลำไยตกต่ำทำเกษตรกรสุดช้ำ 

นอกจากนี้แกนนำพรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุยรับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ที่สหกรณ์การเกษตร สันป่าตองสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่  

โดย ตัวแทนเกษตรกร จ.ลำพูน สะท้อนปัญหาว่า ลำไยคือพืชผลทางการเกษตรที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนภาคเหนือ ที่ผ่านมารัฐบาลไม่สนใจในการแก้ไขปัญหา และรัฐแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด เช่น การรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกรของล้ง (พ่อค้าคนกลาง) ไม่เป็นไปตามมาตรฐานเครื่องร่อนลำไยที่คัดแยกไว้ แต่เมื่อล้งนำไปจำหน่ายต่อกลับนำเอาลำไยเกรดใกล้เคียงกันไปขายรวมเกรดกัน เช่น ลำไยเกรด AA กิโลกรัมละ 12 บาท  เกรด  A อยู่ที่  5 บาท เกรด B อยู่ที่ 4 บาท เกรด C อยู่ที่ 3 บาท โดยพบว่าราคาลำไยเกรด AA และ เกรด A ราคาแตกต่างกันมาก แต่เมื่อล้งรับซื้อไปขายต่อกลับนำไปขายปะปนกันแบบเฉลี่ยราคา จึงอยากให้พรรคเพื่อไทย เข้ามาแก้ไขปัญหานี้  เพราะที่ผ่านมา  ก่อนการเกิดรัฐประหาร  เมื่อผลผลิตลำไยกำลังจะถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว  รัฐบาลเพื่อไทยจะเข้ามาพูดคุยกับเกษตรกร และล้ง  เพื่อกำหนดราคารับซื้อลำไยร่วมกัน  จึงอยากให้นำแนวทางนี้กลับมาอีกครั้ง เชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาลำไยราคาตกต่ำได้  นอกจากนี้ ตัวแทนเกษตรกรอยากให้พรรคเพื่อไทยผลักดัน ร่าง  พ.ร.บ. ลำไย  ต่อในสภา  ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นการหารือทางออกร่วมกันระหว่างฝ่ายราชการ  เกษตรกร และล้ง เพื่อให้การผลิตและการจำหน่ายสอดคล้องได้ราคาที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย  เพราะที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน  เกษตรกรผู้ปลูกลำไยกำลังล่มสลาย รัฐบาลไม่เคยดูดำดูดี 

ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเสนอของพี่น้องเกษตรกรในการชดเชยราคาสินค้าเกษตรตรงไปที่เกษตรกร  พรรคเพื่อไทยอยู่ในระหว่างการหาทางออกที่ดีที่สุด เพื่อให้การชดเชยถึงมือพี่น้องเกษตรกร ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะพลิกชีวิตเกษตรกร ให้เป็นการเกษตรแบบใหม่ด้วยวิธีการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพราะเรามองว่า “ทุกข์ของแผ่นดิน คือทุกข์ของเพื่อไทย”  ส่วนความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำผ่านร่าง พ.ร.บ.ลำไยที่ได้ยื่นต่อประธานสภาไปนั้น จะได้รับความสนใจจากรัฐบาลหรือไม่ จะเป็นตัวชี้วัดในการแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรได้เป็นอย่างดี  มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจเลือก ส.ส.เพื่อไทยครบทั้ง 11 เขตในการเลือกตั้งครั้งหน้า

พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ดูแลด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  ทุกข์ของเกษตรกรคือทุกข์ของแผ่นดิน พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน ปัญหาของเกษตรกรและชาวสวนลำไยคือปัญหาของพรรคเพื่อไทยด้วย โดย ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้หารือร่วมกันคิดหาทางออกไว้หลายเรื่อง ที่ผ่านมาเกษตรกรผลิต  พาณิชย์ไปขาย แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยกลับข้าง เพราะเราหาตลาดให้แล้ว เช่น ลำไยผลสุกตก เราเห็นช่องทางขายที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีประชากรพันล้านคน และมีประชากรที่บริโภคมังสวิรัตจำนวนมาก และลำไยเป็นผลไม้เป็นที่ต้องการของตลาดเพราะให้พลังงาน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หาช่องทางขายได้ แต่รัฐบาลไม่สนใจ ไม่สามารถหาวิธีการจัดการผลผลิตได้  แม้เราพยายามผลักดันกฎหมาย  แต่อาจไม่ใช่ทางออกทั้งหมด  แต่คืออำนาจในการต่อรองของเกษตรกร  และจะยิ่งเป็นคำตอบให้กับเกษตรกรมากขึ้น เพราะเมื่อเพื่อไทยเป็นรัฐบาล “เราทำทันที เราแก้ปัญหาพี่น้องเกษตรกรได้แน่นอน”  

หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การพัฒนาเชียงใหม่และจังหวัดภาคเหนือ เป็นสิ่งที่รัฐบาลตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนมาถึงเพื่อไทยยังคงไว้ซึ่งค่านิยมเดิม ภายใต้ไอเดียใหม่เป็นคำตอบให้กับพี่น้องประชาชนและสามารถทำได้จริง หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างดีที่สุด พรรคเพื่อไทยขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรกร มีแรงกาย แรงใจ เพื่อเตรียมพร้อมให้พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์  เพื่อให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถของพรรคเพื่อไทย  เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ 

พรรคเพื่อไทย ได้เยี่ยมชมและศึกษาโมเดลการเกษตรแบบใหม่ที่โรงงานข้าวโพดซันสวีท ซึ่งพรรคเพื่อไทยสนใจใน   ‘ซันสวีทโมเดล’  เป็นการดำเนินโครงการร่วมกับเกษตรกรแบบเกษตรพันธะสัญญา (Contract farming) ด้วยการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทำให้สามารถใช้การวางแผน จัดการความเสี่ยงสินค้าเกษตร จนสามารถมีข้าวโพดดิบป้อนโรงงาน ต่อเนื่องสม่ำเสมอที่ 600-700 ตัน/วัน เกิดการจ้างงานในพื้นที่กว่า 1,600 คน และผลิตสินค้าได้ 24 ชั่วโมง  ปัจจุบันมีเกษตรกรร่วมโครงการ 20,000 ราย พื้นที่ร่วมโครงการ 200,000 ไร่

แพทองธาร กล่าวภายหลังเยี่ยมชมโรงงานข้าวโพดซันสวีท โดยยืนยันว่า พี่น้องเกษตรกรคือแรงสำคัญ  เป็นพลังหลัก  ปัญหาปากท้องและความกินดีอยู่ดีต้องเริ่มที่พี่น้องเกษตรกร เมื่อเกษตรกรแข็งแรง จะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศแข็งแรงให้ไปด้วยกัน  ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (10 กันยายน 2565) จะมีการเปิดตัวนโยบายพรรคเพื่อไทยเป็นครั้งแรก  อยากให้พี่น้องประชาชนติดตาม เพราะผ่านการทำงานอย่างหนักของพรรคเพื่อไทย  และจะมีการทยอยเปิดตัวนโยบายหลังจากนี้ 

ส่วนโครงการจำนำข้าวจะดำเนินการต่อหรือไม่เบื้องต้นจะต้องปรับแก้ไข ทบทวนในบางกระบวนการ เพื่อให้ตอบสนองปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรได้อย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงการนี้คือการดิสรัปต์ช่วยพี่น้องเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะจุดมุ่งหมายเดิมคือการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร 

“ที่ผ่านมาการลงพื้นที่ อิ๊งค์มีพรรคเพื่อไทยสนับสนุน  เราเดินหน้าหาเสียงตามจุดมุ่งหมายของเรา  เพื่อให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นจริงๆ  อิ๊งค์พร้อมที่จะไปเจอพี่น้องประชาชน  พร้อมรับฟังปัญหา  และปรึกษากับพรรคเพื่อไทยจะหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน  เรานำเสนอความตั้งใจแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน  อะไรที่มีใจอยู่แล้ว  เราไม่ต้องผลักมันมากค่ะ” แพทองธาร (อิ๊งค์) กล่าว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net