Skip to main content
sharethis

บอร์ด สปสช. รับทราบข้อเสนอรับฟังความเห็นทั่วไปฯ ปี 2565 พัฒนาคุณภาพบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบบัตรทอง ขยายการมีส่วนร่วมภาคประชาชน พร้อมเห็นชอบแนวทางการรับฟังความเห็นฯ ปี 2566 สร้างความเข้าใจ-เพิ่มช่องทาง-ตอบสนองรวดเร็ว เพื่อการแก้ไขเชิงระบบ  

15 ก.ย. 2565 ทีมสื่อ สปสช. แจ้งข่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 9/2565 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2565 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน ได้ร่วมกับรับทราบผลรายงานการรับฟังความคิดเห็นทั่วไปจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ประจำปี 2565 รวมถึงมอบข้อเสนอจากการรับฟังความคิดเห็นฯ ให้คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน และอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณาและดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งเห็นชอบแผนพัฒนาแนวทางการรับฟังความเห็นทั่วไปฯ ประจำปี 2566  

ทั้งนี้ การจัดรับฟังความเห็นฯ ประจำปี 2565 คณะทำงานได้กลั่นกรองข้อเสนอออกมาเป็นจำนวนทั้งหมด 35 ข้อ ครอบคลุม 8 ด้าน ได้แก่ 1.ประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข 2.มาตรฐานบริการสาธารณสุข 3.การบริหารจัดการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 4.หลักเกณฑ์และการบริการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 5.การบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นและพื้นที่ 6.การมีส่วนร่วม 7.การรับรู้และคุ้มครองสิทธิ 8. ด้านอื่นๆ นอกจากนี้ได้รับฟังความเห็น 3 ประเด็นเพิ่มเติมที่ได้รับมอบหมายจากบอร์ด สปสช. ได้แก่ 1.การบริหารจัดการหลังสถานการณ์โควิด ระบบบริการรองรับที่จำเป็น 2.บัตรทองรักษาทุกที่ ต่อยอดให้ดีขึ้นได้อย่างไร และ 3.คนไทยใช้สิทธิบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้ทุกที่ 

สำหรับข้อเสนอในปี 2565 เช่น เพิ่มสิทธิประโยชน์ผ้าอนามัยในวัยรุ่นหญิงที่มีประจำเดือน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้ต้องขัง ผู้มีฐานะยากจน ฯลฯ ชุดตรวจตั้งครรภ์ด้วยตนเอง (Pregnancy Test) ที่เดิมมีเฉพาะในหน่วยบริการ เบาะรองนั่งลมสำหรับผู้พิการที่ต้องนั่งเป็นเวลานาน เพิ่มยารักษามะเร็งปอดและมะเร็งตับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอจ่ายเงินชดเชยค่าบริการโดยตรงให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพิ่มองค์ประกอบภาคประชาชนในคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) พัฒนาศักยภาพประชาชนในการจัดทำโครงการข้อเงินสนับสนุนจาก กปท. (สำหรับเขต 13 กรุงเทพมหานคร) ฯลฯ 

รวมถึงมีข้อเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข ในการวางระบบให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการโดยใช้การวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยีราคาสูง การเพิ่มช่องทางด่วน (Fast-track) เจาะตรวจเลือดพระสงฆ์ เนื่องจากการฉันอาหารมีกำหนดเวลาเฉพาะ รวมถึงขยายเวลาบริการทันตกรรมและศัลยกรรม เพื่อชดเชยช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถมารับบริการได้ ฯลฯ 

ส่วนข้อเสนอใน 3 ประเด็นเพิ่มเติมที่ได้รับมอบหมายจากบอร์ด สปสช. อาทิ เพิ่มช่องทางเฉพาะ/ช่องทางออนไลน์ สำหรับให้บริการผู้มีปัญหาสุขภาพจิต เพิ่มค่า Doctor Fee สำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในรายการ Fee Schedule ของบริการระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telehealth/Telemed), เพิ่มความจูงใจร้านยาเพื่อร่วมโครงการลดความแออัด, สนับสนุนข้อมูลการดำเนินงานและความรู้ แก่ คณะกรรมการหน่วยฯ 50(5) เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น   

ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากการรับฟังความเห็นในปี 2565 นี้ ตามที่คณะทำงานกลั่นกรองภายใต้อนุกรรมการสื่อสารสังคมและรับฟังความคิดเห็น ได้สรุปข้อเสนอออกมา 35 ข้อ โดย บอร์ด สปสช.มีมติส่งมอบให้คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขและอนุกรรมการชุดที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว พร้อมรายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้บอร์ดรับทราบต่อไป สำหรับการรับฟังความเห็นฯ ในปีที่ผ่านมานี้ สปสช. ทำในรูปแบบแบบผสมผสานกัน ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งแบบออฟไลน์จะมีทั้งประชุมคณะทำงาน focus group กลุ่มเฉพาะ เช่น คนพิการ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ พระสงฆ์ กลุ่มชาติพันธุ์ ฯลฯ ในส่วนออนไลน์จะมีแบบสอบถามจาก Google from ผ่านการ Facebook Live การประชุมผ่านสื่อออนไลน์ รวมถึงโปรแกรม Hearing online ตลอดทั้งปี  

ส่วนการรับฟังความคิดเห็นทั่วไปฯ ตามมาตรา 18 (13) ประจำปี 2566 ที่ผ่านมาได้มีการจัดทำแนวทางการรับฟังความเห็น ซึ่งมีการทำ 3 ประเด็นควบคู่กันไป ทั้งการปรับปรุงประเด็นการรับฟังความคิดเห็นเพื่อทำความเข้าใจ การเพิ่มช่องทางการรับฟังความคิดเห็น เช่น 2 ช่องทางที่พึ่งเพิ่มเข้ามาในปีนี้อย่าง ทราฟฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) และไลน์ สปสช. สุดท้ายคือ การเน้นการตอบสนองข้อเสนอระดับเขตอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดการแก้ไขในเชิงระบบ รวมถึงแจ้งข้อมูลให้ผู้เสนอความคิดเห็นทราบถึงความคืบหน้า เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของระบบสุขภาพ 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net