Skip to main content
sharethis

พีมูฟ 20 จังหวัด ตบเท้ายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ถึง ‘ประวิตร’ ประธานกรรมการแก้ปัญหาพีมูฟ จี้เดินหน้าแก้ปัญหา หลังผ่านเคลื่อนไหวใหญ่ มีมติ ครม.กว่า 7 เดือนไม่คืบหน้า ชี้เป็นคำขาดทางการเมืองจากภาค ปชช.

 

16 ก.ย. 2565 พชร คำชำนาญ รายงานต่อสื่อวันนี้ (16 ก.ย.) ในช่วงเช้า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) อย่างน้อย 20 จังหวัด เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัด ยื่นหนังสือถึง ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ในนามประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด จี้ให้เร่งรัดแก้ไขปัญหา โดยเป็นเวลากว่า 7 เดือนหลังพีมูฟ เคลื่อนไหวใหญ่ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ถึงต้นเดือน ก.พ. 2565 จนมีมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 2 ก.พ. 2565 เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาพีมูฟ 15 ประเด็น และมีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ อีกครั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565 แต่จนถึงวันนี้หลายกรณีแม้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการก็ยังไม่คืบหน้า

โดยปรากฏภาพว่ามีการเคลื่อนไหวยื่นหนังสืออย่างน้อย 19 จังหวัด ใน 4 ภาค ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พังงา ระนอง ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ อุบลราชธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น ศรีษะเกษ สุรินทร์ ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน แม่ฮ่องสอน และตาก

8 ข้อเรียกร้องเร่งด่วน พีมูฟขอเร่งรัดดำเนินการ

ในหนังสือถึง ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุข้อเรียกร้องเร่งด่วนเพื่อเร่งรัดดำเนินการ ดังนี้

1. ขอให้เร่งรัดคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จัดประชุมเพื่อพิจารณายกระดับการจัดการที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชนและดำเนินการตรวจสอบพื้นที่โฉนดชุมชน 486 ชุมชน โดยให้เร่งรัดเพื่อประกาศรับรองพื้นที่ของพีมูฟ จำนวน 196 ชุมชน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการตามมาตรการของ คทช. ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในพื้นที่ของพีมูฟเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีระเบียบหรือหลักเกณฑ์ปฏิบัติของ คทช. ตามมาตรา 10 (4) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ที่ชัดเจน โดยให้ คทช. เร่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน 

2. เร่งผลักดันร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานศึกษาร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ เพื่อออกกฎหมายนิรโทษกรรมดังกล่าวให้ทันในสมัยของอายุรัฐบาลชุดนี้ 

3 .ขอให้คณะรัฐมนตรีเร่งพิจารณาให้ความเห็นชอบกรณีชุมชนที่อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาที่ดินทุกประเภทเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า ประปา ทะเบียนบ้านและปรับปรุงที่อยู่อาศัยได้

4. ขอให้ท่านในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เร่งลงนามให้คำรับรอง “ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง พ.ศ. .... ฉบับประชาชน 16,559 คนเข้าชื่อเสนอกฎหมายฯ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่ากฎหมายดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงิน ต้องส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาให้นายกรัฐมนตรีเพื่อให้คำรับรองโดยเร่งด่วน และผลักดันร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ฉบับ พ.ศ. ...ที่ร่างโดยศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องค์การมหาชน) (ศมส.) ตามคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2562 ด้านการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติและคุ้มครองวิถีชีวิตของชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ฯ

5. เร่งรัดผลักดันนโยบายการจัดระบบสวัสดิการถ้วนหน้า 9 ด้าน ประกอบด้วย ด้านเด็กและเยาวชน ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ ด้านที่อยู่อาศัยและที่ดิน ด้านงานและรายได้ ด้านการประกันสังคม ด้านระบบบำนาญประชาชน ด้านสิทธิทางสังคม ได้แก่ การยกระดับเบี้ยยังชีพคนพิการ สิทธิในการข้ามเพศ ชนเผ่าพื้นเมืองและผู้ไร้สถานะทางบุคคล พนักงานบริการ (Sex Worker) คนไร้บ้าน ภายใต้การให้ความเคารพและยอมรับในหลักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเข้าถึงสิทธิสวัสดิการถ้วนหน้า สิทธิสวัสดิการผ้าอนามัย สิทธิการเข้าถึงขนส่งสาธารณะและพื้นที่สาธารณะ การยกเลิกหลักสูตรการศึกษาที่สร้างอคติความเกลียดชัง เหยียดเชื้อชาติ เพศสภาพ ชนชั้น ด้านภาษีและงบประมาณ ทั้งนี้ ให้มีมาตรการในการพัฒนาสวัสดิการสังคมโดยเร่งด่วน

6. ขอให้ท่านในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เร่งลงนามให้คำรับรองใน “ร่างพระราชบัญญัติป้องกันบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. .... (ฉบับประชาชนเข้าชื่อเสนอกฎหมาย) 

7. เร่งรัดผลักดันให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการแก้ไขปัญหาที่ดินทุกประเภท ตามมติการประชุมของคณะอนุกรรรมการประสานงานเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมและขับเคลื่อนนโยบาย 9 ด้าน ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2565 โดยเร่งด่วน

8. เร่งรัดให้มีการดำเนินการตามมติการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ครั้ง 1/2565 เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 โดยการผลักดันพื้นที่คุ้มครองทางวัฒนธรรมบ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน คุ้มครองวิถีการทำไร่หมุนเวียน และขอให้อัยการจังหวัดเพชรบุรีสั่งไม่ฟ้องคดีชาวบ้านบางกลอย 28 ราย โดยเร่งด่วน

ย้ำเจตจำนง 'คำขาดทางการเมือง' ถึงประวิตร-รัฐบาล-พรรคร่วม

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2565 พีมูฟได้ออกแถลงการณ์เรื่อง คำขาดถึง 'ประวิตร วงษ์สุวรรณ' เร่งรัดแก้ปัญหา P-Move ตามมติคณะรัฐมนตรี 1 ก.พ. 2565 โดยได้กล่าวถึงข้อเรียกร้องทั้ง 8 ข้อ และชี้ว่าหลายกรณีแม้จะมีมติเห็นชอบและให้เร่งรัดดำเนินการแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า รวมถึงในหลายกรณีปัญหาสถานการณ์ในระดับพื้นที่กลับรุนแรงขึ้น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบายก็พบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับดำเนินการตรงกันข้าม โดยที่ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ก็มีได้แสดงถึงความใส่ใจในการกำกับดูแลหน่วยงานเหล่านั้นให้ปฏิบัติตามมติแต่อย่างใด ฉะนั้น การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงเป็นการแสดงเจตจำนง 'คำขาดทางการเมือง' ถึงรัฐบาลทุกภาคส่วน

"พีมูฟ ขอประกาศว่า การออกมาแสดงเจตจำนงครั้งนี้ของเราเป็นการยื่นคำขาดทางการเมืองถึงทุกภาคส่วน นับจากวันนี้ไปหากยังไม่มีความคืบหน้าใดเกิดขึ้น หากยังมีการเฉยชาต่อข้อเรียกร้องของประชาชน ย่อมแสดงให้เห็นว่าภายใต้อำนาจของประวิตร วงษ์สุวรรณ และรัฐบาลชุดนี้ ไม่มีใครสนใจและจริงจังดำเนินการแก้ไขปัญหาของภาคประชาชนอย่างแท้จริง และเราจะกำหนดความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างภาคประชาชนกับ 'ประวิตร วงษ์สุวรรณ' รัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป" แถลงการณ์พีมูฟ ระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net