‘ณัฐชา ก้าวไกล’ โต้เลขาสมศักดิ์ช่วยประชาชนอย่ากลัวตอ แนะต้องขุดตอ ด้าน เลขาฯ รมว.ยุติธรรม แจ้ง 'ตอ' คือถูกฟ้อง ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนใหญ่คนโต 

16 ก.ย.2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณีเลขารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมกล่าวในรายการโหนกระแส ที่ออกอากาศเมื่อวันพฤหัสบดี (15 ก.ย.) ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3HD เตือนให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียระมัดระวังการขุดคุ้ยข้อมูลและเปิดโปงเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ Forex-3D (ฟอเรกซ์-ธรีดี) เพราะอาจเจอ "ตอ" หรือบุคคลผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ณัฐชาระบุว่าไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้จากคนใกล้ชิดรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในขณะที่พี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อน กลับกลายเป็นว่าพึ่งพาอะไรกระทรวงยุติธรรมไม่ได้หรืออย่างไร คำตอบที่ออกมา เป็นการข่มขู่พี่น้องประชาชนหรือไม่ หรือเลขาท่านนี้กำลังช่วยปกปิดความไม่ชอบมาพากล นอกจากนี้ การพูดแบบนี้ยังบ่งบอกถึงระบบอุปถัมภ์ที่กลืนกินสังคมไทยไปในทุกๆ วงการ และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคำพูดว่าผู้กระทำความผิด 4-5 หมื่นคน จะเอาคุกที่ไหนขัง อันนี้ยิ่งซ้ำเติมหน่วยงานที่ดูแลกรมราชทัณฑ์โดยตรง

“ไม่รู้ว่า ท่านสมศักดิ์ ได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของเลขาท่านนี้หรือยังอย่าให้ความเสียหายของการให้สัมภาษณ์แบบนี้กระทบต่อตัวท่านและกระทรวงยุติธรรมเลยครับ ท่านควรรีบออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าว เพราะบอกตรงๆ ผมไม่สบายใจ” ณัฐชาระบุ

นอกจากนี้ ณัฐชายังกล่าวอีกด้วยว่า ทุกครั้งที่ประชาชนเดือดร้อนจากการหลอกลงทุน ก็จะหันไปหาหน่วยงานต่างๆ ภายใต้กระทรวงยุติธรรม แต่หน่วยงานภายใต้ ก.ยุติธรรม กลับมีกระบวนการในการดำเนินคดีที่ล่าช้าและไม่เป็นบวกกับผู้เสียหาย แต่เป็นคุณกับผู้กระทำผิด อยากให้เร่งเยียวยาผู้เดือดร้อนกับเงินที่ยึดมาก่อนเบื้องต้น

ตอนนี้ความชัดเจนคือคดีต้องแล้วเสร็จถึงจะคืน แต่หลายคนกู้ยืมมาอยากให้กระทรวงยุติธรรมป็นตัวกลางคืนเงินให้กับผู้ที่เดือดร้อนก่อนตามลำดับความสำคัญ โดยมีหลักเกณฑ์วิธีการคืนเงินตามลำดับที่ชัดเจน  อย่าตอกย้ำความทุกข์ประชาชนไปยากกว่านี้เลย 

ทั้งนี้ ณัฐชาได้เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ วิธีสังเกตความผิดปกติ ได้แก่ การลงทุนที่โฆษณาว่าลงทุนน้อยผลตอบแทนสูง เชียร์ให้ลงทุนมากๆ โดยไม่มีการคำนึงถึงความเสี่ยง เน้นหาเครือข่ายและให้เงินเพิ่มเมื่อชักชวนผู้อื่นมาลงทุนได้ และการลงทุนลักษณะนี้มักอ้างว่ามีคนมีชื่อเสียงร่วมลงทุน ถ้าเจอการชักชวนให้ลงทุนในลักษณะนี้ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเพราะอาจสูญเงินเราได้

"แชร์ลูกโซ่เป็นปัญหาที่รัฐบาลกลับปล่อยปะละเลยไม่มีมาตรการเชิงรุกในการป้องปรามการกระทำ จับผู้กระทำผิดมาลงโทษ และให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน ซึ่งการดำเนินคดีอย่างจริงจังเป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมและตำรวจโดยตรง อย่าอ้างว่าขุดไปจะเจอตอ ถ้าขุดไปแล้วเจอตอผมแนะนำให้ขุดตอ ออกไปด้วยสังคมจะได้ดีขึ้น" ณัฐชากล่าวทิ้งท้าย

เลขาฯ รมว.ยุติธรรม แจ้ง 'ตอ' คือถูกฟ้อง ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนใหญ่คนโต

แนวหน้า รายงานด้วยว่า ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่พูดออกไปว่าเพจรวบรวมผู้เสียหาย forex 3D และบุคคลต่างๆหากออกมาขุดคุ้ยลงไปมากๆให้ระวังไปเจอตอนั้น ทำให้ทัวร์ลงตนทั้งคืน ขอชี้แจงคำว่า "ตอ" ในที่นี้หมายถึง การขุดคุ้ยข้อมูลของคนดังที่มีข้อมูลว่าเป็นแม่ข่ายทีมต่างๆให้ระมัดระวัง เพราะหากผลการสืบสวนสอบสวนออกมาแล้วไม่เป็นความจริง บุคคลที่ขุดคุ้ยอาจถูกดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือ หมิ่นประมาทได้ซึ่งตนเปรียบเทียบว่า การถูกดำเนินคดีเป็นเหมือน ตอ ไม่ได้หมายความว่าจะไปเจอคนใหญ่คนโตหรือบุคคลใดมากดดัน

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าตั้งแต่เริ่มดำเนินการในคดี forex 3D ตนเองและดีเอสไอดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีบุคคลใดสามารถกดดันตนเองได้ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีคนใหญ่คนโตหรือบุคคลใดกดดันมา ซึ่งตนยืนยันชัดเจนว่าหากมีการกดดันจากกลุ่มบุคคลใดก็ตามจะนำเรื่องออกมาเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบทันที เพราะตนเองก็ยอมรับไม่ได้หากจะมีการกดดันด้วยวิธีการต่างๆเพราะผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากคดีดังกล่าวมีเป็นจำนวนมาก ยอมเอาเกียรติของตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมาเป็นประกัน และพร้อมจะพลีชีพ หากมีผู้มากดดัน

อนึ่ง ประเด็นที่เป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย มีการนำข่าวข่าวในพระราชสำนักที่เผยแพร่ในเว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2562 ว่า อภิรักษ์ โกฎธิ และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินกับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ซึ่งภายหลัง อภิรักษ์ ปรากฎชื่อเป็นซีอีโอของ Forex3D 

สำหรับการยกเลิกการบริจาคและรับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด เพื่อกำกับให้การเงินของสถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้การตรวจสอบทั้งหมด นั้น อยู่ใน 10 ข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ข้อ ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ด้วย โดยเมื่อเกิดกรณีนี้มีผู้ชี้ว่ายังเป็นการป้องกันการใช้ภาพการเข้าเฝ้าดังกล่าวเพื่อสร้างความเชื่อถือของคนเหล่านั้นด้วย