Skip to main content
sharethis

เพียงไม่กี่วันหลังพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต กลุ่มเรียกร้องสาธารณรัฐในอังกฤษ ‘รีพับลิก’ ลงโฆษณาขายเสื้อยืดสีเหลือง โดยมีข้อความ #NotMyKing และ #AbolishTheMonarchy เพื่อต่อต้านกษัตริย์ชาร์ลส ล่าสุด ประณามการจับกุมผู้ประท้วงต่อต้านระบอบกษัตริย์ และประกาศจัดประท้วงอย่างสันติไปจนถึงพิธีครองราชย์ในปีหน้า (2566) ด้านสื่อฝ่ายซ้าย 'จาโคแบง' กังวลต่อแนวโน้มเสรีภาพการประท้วงที่หดแคบลงในสหราชอาณาจักร 

 

18 ก.ย. 2565 แม้ว่าก่อนหน้านี้ กลุ่มรีพับลิก แสดงความเสียใจต่อการจากไปของพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ในวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา และประกาศพักการรณรงค์ 1 วัน โดยระบุว่า "ยังมีเวลาอีกมากในการถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของสถาบันกษัตริย์ ขณะนี้เราต้องแสดงเคารพการสูญเสียส่วนตัวของครอบครัวและให้พวกเขาและคนอื่นๆ ได้ไว้อาลัยการจากไปของแม่ ย่า และทวดคนหนึ่ง" 

อย่างไรก็ตาม วันที่ 10 ก.ย. กลุ่มรีพับลิก เริ่มการรณรงค์ต่อทันที โดยระบุว่าการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 3 เป็นการล้ำเส้นของระบอบประชาธิปไตย 

เกรแฮม สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มรีพับลิก ประกาศจุดยืนว่า "แม้เราตระหนักดีว่าหลายคนกำลังรำลึกถึงการจากไปของพระราชินี แต่บริเตนจำเป็นต้องมีการถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของสถาบันกษัตริย์ หลังการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลส" 

กลุ่มรีพับลิก เห็นว่า การขึ้นครองราชย์ต่อแบบอัตโนมัติของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 3 โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจของประเทศก่อนถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ เกรแฮมอ้างว่าประชาชนกว่า 1 ใน 4 ของสหราชอาณาจักรต้องการยกเลิกการมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์ ดังนั้น เรื่องนี้ควรเป็นหัวข้อการถกเถียงของสาธารณะโดยเร็ว 

ป้ายรณรงค์ของกลุ่ม Republic UK (ที่มา: บช.ทวิตเตอร์ @republicstaff)

แม้การสูญเสียพระมารดาของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 3 จะเป็นเรื่องน่าเห็นอกเห็นใจและเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่ระบบสืบทอดสันติวงศ์ของสถาบันกษัตริย์ ส่งผลให้ความสูญเสียในครอบครัวเกิดขึ้นพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านประมุขของรัฐตามรัฐธรรมนูญที่เป็นเรื่องสาธารณะอย่างมาก ดังนั้น การขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขของรัฐและบทบาทของสถาบันกษัตริย์จึงต้องถูกตั้งคำถามในช่วงเวลานี้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 

เกรแฮม ระบุว่า บริเตนเปลี่ยนไปอย่างมากจนแทบจำไม่ได้ หลังปี 2495 และการขึ้นครองราชย์ของพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ในสังคมสมัยใหม่และเป็นประชาธิปไตยของสหราชอาณาจักร ประมุขของรัฐไม่สามารถเข้ามาดำรงตำแหน่งได้โดยปราศจากการถกเถียงหรือการตั้งคำถามต่อความชอบธรรมของการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไป และความนิยมต่อสถาบันกษัตริย์ลดลง สหราชอาณาจักรจึงควรมีการถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

"เราเชื่อว่าบริเตนจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่ทางเลือกที่เป็นประชาธิปไตยแทนสถาบันกษัตริย์ที่สืบทอดอำนาจผ่านสายเลือด เราเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องเริ่มการถกเถียงได้แล้ว" เกรแฮม กล่าว

เตรียมจัดม็อบต้านกษัตริย์องค์ใหม่

ขณะที่รัฐพิธีต่างๆ หลังการสวรรคตของพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ถูกนำเสนอโดยสำนักข่าวต่างๆ 12 ก.ย. 65 กลุ่มรีพับบลิกได้ออกแถลงการณ์อีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้มีการรับฟังความเห็นของฝ่ายสาธารณรัฐนิยมในอังกฤษ เกมแฮม ระบุว่า เขาเข้าใจประชาชนที่ไว้อาลัยต่อการสวรรคตของพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แต่การขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 3 เป็นการกระทำทางการเมืองที่มีสิทธิถูกตั้งคำถามโดยฝ่ายที่เห็นต่าง 

ในช่วงไล่เลี่ยกับการออกแถลงการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11 ก.ย. 2565) พบรายงานว่าผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 22 ปี ถูกจับกุมหลังชูป้ายประท้วงเขียนว่า "Fuck จักรวรรดินิยม ยกเลิกสถาบันกษัตริย์" หน้ามหาวิหารเซนต์ไจลส์ กรุงเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นที่เก็บโลงพระบรมศพของพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ก่อนถูกนำมาตั้งในกรุงลอนดอนในเวลาต่อมา ต่อมา เธอถูกฟ้องในข้อหาละเมิดความสงบเรียบร้อย (breach of peace)

11 ก.ย. 2565 ที่อ๊อกซฟอร์ด ไซมอน ฮิลล์ นักกิจกรรมสันติภาพ ถูกตำรวจใส่กุญแจมือและนำตัวขึ้นรถตำรวจ หลังเขาตะโกนตั้งคำถามเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของกษัตริย์ชาร์ลสว่า "ใครเลือกเขามาหรือ" ขณะที่กำลังจะมีการอ่านคำประกาศครองราชย์ของกษัตริย์องค์ใหม่ เขาถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา และอาจถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ. ความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ พ.ศ. 2529 

 

 

12 ก.ย. 2565 ชายวัย 22 ปี ถูกจับในข้อหาตะโกนวิพากษ์วิจารณ์เจ้าชายแอนดรูว์ว่า "ไอ้แก่โรคจิต" ขณะอยู่ในพิธีแห่โลงศพของพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ในสกอตแลนด์ ในข้อหาละเมิดความสงบเรียบร้อย เมื่อต้นปีนี้เจ้าชายแอนดรูว์ยอมจ่ายค่าเสียหายเพื่อไกล่เกลี่ยคดีล่วงละเมิดทางเพศในสหรัฐอเมริกา หลังเวอร์จิเนีย จุฟเฟร ฟ้องพระองค์ว่า ล่วงละเมิดทางเพศเธออย่างน้อย 3 ครั้ง ขณะที่เธออายุ 17 ปี 

 

ภาพวิดีโอเหตุการณ์ที่มีวัยรุ่นคนหนึ่งตะโกนถึงเจ้าชายแอนดรูว์ เมื่อ 12 ก.ย. 2565 (ที่มา: บช.ทวิตเตอร์ Christopher Marshall)

13 ก.ย. 2565 พอล โพลส์แลนด์ ทนายความอายุ 36 ปี ถูกข่มขู่โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจของเวสต์มินสเตอร์ว่าจะทำการจับกุม หากเขาเขียนข้อความ "Not my king" ลงในกระดาษเปล่าและนำขึ้นมาชูประท้วง พอล ถ่ายคลิปวิดิโอเก็บไว้และนำมาเผยแพร่ในเวลาต่อไป กรมตำรวจนครบาลของอังกฤษระบุว่าทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยยืนยันว่าประชาชนมีสิทธิในการประท้วงอย่างเต็มที่ และเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนแล้ว

พอล โพลส์แลนด์ ขณะชูป้ายกระดาษ 'Not My King' หน้ารัฐสภาอังกฤษ (ที่มา: บช.ทวิตเตอร์ @paulpowlesland

ในช่วงเดียวกันนี้ แฮชแท็ก #NotMyKing ขึ้นเป็นเทรนด์บนทวิตเตอร์ กลุ่มรีพับลิก ได้โฆษณาจัดจำหน่ายเสื้อสีเหลืองปรากฎข้อความ "Not my king" และ "Abolish The Monarchy" กระแสเรียกร้องสาธารณรัฐเกิดขึ้นในประเทศเครือจักรภพ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และจาไมกา ขณะที่พระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เคยเป็นประมุขของรัฐในเครือจักรภพมากถึง 32 ประเทศ เมื่อมาถึงยุคของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 3 ตัวเลขในปัจจุบันลดลงเหลืออยู่ 14 ประเทศ

ภาพตัวอย่างเสื้อของกลุ่ม รีพับลิก (ที่มา: บช.ทวิตเตอร์ @RepublicStaff)

ท่ามกลางกระแสเรียกร้องเหล่านี้ กลุ่มรีพับลิก ออกแถลงการณ์ในวันที่ 13 ก.ย. 2565 เพื่อประณามการจับกุมผู้ประท้วงที่ออกมาเรียกร้องสาธารณรัฐ และประกาศว่าจะมีการจัดประท้วงขึ้นอีกเป็นระยะ จนไปถึงการจัดพิธีครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 3 ซึ่งสำนักข่าวหลายแห่งคาดว่าจะจัดขึ้นในปีหน้า (2566) แม้ว่าพระองค์จะขึ้นครองราชย์ไปแล้วในทางกฎหมายและในทางปฏิบัติโดยอัตโนมัติ หลังการสวรรณคตของพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 

กลุ่มรีพับลิก ระบุว่าจะเขียนไปถึงกรมตำรวจทั่วประเทศ เพื่อแสดงความกังวลต่อการจับกุมผู้ประท้วง และตั้งใจจะจัดการประท้วงเพื่อต่อต้านพิธีครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 3 โดยหวังว่าการประท้วงดังกล่าวเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้สามารถจัดได้อย่างราบรื่น แต่กลุ่มสิทธิมองว่าแนวโน้มการจับกุมผู้ประท้วงต่อต้านกษัตริย์ในอังกฤษยังคงเป็นปัญหาที่น่ากังวล

สิทธิการประท้วงในอังกฤษเป็นอย่างไร 

สื่อฝ่ายซ้าย จาโคแบง ระบุว่า รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมส่งผลให้เสรีภาพในการประท้วงอย่างสันติถดถอยลง แม้สหราชอาณาจักรจะไม่ได้ดำเนินคดีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับผู้เรียกร้องสาธารณรัฐ แต่กฎหมายต่างๆ ที่ออกมาทำให้มีการละเมิดสิทธิผู้ประท้วงในรูปแบบอื่น โดยในช่วงที่ผ่านมา ตำรวจมีเครื่องมือทางกฎหมายในการจับกุมและ/หรือดำเนินคดีกับผู้ประท้วงได้ 3 แบบ  

ประการแรก กฎหมายจารีตของอังกฤษให้อำนาจแก่ตำรวจในการควบคุมตัวผู้ที่่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่สาธารณะ แม้จะไม่ได้มีการนิยามเอาไว้อย่างเป็นกิจจะลักษณะ แต่ความผิดนี้ถูกเข้าใจกันโดยทั่วไปว่าหมายถึงการละเมิด การทะเลาะวิวาท การจราจล หรือการกระทำอื่นๆ ที่ส่งผลให้บุคคลอื่นหวาดกลัวว่าจะถูกคุกคาม ความผิดที่ว่านี้ไม่นับเป็นโทษอาญาในอังกฤษและเวลส์ แต่เป็นโทษอาญาในสก็อตแลนด์ 

ประการที่สอง ตามมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ พ.ศ. 2529 ที่ออกมาในสมัยรัฐบาล มากาเร็ต แทชเชอร์ ที่มีเนื้อหาว่าหากผู้ใดแสดงข้อความ ป้าย หรือภาพ ที่มีลักษณะคุกคาม ล่วงละเมิด หรือก่อให้เกิดความรำคาญหรือความไม่สบายใจต่อบุคคลใกล้เคียง ถือเป็นความผิดอาญา มีโทษปรับระดับ 3 หรืออยู่ที่ 1,000 ปอนด์ คิดเป็นประมาณ 40,000 บาท แต่ไม่มีโทษจำคุก 

ประการที่สาม ในปี 2565 รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมของบอริส จอห์นสัน ได้ออกมากฎหมายฉบับใหม่ชื่อว่า "พ.ร.บ.ว่าด้วยตำรวจ อาชญากรรม การพิพากษา และศาล" กฎหมายนี้ให้อำนาจกับตำรวจในการเข้าแทรกแซงการประท้วง หากการประท้วงถูกมองว่ามาถึงจุดที่ก่อให้เกิด "การหยุดชะงักอย่างรุนแรง" และ "ก่อให้เกิดความรำคาญในที่สาธารณะ ไม่ว่าโดยตั้งใจหรือโดยประมาท" 

สิทธิในการประท้วงโดยสันติยังคงได้รับความคุ้มครองในสหราชอาณาจักร เพราะการยอมรับอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กรมตำรวจนครบาลของอังกฤษอาจยืนยันว่าประชาชนมีสิทธิเต็มที่ในการประท้วง แต่หลายฝ่ายก็ไม่ได้สบายใจกับการออกมาชี้แจงของตำรวจแต่อย่างใด เพราะที่บอกว่าแจ้งแก่เจ้าหน้าที่อย่างชัดเจนแล้ว หมายถึงเฉพาะ "เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง" กับปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยในพระราชพิธีศพเท่านั้น 

จาโคแบง ตั้งข้อสังเกตเหตุการณ์นี้สะท้อนว่า สหราชอาณาจักรเห็นการคุ้มครองเสรีภาพในการประท้วงโดยสันติเป็นข้อยกเว้นมากขึ้น แทนที่จะมองว่าเป็นหลักทั่วไป ในปี 2564 พบว่าในสหราชอาณาจักรมีความผิดเกี่ยวกับการละเมิดความสงบเรียบร้อยของสาธารณะมากขึ้นถึง 38 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562-มี.ค. 2563 ระหว่าง มี.ค. 2564-มี.ค. 2565 พบว่ามีการใช้มาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ความสงบเรียบร้อยของสาธารณะกว่า 470,000 ครั้งในอังกฤษ และเวลส์  

นอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้วยังมีรายงานว่ารัฐสภาของอังกฤษกำลังพิจารณากฎหมายความสงบเรียบร้อยของสาธารณะฉบับใหม่ที่ลิดรอนสิทธิยิ่งกว่าเดิม นอกจากกฎหมายฉบับนี้จะกำหนดโทษความผิดทางอาญาแก่การกระทำต่างๆ จำนวนมากที่เป็นการประท้วงอย่างสันติแล้ว ยังมอบอำนาจแก่ตำรวจในการออกคำสั่งห้ามพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งถือเป็นการยกเลิกสิทธิในการประท้วงของพลเมืองอย่างสิ้นเชิง 

กฎหมายต่างๆ เหล่านี้ นักการเมืองในสหราชอาณาจักรหลายคนเห็นว่าเป็นปัจจัยที่สร้าง "สภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร" ต่อสิทธิเสรีภาพในการประท้วง ในสมัยของ 'ลิซ ทรัสส์' นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน นักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมหลายคนในพรรครัฐบาลยังมีการเสนอให้สหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกของอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชนด้วย  

ปรากฏการณ์เหล่านี้ในภาพรวมสะท้อนให้เห็นถึงการหดแคบลงของเสรีภาพการแสดงออกและสิทธิมนุษยชน ในประเทศต้นแบบของระบอบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญในยุคใหม่ น่าจับตาว่าหลังจากนี้การประท้วงเรียกร้องสาธารณรัฐในสหราชอาณาจักรจะเป็นอย่างไร ท่ามกลางแนวโน้มของเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสันติที่หดแคบลง ภายใต้รัฐบาลโดยการนำของพรรคอนุรักษ์นิยมชุดปัจจุบัน

 

แปลและเรียบเรียงจาก

https://www.republic.org.uk/accession_an_affront_to_democracy

https://www.republic.org.uk/the_death_of_the_queen

https://www.aljazeera.com/news/2022/9/13/arrest-of-uk-anti-royals-raises-questions-about-freedom-of-speech

https://www.bbc.com/news/uk-england-oxfordshire-62878954

https://www.vice.com/en/article/k7b34m/queen-dies-protesters-arrested-symon-hill

https://metro.co.uk/2022/09/13/man-threatened-with-arrest-if-he-wrote-not-my-king-on-blank-sign-17362896/

https://metro.co.uk/2022/09/12/andrew-joins-charles-behind-queens-coffin-but-is-not-allowed-to-wear-uniform-17357991/

https://www.scotsman.com/news/crime/queen-elizabeth-ii-edinburgh-woman-arrested-after-protest-breaks-out-on-royal-mile-3839377

https://www.theguardian.com/world/2022/sep/12/monday-briefing-commonwealth-charles-first-edition

https://jacobin.com/2022/09/britain-tories-policing-right-to-protest-anti-monarchy?fbclid=IwAR1CGebvB9PqBNvxKWiWJf8vtd4ArU8Kfc5Dk_gep45h4ImwCMDXhYzRxyY
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net