5 นักกิจกรรมแรงงาน รายงานตัว สน.นางเลิ้ง หลังถูกหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชุมนุมไล่ประยุทธ์ เมื่อ 23 ส.ค. 65

5 นักกิจกรรมแรงงาน รายงานตัว สน.นางเลิ้ง หลังถูกหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุชุมนุมไล่ประยุทธ์ เมื่อ 23 ส.ค. 65 ‘สมยศ’ ลั่นรัฐบาลตั้งใจใช้กฎหมายรังแกประชาชน มีโต้กลับแน่นอน 

 

19 ก.ย. 2565 สื่อ Voice TV รายงานวันนี้ (19 ก.ย.) เวลา 17.15 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักกิจกรรมแรงงาน นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข สุธิลา ลืนคำ เซียจำปาทอง สนธยา วงษ์ศรีแก้ว และ ธนพร วิจันทร์ เข้ารายงานตัวที่ สน.นางเลิ้ง หลังได้รับหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการชุมนุมไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม กรณีครบวาระ 8 ปี ดำรงตำแหน่งนายกฯ เมื่อ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา  

สำหรับการประท้วงเมื่อ 23 ส.ค. 2565 กลุ่มนักกิจกรรมแรงงาน และสหภาพคนทำงาน นัดรวมตัวหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อประท้วงขับไล่ พลเอกประยุทธ์ เหตุครบวาระ 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หากเริ่มนับปี 2557 นอกจากนี้ นักกิจกรรมยังมีการเรียกร้องในประเด็นคุณภาพชีวิต ประกอบด้วย 

  1. ให้พรรคพลังประชารัฐ ปรับค่าแรงขั้นต่ำตามที่ได้หาเสียงไว้ โดยปรับเป็น 425 บาทต่อวัน เท่ากันทั่วประเทศ ภายในเดือน ต.ค. 2565 และปรับเป็น 495 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศ ภายใน ม.ค. 2566
  2. ลดค่าน้ำมันทุกชนิดลงลิตรละ 6 บาท และลดค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าครองชีพ ให้กับประชาชน

ธนพร กล่าวกับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบเจ้าพนักงานตามหมายเรียกว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการเดินคดีทั้ง 5 คนด้วยข้อกล่าวหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้นไม่สมควร เพราะโรคโควิด-19 มันเกิดขึ้นจากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แต่การชุมนุมในวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นการชุมนุมในที่โล่งแจ้ง และมีมาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุข และสหภาพแรงงานมีต้นทุน ซึ่งต้องลางานมาเพื่อรายงานตัว มันสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะตนก็ออกมาพูดความจริง 

นักกิจกรรมแรงงาน รายงานตัวรับทราบข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อ 19 ก.ย. 2565 (ที่มา: สหภาพคนทำงาน)

ด้านสนธยา กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนหมายเรียก เพราะตนใช้แรงงานมา 30 ปีในการทำงานโรงงาน และมีการเรียกร้องต่อรัฐบาล และกระทรวงแรงงานมาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ สร้างตราบาปให้ตน ที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพเพื่อให้ผู้ปกครองดูแลประชาชนโดยเฉพาะผู้ใช้แรงงาน 

ขณะที่เซีย จำปาทอง เผยว่า ตนรู้สึกผิดหวัง และน้อยใจที่ได้หมายเรียก เพราะเป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ที่แจ้งข้อกล่าวหา และยัดข้อกล่าวหาอย่างจริงจัง เพราะตนแค่มาเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมราคาสินค้า และทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ คือ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างยิ่ง และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้ดุลยพินิจอย่างเข้มข้น แต่กับกลุ่มอื่นดำเนินการคล้ายๆ กันนั้นไม่มีการดำเนินการ เหมือนว่ามีธงจะจัดการกับพวกเราโดยเฉพาะ และยืนยันว่าจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 

เซีย กล่าวอีกว่า วันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เราออกมาเรียกร้องการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐทำตามที่หาเสียงไว้ มันผิดตรงไหน เพราะเคยสัญญาไว้ว่าจะปรับขึ้นเป็น 400-425 บาท เราออกมาทวงถาม แต่คุณไม่ทำตาม แล้วคุณยังจะแจ้งข้อกล่าวหาพวกเราเอง พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่รัฐประหาร 2557 มีอะไรเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจบ้าง เราถึงทวงถามว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาให้ผู้ใช้แรงงานอย่างไร 

"ตั้งแต่เวทีมวยลุมพินี ผับทองหล่อ ที่ผ่านมามาจากการบริหารที่ล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าสติปัญญาของผู้บริหารประเทศยังดีอยู่หรือเปล่า และขอให้ยกเลิกการดำเนินการเรื่องนี้เสีย" เซีย กล่าว 

สุธิลา กล่าวว่า วันนั้นมาพูดเรื่องคนงานที่ไม่ได้รับกฎหมายคุ้มครอง แปลกใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ถึงออกมาหมายเรียกพวกเรา และที่เราออกมาเรียกร้องก็เป็นปัญหาที่รัฐสร้างไว้ และคิดว่าคนที่ออกหมายเรียกพวกเรานั้นเป็นพวกชั่ว และรัฐบาลก็ชั่ว กรรมการสิทธิ (กสม.) ไปมุดอยู่ที่ไหน ทำไมถึงปล่อยให้รัฐมารังแกพวกเรา การกระทำการเยี่ยงนี้เป็นการกระทำของเผด็จการ 

ด้าน สมยศ กล่าวว่า ถ้าเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต้องฉุกเฉินจริงๆ แต่วันนี้ไม่ใช่ กฎหมายดังกล่าวกลายเป็น พ.ร.ก.ฉกฉวย เพื่อหวังใช้กฎหมายมากดขี่ ปัดสวะออกจากตัวเอง แล้วทำให้ปัญหาบ้านเมืองยังคงอยู่ โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน 

สมยศ กล่าวอีกว่า วันนี้เราไม่ต้องใส่แมสก์ หรือหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นความสมัครใจ เพราะรัฐบาลบอกว่า โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น และมีการยกเลิก ศบค.ไปแล้ว แต่กฎหมายฉุกเฉินนอกจากจะผิดที่ผิดทาง และรังแกประชาชนแล้ว ยังเป็นการทำให้บิดเบือนความเป็นกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้น จึงเห็นว่าการที่ พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผู้กำกับ สน.นางเลิ้ง ทำคดีนี้จะหมดอนาคต เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไป ขั้วอำนาจเปลี่ยน ดังนั้น อยากจะเรียนให้พี่น้องตำรวจรับทราบว่าการทำคดีรับใช้เจ้านาย จะดับอนาคตในตัวเอง ไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน 

"วันนี้จึงมาบอกทางธรรมะว่า การจัดการคดีนี้ให้ดีที่สุดคือรีบถอนตัว การกระทำแบบนี้ในสถานการณ์ที่ยกเลิก ศบค.ไปแล้ว กลายเป็นปัญหาการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ การใช้กฎหมายโดยบิดเบือน งานนี้จะมีการโต้กลับ และสหภาพแรงงานสามารถร้องเรียนต่อ สหประชาชาติ ทำให้ประชาธิปไตยถดถอยจนหน้าอับอาย การประชุมเอเปกที่จะถึงนี้จะเจอปัญหาใหญ่คือการถดถอยเสรีภาพของประชาธิปไตย" สมยศ กล่าว 

ผู้สื่อข่าว Voice TV รายงานว่า กลุ่มสหภาพแรงงานทั้ง 5 คนที่ถูกหมายเรียก ยืนยันต่อสื่อมวลชนอีกครั้งว่าจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนที่จะชูสามนิ้วตะโกนว่า "เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ" แล้วจึงเดินเข้าไปยังด้านใน สน.นางเลิ้ง ต่อไป

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว Voice TV สังเกตว่า มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาให้กำลังใจด้วยการชูป้ายระบุข้อความ อาทิเช่น เผด็จการชั่ว กลัวเสียงแรงงาน, ค่าแรงบ่ขึ้น กูสูนเด้, แรงงานสร้างชาติ ไม่ใช่นายกเถื่อน ฯลฯ

นอกจากนี้ นักกิจกรรมทั้ง 5 ราย มีการออกแถลงการณ์ด้วยโดยมีรายละเอียดดังนี้

ต่อเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มพี่น้องแรงงานหลากหลายกลุ่มที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลของประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตามคำสัญญาว่าด้วยการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามที่ให้ไว้เมื่อช่วงการหาเสียงในฐานะพรรคพลังประชารัฐก่อนการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรปี 2562 รวมถึงให้รัฐบาลประยุทธ์ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน ลดค่าครองชีพ ก่อนลาออกตามกำหนดวาระ 8 ปีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามข้อกำหนดในกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่นอกจากตำรวจ สน.นางเลิ้ง จะตั้งแนวกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าไปใกล้ทำเนียบฯ แล้วยังจะยัดข้อหา พรก.ฉุกเฉิน ตามมาให้พวกเราทั้ง 5 คนด้วยกัน 

นี่คือพฤติกรรมเยี่ยงเผด็จการทหารอันชัดเจนของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ที่บังคับใช้กฎหมายแบบตีความกว้างขวางเกินจริง นอกเหนือจากเหตุผลอันสมควรและเป็นไปเพื่อการคุกคามการแสดงออกทางการเมืองโดยสุจริตของประชาชน พฤติกรรมแบบนี้ต้องถูกจัดการระงับและลงโทษทันทีโดยผู้บังคับบัญชา มิเช่นนั้น จะสามารถมองได้ว่ารัฐบาลประยุทธ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รู้เห็น สนับสนุนและมีส่วนร่วมกับการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยคำสั่งภายในองค์กรโดยตรง และต้องรับผิดชอบร่วมกันโดยปริยาย 

ในวันนี้พวกเรา ประชาชนผู้ใช้แรงงานจึงเดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อรายงานตัวตามหมาย แสดงความบริสุทธิ์ใจ และความประสงค์จะใช้สิทธิเสรีภาพของเราภายใต้กฎหมายปัจจุบัน แม้เรามองว่าการบริหารจัดการและการบังคับใช้กฎหมายภายใต้อำนาจมรดกเครือข่าย คสช. จะเป็นสิ่งสมควรแก่การคัดค้านจนถึงที่สุด เราจะยังคงเคารพในหลักการแห่งนิติธรรมและนิติรัฐตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย และจะสู้เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์กับเพื่อนประชาชน รักษาความศักดิ์สิทธิ์ของสิทธิในการแสดงออกทางการเมืองของเราถ้วนหน้า 

ถึงพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงาน ไม่ว่าจะอาชีพไหน เชื้อชาติใด เพศสภาพอะไร รุ่นเก่าหรือรุ่นเยาว์ ในวันนี้พวกเราเดินหน้าฝ่าแดดฝ่าฝน ต่อสู้ทางกฎหมายและบนท้องถนนในนามของเราปวงชนคนธรรมดาทุกคน เพื่อให้คุณเห็นได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่าเสรีภาพของเรากำลังถูกบั่นทอนลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นปากท้องหรือโครงสร้างสังคมในภาพใหญ่ เราขอให้คุณจงอย่านิ่งเฉยกับภัยอันตรายทรราชใกล้ตัว กระจายข่าวนี้ออกไปให้ได้กว้างขวางที่สุด รวมกลุ่มและเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในทุกระดับโดยเร็วที่สุด

สุดท้ายนี้ พวกเราผู้ใช้แรงงาน ขอยืนหยัดในข้อเรียกร้องซึ่งแสดงออกได้ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของเรา 

1. ให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตามสัญญาหาเสียงของพรรค พปชร. ที่ให้ไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2562 โดยให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 425 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศ และให้ประกาศใช้ภายในเดือนตุลาคมปี 2565 รวมถึงให้ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 492 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศในเดือนมกราคมปี 2566

2. ให้ลดค่าน้ำมันทุกชนิดลง 6 บาทต่อลิตร ลดค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าครองชีพให้กับประชาชน

3. ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเร็วที่สุด

ด้วยความสมานฉันท์กับธนพร วิจันทร์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, สุธิลา ลืนคำ, แซม สนธยา, เซีย จำปาทอง 

แรงงานสร้างชาติ ไม่ใช่ทรราชคนใด

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท