Skip to main content
sharethis

ศาลภูเขียวอนุญาตให้จำเลยเลื่อนสอบคำให้การไปเป็นวันที่ 4 พ.ย.65 กรณีเกษตรกรบ้านโนนลานตกเป็นจำเลย หลังถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฟ้องคดีรุกป่าเตรียมการสงวนฯ ต.ถ้ำวัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ

22 ก.ย.2565 สุภิมล พันธุ์มณี ผู้แทนศูนย์ศึกษาและพัฒนานักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชนของเครือข่ายปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.)  แจ้งว่า ช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ย.65 ) เวลา 09.30 บุญรวม โพธิ์หล้า อายุ  54 ปี ประชาชนในพื้นที่ บ้านโนนลาน หมู่ 4 ต.ถ้ำวัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ เดินทางมายังศาลจังหวัดภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ตามศาลนัดคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในคดีอาญา สอบคำให้การจําเลยและตรวจพยานหลักฐาน

สุภิมล แจ้งด้วยว่า บุญรวม (จำเลย) ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาเลื่อนคดี ตามคำร้องส่งสำเนาให้โจทก์แล้วแถลงไม่คัดค้าน ศาลจึงอนุญาตให้เลื่อนสอบคำให้การจำเลยไปเป็นวันที่ 4 พ.ย.65

"โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่ากรณีมีเหตุอันสมควร จึงอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในคดีอาญา สอบคำให้การจำเลยและตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 4 พ.ย.65 นี้" ผู้แทนศูนย์ศึกษาและพัฒนานักกฎหมายฯ เพิ่มเติม

สำหรับคดีบุญรวม โพผธิ์หล้า ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ข้อหาบุกรุกยึดครอง ทำประโยชน์หรือกระทำการใดๆ ให้เสื่อมสภาพป่าสงวนฯ ในพื้นป่าเตรียมการสงวนหมายเลข 10 แปลง 1 (บ้านโนนลาน) หมู่ 4 ต.ถ้ำวัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ จากนั้นได้รับหมายเรียกและเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 4 เม.ย.65 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยบุญรวม ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร

ต่อมา เมื่อวันที่  8 ส.ค.65 บุญรวม ได้รับหมายเรียกให้ไปยัง สภ.หนองบัวแดง เพื่อส่งตัวไปพร้อมสำนวนให้พนักงานอัยการจังหวัดชัยภูมิ เพื่อฟังคำสั่งพนักงานอัยการและได้ยื่นฟ้องมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลรับคำฟ้อง และมีคำสั่งนัดบุญรวม มาสอบคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ในวันที่ 29 ส.ค.65 และศาลได้นัดสอบคำให้การและคุ้มครองสิทธิเพิ่มเติมในวันนี้ (22 ก.ย.65)

ส่วนกรณีข้อพิพาทพื้นที่ป่าเตรียมการหมายเลข 10 แปลง 1 นั้น อยู่ในระหว่างกระบวนการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบายระหว่างภาครัฐกับผู้แทนพีมูฟ เพราะจากสภาพปัญหาที่ไม่มีความชัดเจนในการจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยบางแห่งทับที่ทำกินประชาชน บางที่ทับป่าชุมชน นอกจากส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถเข้าทำกินในที่ดินของตัวเองได้ตามปกติสุข อย่างเช่น บุญรวม ที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาและประกอยอาชีพเกษตรกรโดยการทำไร่ในพื้นที่แก่งนี้มาอย่างต่อเนื่อง

จากกรณีปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.65  ซึ่งได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ พร้อมด้วยตัวแทนประชาชนที่ได้รับผลดระทบในเรื่องที่ดินทำกินและกรณีนโยบายทวงคืนผืนป่า  และอิสระ พรหมเดชบุญ (ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ชัยภูมิ) เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมติในที่ประชุมได้ทำการบันทึกผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาแต่ละกรณี ในภาคอีสานรวม 10 พื้นที่

ทั้งนี้ มติในที่ประชุมดังกล่าว ได้รับทราบร่วมกันในการขอให้กรมป่าไม้มีกระบวนการเจรจาร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาในกรณีบุญรวม ซึ่งไม่ได้เป็นผู้บุกรุกพื้นที่ใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านคดีความ โดยประธานให้บันทึกไว้ และเรื่องนี้ให้มีการสั่งการมาจากทางนโยบาย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net