หลายกลุ่มร่วมชุมนุม 'พอกันที 8 ปีประยุทธ์' ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฝั่งเกาะพญาไท ยืนยันไม่เคลื่อนขบวนเน้นปราศรัยสะท้อนการทำงานของ 'ประยุทธ์' - ตำรวจระบุยึดหลักถ้าไม่บุกไม่ใช้อุปกรณ์พิเศษ

1 ต.ค. 2565 มติชนออนไลน์ รายงานว่าที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท กลุ่มราษฎร พร้อมด้วยกลุ่มทะลุฟ้า, แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และกลุ่ม We volunteer (WEVO) นัดหมายชุมนุม "พอกันที 8 ปีประยุทธ์" ภายหลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ตัดสินว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป

บรรยากาศ เวลา 16.00 น. บริเวณเกาะพญาไท มีป้ายเขียนข้อความอาทิ “พอกันที 8 ปีประยุทธ์ ยุติ (ความเป็นธรรม)” และ “รื้อระบอบประยุทธ์กับผองเพื่อนปรสิตระบอบประยุทธ์ออกไป” ระหว่างนี้ มีผู้เดินทางมาเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก โดยผู้ชุมนุมหลายคนแต่งชุดดำตามที่ประกาศในแถลงการณ์ในการชุมนุมที่สกายวอร์ก แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมาซึ่งจะใส่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1-7 ต.ค. 2565 นี้ เพื่อไว้อาลัยแก่ระบอบการเมืองและอนาคตของสังคมไทย

บรรยากาศภายในการชุมนุม ที่เกาะพญาไท มีการตั้งบูธกิจกรรมต่างๆ อาทิ บูธของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ในกิจกรรม “ข้อความจากเพื่อนในเรือนจำ” แสดงข้อความจากนักโทษทางการเมือง และกิจกรรม “ฝากข้อความถึงเพื่อน” โดยให้ผู้คนร่วมเขียนข้อความบนกระดาษถึงนักเคลื่อไหวทางการเมืองที่อยู่ในเรือนจำ 

ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานเมื่อเวลา 16.39 น. ว่ากำหนดการวันนี้จะมีการปักหลักปราศรัยสะท้อนปัญหาการบริหารจากประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งขณะนี้คือนายกเถื่อน และเล่นดนตรี เวลา 17.42 น. ประชาชนนั่งฟังปราศรัย และดนตรีเล่นโดยวง Wevo Band

บรรยากาศการชุมนุมวันนี้มีประชาชนมาฟังการปราศรัยและชูป้ายปรากฏข้อความต่างๆ อ่านบทกวี และมีการนัดหมายใส่เสื้อดำ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ จนถึง 7 ต.ค. 2565 

ยืนยันไม่เคลื่อนขบวนเน้นปราศรัยสะท้อนการทำงานของ 'ประยุทธ์'

Thai PBS รายงานว่านายชาติชาย แกดำ ในฐานะผู้จัดการชุมนุมและขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่เพื่อจัดการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะฯ เปิดเผยว่า หลังได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 ก็นำเอกสารอนุญาตจัดการชุมนุมแจ้งต่อ พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.บาลพญาไท ตามขั้นตอน เนื่องจากเป็นเจ้าของพื้นที่

ส่วนการจัดกิจกรรมบนเวทีปราศรัยในวันนี้ (1 ต.ค.) จะเป็นการปราศรัยสะท้อนให้เห็นความผิดพลาดของการบริหารงานภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปจุดอื่น แต่จะเน้นการปราศรัยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้น และคาดว่ากิจกรรมจะสิ้นสุดในเวลา 21.00 น.

ผบ.ตร.ขอผู้ชุมนุมอย่าผลักตำรวจเป็นศัตรู ย้ำเป็นกลาง ยึดหลักถ้าไม่บุกไม่ใช้อุปกรณ์พิเศษ

ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่าย มติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมในวันนี้ว่า เมื่อไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เราก็ต้องบังคับใช้กฎหมายตามที่มีอยู่ก็คือ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ซึ่งการชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย การชุมนุมเรียกร้องเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่อยากให้ผู้ชุมนุมเข้าใจว่าตำรวจมีหน้าที่ในการรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย ถ้าผู้ชุมนุมทำถูกกฎหมายทางตำรวจไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมตลอด และก็เข้าใจซึ่งกันและกัน เรื่องจากเป็นคนไทยด้วยกัน เเต่ว่าถ้าตำรวจไม่ทำหน้าที่ก็ถือว่าผิดกฎหมาย

ส่วนเรื่องการจัดกำลังไปดูแลการชุมนุม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยก็เป็นการจัดกองกำลังตามปกติ ประเมินสภาพตามความเป็นจริง โดยประเมินจากการข่าวซึ่งตนเชื่อว่าในช่วงนี้ผู้ชุมนุมก็มีการชุมนุมในกรอบกฎหมายอย่างดี โดยแบ่งเป็นสองส่วนส่วนหนึ่งดูแลสถานที่ชุมนุมส่วนหนึ่งไปดูแลสถานที่สำคัญต่างๆซึ่งเรามีประสบการณ์จากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

เมื่อถามเรื่องการชุมนุมที่อาจจะมีขึ้นมากหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายก 8 ปี เเละมีเยาวชนเข้าร่วมมากขึ้น ผบ.ตร.กล่าวว่า ตำรวจเป็นผู้ดูแลการชุมนุมซึ่งก็จะต้องมีการชี้แจงข้อกฎหมายต่างๆให้แกนนำผู้ชุมนุมได้รับทราบ อยากให้อย่ามองเราเป็นฝ่ายตรงข้ามเพราะว่าตำรวจไม่ว่าทุกรัฐบาลไหนก็จะต้องทำหน้าที่ของเรา ส่วนใหญ่คนไม่เข้าใจ ก็จะมาลงที่ตำรวจโดนผลักไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อยากบอกว่าตำรวจเป็นกลาง

“บางครั้งมีการกระทำผิดกฎหมายซึ่งหน้า แต่ก็ยังไม่เหมาะสมที่จะดำเนินคดีเราก็อาจจะดำเนินคดีภายหลังเพื่อไม่ให้มีการปะทะกัน ส่วนการจะดำเนินการทางกฎหมายเราชี้เเจงตลอด ส่วนเรื่องรถฉีดน้ำ หรือเเก๊สน้ำตา เราเน้นใช้ในการปกป้องรักษาสถานที่สำคัญถ้าไม่บุกมา เราไม่ใช้อยู่แล้ว อยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่เคยมีความคิดที่จะใช้อุปกรณ์พิเศษเลย ผมมองในฐานะตำรวจของทุกท่านด้วยความเข้าใจเห็นใจ พวกท่านมาด้วยความเห็นอิสระของท่านได้” ผบ.ตร.ระบุ