เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 เพจ Archaeology 7 Chiang Mai โดยกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ รายงานว่าจากกรณีเหตุการณ์ที่เจดีย์วัดศรีสุพรรณได้พังทลายลงเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้พบโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่มีค่าจำนวนหนึ่งกระจายตัวอยู่ในกองอิฐซากเจดีย์นั้น
กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ร่วมกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมทำผังเก็บข้อมูลการกระจายตัวของหลักฐาน เก็บกู้โบราณวัตถุ และบันทึกรายละอียดจัดทำทะเบียนเพื่อเตรียมสำหรับการอนุรักษ์โบราณวัตถุในลำดับต่อไป
การดำเนินงานเก็บกู้โบราณวัตถุบางส่วนในเบื้องต้น พบว่ามีโบราณวัตถุและศิลปวัตถุปะปนกันมากกว่า 1 ยุคสมัย โดยชิ้นสำคัญประกอบด้วย แท่นหินทรายศิลาฤกษ์, พระบรมสารีริกธาตุ, พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะ, พระแกะสลักจากหินแก้ว, พระพิมพ์ดินเผา, หินแก้วทั้งแบบก้อนดิบธรรมชาติและที่ได้รับการเจียระไนแล้ว เป็นต้น การพบวัตถุข้างต้นซึ่งมีรูปแบบศิลปะหลากหลายยุคสมัยอยู่ร่วมกัน สอดคล้องกับประวัติการบูรณะองค์เจดีย์ ซึ่งมีการกระทำมาอย่างต่อเนื่องหลายครั้งคราว
โบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่พบจากการเก็บกู้หลังจากพระเจดีย์พังทลายลงมา คือ เจดีย์จำลองหล่อด้วยโลหะสำริด สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ โดยส่วนบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนองค์ระฆังของเจดีย์จำลองยังไม่สามารถเปิดได้ ทั้งหมดนี้ยังอยู่ในบริบทดั้งเดิมที่ถูกบรรจุไว้ในแท่งปูนก่ออิฐลักษณะห้องกรุสี่เหลี่ยม ที่ปูรองด้วยหินแก้วหลากสีทั้งแบบธรรมชาติและเจียรนัยแล้ว ก่อนจะวางเจดีย์จำลองโลหะสำริดลงไป และโบกทับด้วยปูนแบบโบราณ
การค้นพบวัตถุที่อุทิศแด่พระศาสนาครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญที่จะนำมาช่วยกำหนดอายุแรกสร้างและอายุกิจกรรมบูรณะองค์เจดีย์วัดศรีสุพรรณช่วงระยะเวลาต่าง ๆ ในลำดับต่อไป
โบราณวัตถุและศิลปวัตถุข้างต้น ภายหลังจากการเก็บกู้ บันทึกรายละเอียด ถ่ายภาพ และจัดทำทะเบียนแล้ว ได้มอบให้วัดศรีสุพรรณเก็บรักษาไว้เพื่อรอการอนุรักษ์จากผู้เชี่ยวชาญในลำดับต่อไป
ทั้งนี้การดำเนินการเก็บกู้โบราณวัตถุและศิลปวัตถุข้างต้น ถือเป็นการดำเนินงานในระยะเริ่มแรกเท่านั้น หลังจากนี้ภายหลักจากการประเมินโครงสร้างองค์เจดีย์ จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปพร้อม ๆ กับการเก็บกู้ซากกองอิฐที่พังทลายลงมา จึงขอความกรุณาทุกท่านงดเข้าไปภายในพื้นที่ปฏิบัติงานที่ถูกกันไว้เขตหวงห้าม
โบราณวัตถุและศิลปวัตถุข้างต้น ถือเป็นสิ่งล้ำค่า ที่บรรพชนอุทิศด้วยความศรัทธาต่อพระศาสนา จึงนับเป็นมรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าร่วมกันของชาวเชียงใหม่ ซึ่งจะต้องแสวงหาแนวทางการดูแลรักษาและจัดแสดงร่วมกันกับทุกภาคส่วนในลำดับต่อไป
ทั้งนี้หากการดำเนินงาน คืบหน้าเพิ่มเติมประการใด กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ จะรายงานให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ทราบเป็นระยะ