Skip to main content
sharethis

ตำรวจเผยผลการปฏิบัติการ 'สอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน season 2' (CIB Ghost Guns Operation) โดยกระจายกำลัง ติดตาม จับกุมเครือข่ายทั่วประเทศ สามารถจับผู้ต้องหาได้ 61 คน ยึดของกลางอาวุธปืน 145 กระบอก


ที่มาภาพ: Police TV by UCI Media

Thai PBS รายงานว่าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมคณะ เปิดเผยผลการปฏิบัติการ “สอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน season 2” (CIB Ghost Guns Operation) โดยกระจายกำลัง ติดตาม จับกุมเครือข่ายทั่วประเทศ สามารถจับผู้ต้องหาได้ 61 คน ยึดของกลางอาวุธปืน 145 กระบอก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่าปฏิบัติการครั้งนี้ กระจายกำลังเข้าจุดตรวจค้นทั้งหมด 126 จุด เป้าหมาย 115 ราย ครอบคลุม 50 จังหวัดทั่วประเทศ ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 60 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาวุธปืนจำนวน 8 คน ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนจำนวน 52 คน และผู้ต้องหาตามหมายจับปฏิทิน ตร. จำนวน 1 คน

ส่วนของกลางที่ตำรวจตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 9,976 ชิ้น เป็นอาวุธปืนจำนวนกว่า 145 กระบอก แบ่งเป็นอาวุธปืนทั่วไปจำนวน 70 กระบอก อาวุธปืนสงครามจำนวน 4 กระบอก และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 71 กระบอก ซึ่งตามรายการอาวุธปืนที่ตรวจยึดมาได้นั้น ตรวจสอบพบว่า เป็นอาวุธปืนมีทะเบียนจำนวน 70 กระบอก และอาวุธปืนไม่มีทะเบียนจำนวน 71 กระบอก

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดเครื่องกระสุนปืนจำนวน 8,956 นัด พร้อมของกลางรายการอื่นๆ เช่น แท่นกลึง ลำกล้องปืน และแมกกาซีน รวมกว่า 875 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่รับผิดชอบ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่จะทำการซื้อขายอาวุธปืน หรือส่วนประกอบอาวุธปืนต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ให้ทราบว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ทั้งการนำเอาอาวุธปืนมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้กระทำก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ด้วยเช่นกัน

ปฏิบัติการทลายรัง พ่อค้าปืนออนไลน์เจ้าใหญ่ภาคเหนือ


ที่มาภาพ: Police TV by UCI Media

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565 ว่าปัจจุบันมีคดีเกี่ยวกับการใช้ “อาวุธปืน” เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก บางคดีเป็นเหตุที่อุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้วางแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวทุกมิติ โดยเล็งเห็นถึงต้นเหตุหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งเกิดจาก “ปืนหาง่าย ซื้อง่ายขายคล่องทางโลกออนไลน์” จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เร่งสืบสวนหาต้นตอของปัญหาดังกล่าว จนพบว่า ในปัจจุบัน มีกลุ่มผู้ค้าอาวุธปืนเถื่อนโพสต์ขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านโลกออนไลน์เป็นจำนวนมากแบบไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 / หน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT5) , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล  ผกก.กก.สส.ภ.จว.ระยอง , พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.(สอบสวน) สน.บางกอกใหญ่ , พ.ต.ต.สุริยะ น้อยภักดี สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน , พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ. 2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ทำการสืบสวนในโลกออนไลน์นำมาสู่ปฏิบัติการตรวจค้นจับกุม

โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ

1.นายวัชพล อายุ 21 ปี ชาว จ.ลำปาง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ 471/2565 ลงวันที่ 20 ก.ย. 2565 ความผิดฐาน “ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยถูกชุดจับกุมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ที่ คอนโดไดมอนด์เพลส 44/12 ม.1 ถ.คลองชลประทาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

2.นายทัศน์พล อายุ 28 ปี อ ชาว จ.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ 470/2565 ลงวันที่ 20 ก.ย. 2565 ความผิดฐาน “ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมตัวได้ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

พร้อมยึดของกลางทั้งหมดดังนี้

1.อาวุธปืนเถื่อนพร้อมส่ง 21 กระบอก

2.เครื่องกระสุนปืนกว่า 150 นัด

3.ลำกล้องปืน 35 ชิ้น

4. อุปกรณ์การผลิต ดัดแปลงอาวุธ จำนวน 7 รายการ

5.คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง พบข้อมูลสำคัญทางคดี

6.โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง พบข้อมูลการสนทนาซื้อขายอาวุธปืนหลายรายการและพบข้อมูลการขายให้กลุ่มผู้ชุมนุมพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง

พฤติการณ์กล่าวคือ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 / หน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT5) กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 ได้สืบสวนพบว่ากลุ่มไลน์ (สงวนนามเนื่องจากอยู่ระหว่างขยายผลถึงผู้ซื้อ) ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มจำนวนมาก และ Youtube ช่องดังช่องหนึ่งซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4,000 คน (สงวนนามเนื่องจากอยู่ระหว่างขยายผลถึงผู้ซื้อ) มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนในกลุ่ม จึงทำการสืบสวนและเฝ้าติดตามมาเป็นเวลากว่า 5 เดือน จนสามารถขอศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ นายทัศน์พล และนายวัชพล ต่อมาเมื่อวันที่ 26 – 28 ก.ย. 2565 พล.ต.ต.ธีรเดชฯ นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ ชุดสืบสวน สภ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จับกุมตัว นายทัศน์พล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ 470/2565 ลงวันที่ 20 ก.ย.65 พร้อมยึดของกลาง อาวุธปืนพกสั้นดัดแปลง สีดำ ชนิดหักลำเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก โดยจับกุมตัวได้ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยชุดจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบว่า “ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” และต่อมาเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2565 พล.ต.ต.ธีรเดชฯ นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 , ชุดสืบสวน ศปอส.ภ.5 ได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นห้องของคอนโดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นห้องของ นายวัชพล ผู้ต้องหาตามหมายจับ ผลการตรวจค้นพบหลักฐานสำคัญคือ อาวุธปืนเถื่อนพร้อมส่ง 21 กระบอก , เครื่องกระสุนปืนกว่า 150 นัด , ลำกล้องปืน 35 ชิ้น , อุปกรณ์การผลิต ดัดแปลงอาวุธ จำนวน 7 รายการ , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งพบข้อมูลสำคัญทางคดี ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวโดยแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งให้ นายวัชพลฯ ทราบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ 471/2565 ลงวันที่ 20 ก.ย. 2565 ในข้อหา “ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” (รวมเป็น 2 คดี)

ในชั้นจับกุมนายทัศน์พล ให้การรับสารภาพแต่เพียงว่า “โดยยอมรับว่าตนเองขายอาวุธปืนเถื่อนอยู่ในกลุ่มไลน์ ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 160 คน และส่งอาวุธปืนให้กับลูกค้าจริง”

ในชั้นจับกุมนายวัชพล ให้การรับสารภาพว่า “ตนเป็นเจ้าของช่อง youtube ชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 4,000 คน และจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนและกระสุนให้กับลูกค้าจริง โดยจะคิดกำไรกระบอกละประมาณ 3,000-4,000 บาท ส่วนกระสุนจะเอากำไร 200-300 บาทต่อกล่อง โดยทำมาแล้วประมาณ 2-3 ปี ขายได้กว่า 500 กระบอก ส่งให้กับผู้ซื้อทางไปรษณีย์มาแล้วทั่วประเทศ โดยเคยขายลำกล้องและเครื่องกระสุนให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ประมาณ 2-3 ครั้ง โดยตนยอมรับว่าจุดเริ่มต้นเกิดจากตนเองอยากได้อาวุธปืนแต่โดนโกง จึงเรียนรู้ด้วยตนเองในการดัดแปลงปืนขายในโลกออนไลน์”

ชุดจับกุมได้นำตัว นายทัศน์พล แสนพันธ์ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ดำเนินคดี (ส่งตามหมายจับ) ในส่วนของ นายวัชพล ทำไว ชุดจับกุมได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดี (ท้องที่ที่ตรวจค้นพบอาวุธปืนในห้อง) และได้ประสานงานแจ้งการจับกุมให้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ซึ่งเป็นท้องที่ที่ออกหมายจับ เพื่ออายัดตัวต่อไป

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า “การซื้อขายอาวุธปืนในโลกออนไลน์นี้ เป็นต้นเหตุที่สำคัญในการนำไปสู่การใช้อาวุธปืนก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในหลายๆคดี ซึ่ง ศปอส.ตร. ได้มีการระดมสืบสวนติดตามจับกุมคดีประเภทนี้มาโดยตลอด ในส่วนของการปฏิบัติการในครั้งนี้เราใช้เวลาสืบสวนติดตามมาเป็นเวลากว่า 5 เดือน ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่ ผมจะเร่งขยายผลต่อเนื่องไปอีกถึงกลุ่มผู้เคยสั่งซื้อทั้งหมดทั่งประเทศ รวมไปถึงการเร่งปราบปรามผู้ค้ารายอื่นๆให้ถึงที่สุด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และขอเตือนไปทั้งผู้ซื้อและผู้ขายว่า…พวกคุณเป็นบุคคลที่มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ฉะนั้นแล้วการเข้าดำเนินการตรวจค้นจับกุมพวกคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามหลักสากลเท่านั้น”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net