Skip to main content
sharethis

"ตะวัน" แจงเหตุที่รณรงค์เลิกม.112 และชวนคนรำลึกถึงคนตายในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ในที่จัดคอนเสิร์ต "6ตุลาหวังว่าเสียงลมจะพาล่องไป" เพราะเห็นว่าป้ายและการแสดงจำลองเหตุการณ์ก็เป็นเรื่องเดียวกันจุดประสงค์ของคอนเสิร์ต แต่กลับถูกห้ามและถูกคนที่มาฟังดนตรีโห่ให้เอาป้ายลง "จ๋าย ไททศฯ" ยันไม่เคยพูดว่าจะไม่ขึ้นเล่นถ้าไม่เอาป้ายลง เพดานสูงกว่านี้ก็พูด 

ภาพจาก แมวส้ม

6 ต.ค.2565 ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพ มีกิจกรรมดนตรีในวาระครบรอบ 46 ปีการสังหารหมู่ 6 ต.ค.2519 ชื่อ "6ตุลาหวังว่าเสียงลมจะพาล่องไป" โดยมีวงดนตรีชื่อดังต่างๆ ขึ้นแสดง เช่น ไททศมิตร ค็อกเทล เซฟพลาเนต เป็นต้น

ทั้งนี้ขณะที่บนเวทีกำลังมีการแสดงเวลาประมาณ 17.00 น. มีกลุ่มนักกิจกรรมถือป้ายรณรงค์ที่มีข้อความเช่น "ยกเลิก 112" "ล้างมรดก 6ตุลา ยกเลิกมาตรา 112" "หวังว่าเสียงเพลงจะไม่กลบ วีรชนคน 6 ตุลา" "ซ้ายพิฆาตขวา" "จากลานคนเมืองถึงภูพาน" 

ภาพจาก แมวส้ม

แต่ระหว่างที่กลุ่มนักกิจกรรมดังกล่าวกำลังแสดงจำลองเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ อยู่นั้น บนเวทีมีการประกาศให้คนที่ทำกิจกรรมอยู่หยุดและเอาป้ายลง หากไม่เอาลงทางเวทีจะไม่แสดงต่อ ทำให้ประชาชนที่เข้ามาร่วมซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นแสดงความไม่พอใจกลุ่มนักกิจกรรมและตะโกนบอกให้เอาป้ายรณรงค์ต่างๆ ลง

ภายหลังเหตุการณ์ผู้สื่อข่าวประชาไทได้สัมภาษณ์ ตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม มวลชนอิสระวัย 23 ปี ที่ร่วมกิจกรรมการแสดงและชูป้ายรณรงค์ที่ลานคนเมืองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตะวันให้สัมภาษณ์ว่าอุปกรณ์ที่เตรียมไปแสดงที่ลานคนเมืองเป็นของที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ แล้วก็มีเรื่อง ม.112 วีรชนคนหกตุลาคือคนที่โดน 112 เหมือนกัน แล้วหลังจากเหตุการณ์นั้น อัตราโทษของมาตรานี้ก็เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย 3-15 ปี

“เราพูดได้เต็มปากเลยว่า 6 ตุลาฯ กับ 112 เป็นเรื่องเดียวกัน เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะบอกว่าคอนเสิร์ตตรงนั้นเป็น 6 ตุลาฯ แสดงว่าคอนเสิร์ตของคุณและป้ายของเราเป็นเรื่องราวเดียวกัน” ตะวันกล่าว

ตะวันอธิบายขั้นตอนการทำกิจกรรมว่า หลังจากนั้นเราก็เอาป้ายเข้าไปในงานแล้วยังมีเพอร์ฟอแมนซ์อาร์ทที่มีหุ่นจำลองแล้วก็เก้าอี้ทุบซึ่งเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่เกิดใน 6 ตุลาฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับคอนเสิร์ตถ้าเป็นเรื่อง 6 ตุลาฯ พอเข้าไปถึงงานคนก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายกัน ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ ในงาน จนกระทั่งใกล้กับหน้าเวทีซึ่งตอนแรกเธอนึกว่าเป็นศิลปินต่อมาทรายภายหลังว่าเป็นผู้จัดจากการที่มีคนมาบอก ผู้จัดก็ประกาศว่าคอนเสิร์ตจะดำเนินการต่อไปไม่ได้

“ก็เลยมีการตะโกนคุยกับทางบนเวทีว่าป้ายของเรากับเรื่องราวที่คุณจะเล่ามันไม่เหมือนกันยังไง ทำไมเราชูป้ายของเราไปแล้วคุณแสดงไปด้วยไม่ได้ ทั้งๆ ที่มันคือเรื่องราวเดียวกัน” ตะวันย้ำถึงสิ่งที่ต้องการเล่า ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเขามาคุยให้เอาป้ายลง แล้วพอผู้จัดพูดว่าถ้าไม่เอาป้ายลงจะดำเนินการต่อไม่ได้ คนที่มาดูคอนเสิร์ตก็มีการโห่พวกเธอตะโกนให้เอาป้ายลง ซึ่งเธอรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“เขาพูดว่าสงสารศิลปินหน่อย ตอนนั้นหนูช็อกมากแล้วคนที่ตายใน 6 ตุลา เราที่โดนคดี พี่(แบม) เขาที่โดน 112 เหมือนกัน พี่อีกคนก็โดน 112 แล้วคนที่ติดคุกโดน 112 แล้วเขายังอยู่ในคุกอะแล้วก็ยังมีเพื่อนคนอื่นในคุกเหมือนกันอะ แล้วเราต้องสงสารใคร เราต้องสงสารศิลปินใช่มั้ย แล้วเราที่โดนกระทำเพื่อนพี่น้องเราที่โดนกระทำละ”

“เราต้องพูดตามตรงว่าศิลปินมีกระบอกเสียงที่กว้างมากมีฐานเสียงแฟนคลับ แล้วทำไมถึงไม่สามารถพูดถึงปัญหาของ 112 ได้ เราไม่ได้ให้คุณพูดด้วยซ้ำ เราแค่ชูป้ายทำไมถึงไม่ได้” ทั้งนี้ตะวันก็บอกว่าไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเหตุจากตัวศิลปินเองหรือว่าเป็นที่ผู้จัดงานที่มีการทำข้อตกลงกับใครไว้หรือเปล่า แต่ถึงกระนั้นก็อยากให้ศิลปินพูดปัญหาของ มาตรา 112 เหมือนกัน

“ก็อยากให้สงสารพวกเราหน่อยเถอะค่ะ อย่าให้เราสงสารพวกคุณเลย” นอกจากนั้นเธอเล่าว่าได้รู้จักกับคนที่ผ่านเหตุการณ์กราดยิงเมื่อ 6 ตุลาฯ มา เพื่อนของคนเหล่านี้ต้องเสียชีวิตในเหตุการณ์แล้วเขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับเหตุการณ์นี้ไปตลอดชีวิตตราบใดที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่

ตะวันบอกว่าหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็เลยค่อยๆ เดินออกจากพื้นที่ถือป้ายแล้วเก็บป้าย แต่ระหว่างทางก็มีผู้จัดอีกคนขึ้นไปประกาศว่าให้ตบมือให้พวกเธอทำให้คนที่มาร่วมก็ตบมือด้วยแล้วก็มีคนที่เห็นด้วยกับพวกเธอเดินมาให้กำลังใจก็รู้สึกขอบคุณมาก

ผู้สื่อข่าวได้ถามตะวันว่านอกจากที่เวทีประกาศแล้วยังมีการให้เหตุผลอย่างไรบ้าง เธอตอบว่านอกจากบนเวทีแล้วยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาแจ้งว่ามีการตกลงกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้วถ้ายังชูป้ายต่อก็จะแสดงต่อไม่ได้ แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็โทรศัพท์มาด้วยว่าให้เอาป้ายลง

แบมเพื่อนของตะวันที่ร่วมกิจกรรมด้วยกันเล่าเสริมว่าส่วนทางเวทีก็บอกว่าเราก็มีวิธีเล่าเรื่องของเราให้เกียรติกันหน่อย 

นอกจากนั้น แบมยังเล่าถึงเหตุการณ์ตอนที่ถูกคนที่เข้าร่วมคอนเสิร์ตทำร้ายว่า ตอนที่กำลังถือป้ายอยู่ ก็มีคนมองดู ขณะที่ไม่ทันระวังตัวก็มีชาย 2 คน วิ่งเข้ามาหาแล้วผลักดันพี่ที่ยืนข้างๆ แล้วก็มีอีกคนมากระชากแขนเธอแล้วก็บอกว่า “เอาป้ายลงดิวะ จะดูคอนเสิร์ตเว้ย” เธอเลยบอกกับคนที่มากระชากแขนว่าคุณไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายกันคุณก็คนเราก็คน ซึ่งเธอก็ยอมรับว่ามีอารมณ์โมโหแล้วก็เจ็บใจไม่สนกันแล้วว่าใครจะมาขอยืมพื้นที่ที่คนจะมาฟังดนตรีกันในเวลาไม่นาน

“เราเห็นสายตารอบๆ มองเรา แล้วก็มีคนที่พูดออกมาว่า คุณไปใช้พื้นที่ตรงอื่นสิในการแสดงออก เราก็มีเสรีภาพเหมือนกันที่จะดูคอนเสิร์ต เราก็เลยบอกเขาไปว่าป้ายงานมันเขียนว่า 6 ตุลาฯ หวังว่าเสียงเพลงจะพาล่องไป” แบมตั้งข้อสงสัยว่าแล้วสิ่งที่พวกเธอทำกับคอนเสิร์ตที่จัดต่างกันอย่างไรทั้งที่พูดเรื่องเดียวกันและต้องการอาลัยให้กับวีรชนที่ถูกยิงตายไปเป็นเหยื่อของเผด็จการ ทำไมการแสดงคอนเสิร์ตกับการเรียกร้องเสรีภาพจะไปด้วยกันไม่ได้

“ในเมื่อคุณก็เป็นประชาชนโดนกดขี่เหมือนเรา สภาพทุกวันนี้เป็นยังไงพวกคุณก็รู้” แบมเล่าเสริมว่าความรู้สึกตอนนั้นทั้งที่อยู่ในพื้นที่แค่ไม่นานแต่ด้วยสายตาที่มองมาทำให้เกิดความรู้สึกหลายอย่างรวมถึงความรู้สึกเปรียบเทียบกับเหตุการณ์จริงเมื่อ 6 ตุลาฯ ที่มีทั้งคนรุมมองคนถูกแขวนคอด้วยสายตาเหยียดหยามแล้วก็มีคนตายไปจริงๆ

“เราแค่อยากให้ทุกคนช่วยตระหนักถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ แล้วก็การเมืองทุกวันนี้ด้วย อยากให้สนใจการเมืองกันหน่อย เราก็จะย้ำคำเดิมว่าช่วยสนใจการเมืองกันหน่อยไม่มากก็น้อย”

ผู้จัดคอนเสิร์ต 6 ตุลาแถลงขอโทษ แจงให้ถือได้ไม่ผิด แต่เริ่มมีกระทบกระทั่งเลยให้เอาลง

ทั้งนี้หลังเหตุการณ์ดังกล่าว Mob Data Thailand รายงานเพิ่มเติมว่าในเวลาประมาณ 20.00 น. ที่ด้านหน้าอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ยังมีนักกิจกรรมอีกกลุ่มมายืนถือป้ายข้อความเช่น “ยกเลิก 112” “6ตุลามีคนตาย พวกคุณลืมเขาหรือยัง” และ “46ปี 6 ตุลา คนสั่งฆ่ายังลอยนวล  พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า โหนกิจกรรมรำลึก 6 ตุลาหรือไม่ ระหว่างนี้มีการตะโกนว่า “เขาฆ่าพี่เรา”

จ๋าย ไททศมิตรยันยังไงก็ขึ้นเล่น 

อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี หรือ จ๋าย จากวงไททศมิตร โพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กชี้แจงประเด็นที่ถูกระบุว่าถ้าไม่มีการเอาป้ายลงวงของเขากับวงค็อกเทลจะไม่ขึ้นแสดงว่า ต่อให้มีหรือไม่มีป้ายหรือป้ายจะพูดเรื่องอะไรอยู่ก็จะขึ้นแสดงเพราะที่ผ่านมาก็ทำมาตลอด และเขาไม่ได้พูดหรือขอร้องให้ทีมผู้จัดพูดในเรื่องนี้ อีกทั้งตอนที่เกิดเหตุก็เป็นช่วงที่วงอื่นเล่นยังไม่จบและเมื่อวงอื่นยังเล่นไม่จบก็ขึ้นไปแทรกไม่ได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ขึ้นแสดง

"เอาจริงเพดานสูงกว่านี้เราก็พูดมาตลอดนะ จนทุกวันนี้ก็ยังสู้อยู่ตลอด ตามคอนเสริตก็คอยให้กำลังใจและพูดเรื่องให้มันไม่หายไปเสมอ ขอให้อย่าเข้าใจเราผิด ถ้าเราพูดจริงเราก็จะยอมรับแต่โดยดีนะ แต่นี่มันไม่ใกล้เลยเพื่อน ไม่ใกล้เลย มีแค่เรื่องนึงที่เป็นเรื่องจริงก็คือ วงมีงานต่อที่ราชบุรีสแตนบายตอน 3 ทุ่ม 15 ที่โพสนี่พึ่งถึงเลย ถ้าวงที่เล่นอยู่เล่นไม่จบพวกผมก็คงไม่ได้เล่นเพราะต้องมาทำงาน อาจจะทำให้ทางผู้จัดสื่อสารผิดบอกว่าเราจะไม่ขึ้นเล่น" อิชณน์กรระบุในโพสต์ของเขา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net