Skip to main content
sharethis

หลังเกิดกรณีนักกิจกรรมชูป้ายรณรงค์เลิกม.112 รำลึกคนตาย 6 ตุลาฯ หน้าเวทีดนตรี “6ตุลาหวังว่าเสียงลมจะพาล่องไป” ที่ลานคนเมืองเย็นวานนี้ จนทางเวทีประกาศเวทีจะไม่เดินต่อถ้าไม่เอาป้ายลง และ “ตะวัน” แจงว่าเห็นเป็นเรื่องเดียวกัน ผู้จัดขอโทษที่สื่อสารผิดพลาด แจงต้องขอให้เอาลงเพราะเริ่มมีการกระทบกระทั่งกัน

October to Remember #46ปี6ตุลา | 6 ต.ค. 65

6 ต.ค.2565 เวลา 23.48 น. เพจ October to remember ลงแถลงการณ์ของผู้จัดงานดนตรี “6ตุลาหวังว่าเสียงลมจะพาล่องไป” ในวาระครบรอบ 46 ปี เหตุการสังหารหมู่ 6 ต.ค.2519 ที่ลานคนเมืองช่วงเย็นวันนี้ หลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มนักกิจกรรมนำป้ายรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 และจำลองการทำร้ายนักศึกษาในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ แต่ถูกทางเวทีประกาศให้เอาป้ายลงไม่เช่นนั้นจะไม่มีการแสดงต่อ จนทำให้ผู้เข้าร่วมฟังดนตรีไม่พอใจและบอกให้นักกิจกรรมเอาป้ายลง จนถึงมีการกระชากแขนนักกิจกรรมที่ถือป้ายอยู่

ในแถลงการณ์ได้มีการกล่าวขอโทษและชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาห้ามการสื่อสารในเรื่องมาตรา 112 และเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้ที่เข้ามาทำกิจกรรมและผู้จัดเห็นว่าป้าย “ล้างมรดกบาป 6 ตุลา ยกเลิก 112” นั้นก็ไม่ได้มีความผิดทางกฎหมายและแสดงได้ตามสิทธิที่ประชาชนพึงมี

“ทางเรามีการอนุญาตให้ถือป้ายเป็นเวลานานและมีความพยายามจัดสถานที่ในการชูป้ายที่ไม่รบกวนผู้อื่นให้ แต่เนื่องจากทีมงานเห็นว่าเริ่มมีการกระทบกระทั่งระหว่างผู้ถือป้ายแล้ผู้เข้าร่วมงานจนอาจก่อให้เกิดความรุนแรงได้ จึงถือเอาความปลอดภัยของทุกคนเป็นสำคัญและเข้าไปขอให้มีการลดป้าย” แถลงการณ์ระบุเหตุผล

นอกจากประเด็นดังกล่าวแถลงการณ์ยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับการสื่อสารที่อ้างถึงวงไททศมิตรและวงค็อกเทลว่าจะไม่ขึ้นเล่นหากยังมีการชูป้ายว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดไม่ชัดเจนของผู้จัดเองเนื่องจากวงดังกล่าวมีงานที่จำเป็นต้องไปแสดงต่อ ทำให้ไม่สามารถหยุดเวทีเพื่อยุติความรุนแรงได้เป็นเวลานาน แต่ทำให้เข้าใจผิดว่าวงไม่ต้องการเล่น จึงได้มีการกล่าวขอโทษศิลปิน ค่ายเพลงและแฟนเพลง

‘ตะวัน’ แจงหวังแค่ใช้ #6ตุลาหวังว่าเสียงลมจะพาล่องไป พูดเรื่องเดียวกัน

ทั้งนี้จากไลฟ์ของ Friends Talk ก่อนถึงเหตุการณ์ช่วงที่เป็นประเด็นนี้ ทาง Friends Talk ได้สัมภาษณ์ตะวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ว่ากิจกรรมที่มาทำวันนี้เกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ และเห็นว่าเป็นเรื่องเดียวกับงานดนตรีนี้จึงอยากมาสนับสนุนงาน แต่ขณะที่ทำกิจกรรมก็มีการ์ดของงานเข้ามาแจ้งให้เอาป้ายลงแล้วแต่เธอได้อธิบายว่ากิจกรรมของพวกเธอเกี่ยวกับงานนี้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีในยุค 6 ต.ค.2519 นั้นก็เคยถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 เช่นเดียวกันและยังมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย และหลังสัมภาษณ์ผู้ที่ร่วมทำกิจกรรมก็ได้นำป้ายผ้ามาแสดงและนำหุ่นจำลองมาตีด้วยเก้าอี้เหล็กจำลองเหตุการณ์ในวันที่ 6 ต.ค.2519

จากนั้นในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว (ตั้งแต่นาทีที่ 27.45 ของไลฟ์) รายงานสถานการณ์ด้านหน้าเวทีตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์นี้เป็นช่วงที่วง Dead Flower เริ่มแสดงไปแล้วส่วนทางนักกิจกรรมมีการนำป้ายผ้าไปแสดงใกล้พื้นที่หน้าเวที จากนั้นมีเจ้าหน้าที่เดินขึ้นไปบนเวทีแจ้งนักร้องบางอย่างแล้วจึงมีการหยุดเล่น จากนั้นมีเสียงประกาศให้ทางนักกิจกรรมเอาป้ายลงหากยังคงมีการแสดงป้ายต่อก็การแสดงบนเวทีก็จะหยุด จากนั้นจึงมีเสียงโห่จากผู้เข้าร่วมชมดนตรีและบอกให้นักกิจกรรมเอาป้ายลงจนเกิดการโต้เถียงกันขึ้นระหว่างผู้ชมกับกลุ่มนักกิจกรรมและมีเสียงผู้ชมรอบๆ บอกให้ออกไป

หลังการประกาศครั้งแรกผ่านไปเกือบ 10 นาที มีการประกาศซ้ำอีกครั้งจากเวทีว่าหากไม่นำป้ายลง ศิลปินจะไม่สามารถแสดงต่อได้ ทำให้ผู้ที่มาชมแสดงความไม่พอใจกลุ่มที่ถือป้ายอยู่มากขึ้นและตะโกนไล่ให้ออกจากพื้นที่ไป จากนั้นบนเวทีมีการประกาศซ้ำอีกครั้งว่าถ้าเหตุการณ์นี้ดำเนินนานไปทางวงค็อกเทลและไททศมิตรจะไม่แสดงเพราะทั้ง 2 วงติดงานต้องไปที่อื่นต่อและสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้านักกิจกรรมเอาป้ายลง ทำให้เสียงแสดงความไม่พอใจและไล่ให้ออกจากพื้นที่จากผู้ชมด้านล่างเวทีดังมากขึ้นอีก

อย่างไรก็ตามบนเวทีมีการประกาศอีกครั้งให้ผู้ที่อยู่ทางด้านล่างเวทีอยู่ในความสงบก่อนจะกล่าว ขอบคุณนักกิจกรรมที่มาแสดงออกในพื้นที่ของงานนี้และไม่ได้ปฏิเสธความจริงในเรื่องที่แสดงออกมานี้และเชื่อว่าสารที่ต้องการสื่อสารได้ถึงผู้คนแล้วแต่ไม่อยากให้สถานการณ์บานปลายจนทำให้ข้อความที่นักกิจกรรมเหล่านี้สื่อสารถูกบิดเบือนไป และเชื่อว่าเป็นความกล้าหาญที่แสดงออกมาในสิ่งที่หลายคนอยากจะพูดแต่พูดไม่ได้จากบริบทและสภาพที่แตกต่างกัน จากนั้นได้ขอให้ผู้ที่มาชมร่วมปรบมือให้ ก่อนที่ทางกลุ่มนักกิจกรรมจะเอาป้ายลงแล้วเดินออกไปแล้วบนเวทีจึงมีการแสดงดนตรีต่อ

ศิลปินยืนยันว่าขึ้นเล่นหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับป้าย

นอกจากอิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี หรือ จ๋าย จากวงไททศมิตร ที่โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงไปก่อนแล้วว่าการมีป้ายไม่ได้เกี่ยวกับการจะขึ้นหรือไม่ขึ้นเล่น แต่หากวงที่แสดงอยู่ก่อนเล่นไม่จบก็แทรกไม่ได้และทางวงมีงานที่ราชบุรีตอน 3 ทุ่มและอาจไม่ได้เล่นในงานเพราะต้องไปทำงาน และที่ผ่านมาเรื่องที่เพดานสูงกว่านี้ยังพูด

ทางด้านปัณฑพล ประสารราชกิจ หรือโอม นักร้องนำของวงดนตรีค็อกเทลชี้แจงผ่านทางทวิตเตอร์ว่าเป็นไปตามที่อิชณน์กรชี้แจง และรู้บริบทของงานอย่างไรก็ขึ้นเล่น และมีการตอบคำถามประเด็นเรื่องที่มีการไล่คนชูป้ายว่าเขาเองก็ไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net