'ก้าวไกล' - 'เพื่อไทย' ตั้งคำถามต่อรัฐบาล หลังเหตุกราดยิง ศูนย์เด็กเล็ก ค.รุนแรงในระบบราชการ ล้มเหลวจัดการยาเสพติด

‘ก้าวไกล’ ตั้งคำถาม “เมื่อไรจะถึงเวลาจัดการระบบตั๋วและวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงในราชการ” หลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ส่วน ‘เพื่อไทย’ ชี้ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ล้มเหลวในการแก้ปัญหายาเสพติด

 

7 ต.ค. 2565 หลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู วานนี้ (6 ต.ค.2565) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 38 คน รวมผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 10 คน

รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม” ตั้งคำถามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เมื่อไรจะถึงเวลาจัดการระบบตั๋วและวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงในราชการ” โรม กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก รวมถึงตัวผู้ก่อเหตุและครอบครัว เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสั่นสะเทือนให้สังคมไทยอย่างถึงที่สุด หากติดตามการรายงานข่าวที่ว่าผู้ก่อเหตุนั้นเป็นอดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการเพราะเรื่องยาเสพติด ก็ควรต้องคิดได้แล้วว่าเพราะอะไรกันผู้มีหน้าที่ต้องปราบปรามอาชญากรรมจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมเสียเองได้ ระบบอะไรกันที่สร้างสภาวะแบบนี้ขึ้นมาได้

เกิดเหตุกราดยิง ศูนย์เด็กเล็ก อบต.นากลาง จ.หนองบัวลำภู มีเด็ก-ผู้ใหญ่ เสียชีวิต-บาดเจ็บหลายราย

ทั้งนี้ โรมย้ำว่าตนเคยอภิปรายเรื่องเกี่ยวกับระบบเส้นสาย ระบบตั๋วในวงข้าราชการอยู่บ่อยครั้ง เคยต้องเตือนต่อผู้มีอำนาจหน้าที่ว่าระบบแบบนี้ที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องผันตัวไปเป็นผู้ประกอบธุรกิจมืดเสียเอง การที่อดีตตำรวจคนนี้ไปพัวพันกับยาเสพติดในขณะที่ยังรับราชการอยู่ได้ ผู้บริหารที่มีสามัญสำนึกต้องและจริงจังได้แล้วว่าตำรวจทุกวันนี้กำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนมากไปกว่านั้น ภาพเหตุการณ์ในครั้งนี้หรือการกราดยิงครั้งที่ผ่านๆ มา มีส่วนหนึ่งที่ทับซ้อนกันกับภาพเหตุการณ์ตำรวจสลายการชุมนุมราษฎร หรือภาพทหารสังหารหมู่คนเสื้อแดง นั่นคือเป็นภาพสะท้อนวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงที่ฝังรากลึกในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐมาอย่างยาวนาน

ทุกครั้งที่ผู้มีอำนาจปล่อยให้ตำรวจคลุมถุงดำผู้ต้องหา ปล่อยให้ คฝ. สาดกระสุนยางตรงใส่ผู้ชุมนุม ปล่อยให้ทหารสั่งซ่อมด้วยวิธีพิสดาร ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐฉวยโอกาสใช้กำลังหรืออาวุธอย่างเกินส่วนเมื่อสบจังหวะ นั่นก็คือทุกครั้งที่เครื่องจักรสังหารที่โหดเหี้ยมอำมหิตได้ถูกผลิตขึ้นเช่นกัน ผู้มีอำนาจอาจชอบที่มีเครื่องจักรเหล่านี้ไว้ใช้สนองประโยชน์ตัวเอง แต่ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้อาจหันมาคร่าผู้บริสุทธิ์อย่างเช่นในวันนี้

ตนเคยหวังตั้งแต่เหตุกราดยิงโคราชเมื่อ 2 ปีก่อน ว่าจะต้องมีการทบทวนความผิดพลาดทั้งหมดของระบบราชการ โดยเฉพาะทหารตำรวจผู้ถืออาวุธ เพื่อที่จะไม่ให้โศกนาฏกรรมเช่นนั้นเกิดขึ้นได้อีก แต่เมื่อได้ฟัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวโยนไปให้เป็นแค่เรื่องของผู้ก่อเหตุเสพยาแต่เพียงคนเดียว รังสิมันต์ โรม คิดว่าตนและสังคมไทยคงต้องผิดหวังอีกครั้ง

ขณะที่ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า “เพื่อไทย” เตือน “ประยุทธ์” เร่งแก้ปัญหายาเสพติด จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. เขต บางรัก และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์เศร้าสะเทือนใจของการกราดยิง 38 ศพในจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นเด็ก สร้างความสะเทือนใจให้กับประชาชนทั่วไปอย่างมาก สาเหตุหลักที่ปฏิเสธไม่ได้และเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ คือการปราบปรามยาเสพติดที่ล้มเหลว จนมีการจำหน่ายยาเสพติดแพร่กระจายในราคาถูก จึงนำมาสู่เหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดนี้ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ จะต้องเร่งแก้ปัญหายาเสพติดพร้อมกับเร่งรับมือปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังจะถาโถมเข้ามา

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท