Skip to main content
sharethis

รัฐมนตรีต่างประเทศของเอสโตเนีย เออร์มาส เรนซาลู กล่าวว่ารัสเซียเป็นรัฐที่สนับสนุนการก่อการร้าย หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนเมื่อ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา และมีลูกที่ตกในสถานกงสุลของเยอรมนีด้วย นักการเมืองของเอสโตเนียยังร่วมประณามและเรียกร้องให้ตั้งศาลเอาผิดรัสเซียโดยด่วน

เออร์มาส เรนซาลู รัฐมนตรีต่างประเทศของเอสโตเนียแถลงว่า "สาธารณรัฐเอสโตเนียพิจารณาว่ารัสเซียเป็นรัฐสนับสนุนการก่อการร้ายและประชาคมโลกก็ควรจะประณามในแบบเดียวกันนี้ด้วย"

การประณามนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนหลายชุดต่อทั้งในกรุงเคียฟ, ซาโปริซเซีย, ดนิโปร, ลวิฟ และพื้นที่อื่นๆ ของยูเครนตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ นับเป็นการที่รัสเซียทำการโจมตีเมืองหลวงของยูเครนเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา

เรนซาลูระบุเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า "ขีปนาวุธได้โจมตีโดนและยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องใส่ สนามเด็กเล่น, บ้านเรือน และแหล่งอื่นๆ ที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ด้านกลาโหมหรือการทหารแต่อย่างใดทั้งสิ้น เป้าหมายของการโจมตีในรูปแบบนี้ของรัสเซียคือการก่อการร้ายสร้างความหวาดผวา เพื่อทำลายชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์และสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

รัฐมนตรีต่างประเทศของเอสโตเนียยังได้เรียกร้องให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านการป้องกันประเทศให้กับยูเครนโดยทันที และเรียกร้องให้ "ไม่มีการลังเล" ในการจัดตั้งศาลยุติธรรมนานาชาติเพื่อเอาผิดต่อรัสเซียในเรื่องที่พวกเขาก่อสงครามรุกราน

ขีปนาวุธจากรัสเซียเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ยังได้โจมตีโดนสถานกงสุลเยอรมนีด้วย โดยโจมตีถูกส่วนที่เป็นสำนักงานวีซ่าของสถานกงสุล

ในวันเดียวกันทางการเยอรมนีระบุว่าพวกเขาจะเร่งส่งอาวุธป้องกันภัยทางอากาศให้กับยูเครน "โดยด่วน" คริสติน แลมเบรชต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเยอรมนีแถลงว่า "เหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อกรุงเคียฟและเมื่ออื่นๆ อีกจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องจัดหาระบบฟ้องกันภัยทางอากาศให้กับยูเครนโดยด่วน"

เหตุการณ์โจมตีครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีเหตุระเบิดสะพานไครเมีย ซึ่งเป็นพื้นที่ของยูเครนที่รัสเซียเคยเข้ายึดครองและทำการผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2557 รัฐสภารัสเซียประกาศว่าการระเบิดที่เกิดขึ้นนับเป็น "การประกาศสงคราม"

นอกจากรัฐมนตรีต่างประเทศของเอสโตเนียแล้ว ประธานาธิบดี, นายกรัฐมนตรี และนักการทูตระดับสูงรายอื่นๆ ต่างก็ประณามการที่รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่ยูเครนครั้งล่าสุดด้วย

ประธานาธิบดีเอสโตเนีย อลาร์ คาริส แถลงเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า "ลองคิดดูสิว่า เมื่อคุณพาลูกคุณเข้านอนตอนกลางคืน เด็กๆ ในยูเครนต้องพยายามข่มตาหลับท่ามกลางขีปนาวุธที่ตกใส่บ้านเกิดของพวกเขา พ่อแม่ของพวกเขาไม่รู้ว่าจะยังคงมีครอบครัวและบ้านของตัวเองเหลืออยู่หรือไม่ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น กรุงเคียฟและเมืองอื่นๆ หลายเมืองต่างก็ถูกโจมตีโดยรัสเซียเมื่อช่วงรุ่งเช้า"

นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย ราจา คัลลัส ได้เดินทางเข้าพบประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อูร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา คัลลัสบอกว่าการใช้อาวุธระเบิดโจมตีทั่วยูเครนรวมถึงในกรุงเคียฟนั้นนับเป็น "วิธีการก่อการร้ายของรัสเซีย"

คัลลัสบอกว่าเรื่องนี้ยิ่งทำให้เป็นเรื่องเร่งด่วนมากขึ้นในการจัดตั้งศาลยุติธรรมเพื่อดำเนินคดีกับรัสเซียฐานอาชญากรรมการรุกราน ซึ่งคัลลัสได้เสนอต่อเลเยนในเรื่องนี้


 

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net