ตำรวจกองปราบฯ เข้าจับกุม “ศักดิ์” ที่เพิ่งก่อเหตุชกศรีสุวรรณเมื่อวานนี้ด้วยด้วยหมายจับค้างเก่าคดีทำร้ายร่างกายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสานเมื่อปี 64 

19 ต.ค.2565 สื่อหลายแห่งรายงานว่าวันนี้ที่อาคารมาลีนนท์ (ช่อง 3) ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามจับกุม วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือศักดิ์ ด้วยหมายจับเก่าคดีที่วีรวิชญ์ตบหน้าเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสานเมื่อปี 2564 ที่ออกโดยศาลแขวงดุสิต 

รายงานข่าวระบุว่า วีรวิชญ์ถูกจับกุมที่ลานจอดรถของอาคารขณะกำลังจะไปออกรายการทีวี และถูกนำตัวไปกองปราบฯ เพื่อสอบปากคำ 

ทั้งนี้การจับกุมนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้วีรวิชญ์เข้าชกต่อยศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขณะกำลังให้สัมภาษณ์สื่อที่กองปราบฯ ขณะกำลังเข้าแจ้งความโน้ส-อุดม แต้พานิช จากกรณีการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน 13 และมีการกล่าวพาดพิงนายกรัฐมนตรี

“ผมตบเพื่อสั่งสอนให้รู้ว่าคนเห็นต่างก็มี อย่าเลียจนเกินไป คำว่าประชาธิปไตยทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง หลายปีมานี้ นายนี่ (ศรีสุวรรณ) เป็นนักร้องดังกว่านักร้องแร็ป นักร้องลูกทุ่ง เกินไป เหตุผลนี้ผมจึงมาตบสั่งสอน” วีรวิชญ์ กล่าวในที่เกิดเหตุและย้ำว่าพร้อมถูกดำเนินคดี

14.00 น. สำนักข่าวราษฎรรายงานว่า ณัฐพล คุ้มวงศ์สกุล ทนายความเครือข่ายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเพื่อขอเข้าพบ วีรวิชญ์ ในคดีการทำร้ายร่างกายนายเสกสกล และพยายามจะเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเป็นห่วงสุขภาพ เนื่องจากยังไม่ได้ทานข้าว โดยเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้ทนายความเข้าไปด้านในได้ ต่อมาทนายความได้เปิดเผยว่าตำรวจได้ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ด้วยวงเงินประกันตัว 40,000 บาทโดยจะได้รับการปล่อยตัวที่ สน.ดุสิต

ตร.ให้ปล่อยตัวคดีชกศรีสุวรรณ

นอกจากคดีข้างต้นแล้ว เมื่อเวลา 18.35 น. สำนักข่าวราษฎรไลฟ์ที่สน.พหลโยธิน หลังวีรวิชญ์เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่ศรีสุวรรณได้แจ้งความดำเนินคดีกับเขาจากเหตุชกต่อยเมื่อวานนี้ โดยคดีนี้ทางตำรวจได้ปล่อยตัววีรวิชญ์กลับเช่นเดียวกัน และเขากล่าวขอบคุณคนที่มารอให้กำลังใจด้วย

วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล(ซ้าย) และภัทรพงศ์ ศุภักษร ทนายความ(ขวา)

วีรวิชญ์ยืนยันว่าเขาเพียงแค่ต้องการตบสั่งสอนเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้บาดเจ็บสาหัสและเมื่อทำจบแล้วก็จบไปไม่ได้อาฆาตอะไรถ้ามีการดำเนินคดีมาก็เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เขาไม่ได้ชอบการใช้ความรุนแรงยกเว้นอีกฝ่ายอยากรุนแรงกลับพี่น้องประชาชนเขาก็จะแสดงออกทันที

ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" ทนายความที่วีรวิชญ์จัดหามาเองในคดีนี้แถลงขั้นตอนทางคดีวันนี้ว่าในส่วนของคดีที่ศรีสุวรรณแจ้งความดำเนินคดีวีรวิชญ์ด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายทำให้ได้รับอันตรายสาหัสแก่กายและจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 และข้อหาเตรียมการล่วงหน้า อย่างไรก็ตามวีรวิชญ์ได้ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา

"เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ส่วนเจ็บมากเจ็บน้อยศรีสุวรรณบอกไม่ได้ ต้องเป็นแพทย์และรอใบรับรองแพทย์อีกที" 

นอกจากนั้นทนายความยังได้กล่าวถึงประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าคนที่ทำการบริจาคให้วีรวิชญ์ถือเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดนั้นในทางกฎหมายแล้วไม่ได้เป็นความผิดในฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในมาตรา 295 และ 298 

ทนายความกล่าวต่อว่าการกระทำของศรีสุวรรณที่ใช้กฎหมายในการดำเนินคดีคนอื่นนั้นอย่างเช่นในกรณีจะดำเนินคดีกับโน้ส อุดมนั้นเป็นเรื่องที่หาเหตุผลไม่ได้และยังเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยกและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็คือผลของความแตกแยก

นอกจากเรื่องทางคดีวีรวิชญ์กล่าวปฏิเสธเรื่องที่เขาได้รับเงินบริจาคจำนวน 6,589,841.12 บาทจากการไปชกศรีสุวรรณที่หลายสื่อรายงานโดยอ้างจากข้อความบุคคลหนึ่งในทวิตเตอร์นั้นไม่เป็นความจริงและถ้าทางผู้เผยแพร่ไม่แก้ไขและขอโทษก็จะให้ทนายความดำเนินคดี และเขารู้สึกโกรธมากที่มีการเผยแพร่แบบนี้เพราะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดและอิจฉาเขา และยังมีคนที่โอนมาให้ด้วยความเข้าใจผิดถึง 100,000 บาท ทำให้เขาต้องโอนเงินคืนเจ้าของไป

นอกจากนั้นวีรวิชญ์ยังกล่าวถึงคดีที่เขาถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทเอาไว้ที่จังหวัดกระบี่อีกคดีหนึ่งว่า เขาจะเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจที่กระบี่ภายในวันศุกร์นี้โดยจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ พรุ่งนี้เย็น

สำหรับคดีนี้สำนักข่าวแนวหน้ารายงานเพิ่มเติมในกรณีนี้โดยพล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)เปิดเผยว่าคดีนี้จะมีการสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องอัยการในวันศุกร์นี้  เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “ ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

โฆษก ตร.ยังได้กำชับให้ดำเนินคดีตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน และยังกำชับให้เพิ่คมเข้มมาตรการไม่ให้เกิดความรุนแรงในสถานที่ราชการอีกเพื่อไม่ให้เกิดการเลียนแบบ

ฝ่ายข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ข้อมูลทางคดีของวีรวิชญ์เพิ่มเติมว่าที่ผ่านมาเขาถูกดำเนินคดีจากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองแล้วถึง 14 คดี โดยส่วนใหญ่เป็นข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่มีเพียง 2 คดีเท่านั้นที่สิ้นสุดแล้ว