Skip to main content
sharethis

'ธนาธร' เตรียมเดินทางไปกสทช. พรุ่งนี้ จับตาอนุมัติดีลควบรวมทรู-ดีแทค พร้อมให้กำลังใจ เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กรณีเผยแพร่รายงานศึกษาผลกระทบการควบรวม ย้ำเป็นข้อมูลสาธารณะที่ต้องเปิดเผย ไม่ใช่ความลับทางราชการ ด้านนักกฎหมายแจ้งความเอาผิด 'สารี-ประวิทย์' อ้างแพร่ข้อมูลลับทางราชการกรณีควบรวม

19 ต.ค.2565 ทีมสื่อคณะก้าวหน้า รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ชวนสังคมไทยร่วมจับตาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติต่อกรณีควบรวมทรู-ดีแทค วันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.65)พร้อมให้กำลังใจ สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กรณีเผยแพร่รายงานศึกษาผลกระทบโดยบริษัทเอกชนที่ กสทช. จ้างมา ชี้ เป็นข้อมูลสาธารณะที่ต้องเปิดเผย ไม่ใช่ความลับทางราชการ พร้อมระบุว่าจะไปร่วมจับตากรณีดังกล่าวที่ กสทช. ในวันพรุ่งนี้ด้วยตัวเอง เวลา 9.30 น.

ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความลงบนเพจเฟซบุ๊ก เชิญชวนประชาชนร่วมจับตาและเรียกร้อง กสทช. ให้ตัดสินใจบนผลประโยชน์ประชาชนมากกว่าทุนใหญ่ ในกรณีควบรวมทรู-ดีแทค โดยระบุว่าจากการติดตามกรณีดังกล่าวมาร่วมปี ตัวเองจับสัญญาณได้ว่าการตัดสินใจในวันพรุ่งนี้ อาจไม่เป็นไปในทางที่ปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค เพราะไม่กี่วันก่อนหน้านี้ สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรผู้บริโภค ได้ถูกฟ้องด้วยข้อหาตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และถูกข่มขู่ว่าจะฟ้องคดีอาญา จากกรณีการเผยแพร่รายงานผลการศึกษาเรื่องการควบรวมทรู-ดีแทค โดยบริษัทที่ปรึกษาต่างประเทศที่ กสทช. จ้างมา โดยผู้ฟ้องอ้างว่ารายงานดังกล่าวเป็นความลับของทางราชการ

ธนาธรยังระบุด้วย ว่าตัวเองขอให้กำลังใจและยืนหยัดร่วมกับสารี ที่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นรายงานที่ยืนยันว่าการควบรวมจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ทำให้เสียค่าบริการแพงขึ้น และทำให้เอกชนผู้ให้บริการขาดแรงจูงใจในการแข่งขันกันพัฒนาคุณภาพ

“การที่คุณสารีถูกข่มขู่ด้วยคดีความ นับว่าเป็นการใช้กฎหมายเพื่อฟ้องเพื่อปิดปากภาคประชาชน เพราะข้อมูลที่เผยแพร่ไม่ได้เป็นความลับ และยังเป็นข้อมูลที่กสทช. ต้องเผยแพร่ตามกฎหมายอยู่แล้ว ตาม พ.ร.บ.กสทช. มาตรา 59” ธนาธรระบุ

ธนาธรยังระบุด้วย ว่า กสทช. จำเป็นต้องตอบข้อข้องใจต่อสังคมในอีกหลายประเด็น เช่น ผลประโยชน์ทับซ้อนของบริษัทที่ปรึกษาอิสระ ซึ่งถือหุ้นโดยตระกูลเจียรวนนท์ หรือกรณีที่รายงานจากบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติ ที่ได้ข่าวว่ามีการจ้างทำในราคาสูงถึง 10 ล้านบาท กลับจะมีการออกรายงานฉบับสุดท้ายมาในวันที่ 14 พฤศจิกายน ทั้งที่การตัดสินใจของ กสทช. จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว เป็นต้น

“ผมขอเรียกร้องอีกครั้ง กสทช. ต้องตระหนักถึงภารกิจในการรับใช้ประชาชน ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน การตัดสินใจของ กสทช. ในวันพรุ่งนี้ จะตกอยู่ภายใต้สายตาของคนไทยผู้เสียภาษีทั้งประเทศ และพรุ่งนี้ผมจะไปร่วมสังเกตการณ์ที่สำนักงาน กสทช. ด้วย เจอกันครับ” ธนาธรระบุ

นักกฎหมายแจ้งความเอาผิด 'สารี-ประวิทย์' อ้างแพร่ข้อมูลลับทางราชการกรณีควบรวมทรู-ดีแทค

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ไตรรงค์ ตันทสุข นักกฎหมาย ในฐานะตัวแทนภาคประชาชน เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เพื่อแจ้งความกล่าวโทษเป็นคดีอาญา ให้หาตัวผู้กระทำความผิดโดยมีผู้ต้องสงสัย ได้แก่ สารี เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค, ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา อดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักข่าวที่ลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกสำนัก และเจ้าหน้าที่ กสทช. ในความผิดฐานเปิดเผยความลับทางราชการและ บิดเบือนข้อความจริงหรือนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยบันทึกเป็นคดีอาญาเลขที่ 777 / 2565 ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่มีการให้สัมภาษณ์ของ สารี อ๋องสมหวัง และ ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ว่า ได้ทราบและรู้เห็นมาตรการเฉพาะภายหลังการควบรวมกิจการทรูและดีแทค หรือ 14 เงื่อนไขก่อนที่บอร์ด กสทช.จะพิจารณาและเปิดเผย ซึ่งการกระทำทั้งปวงน่าจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงนำความไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อมอบคดีให้พนักงานสอบสวนสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ กสทช.ประกาศเลื่อนการลงมติการควบรวมกิจการทรู-ดีแทคออกไปเป็นวันที่ 20 ต.ค. 65 เพื่อรอผลการศึกษาจากที่ปรึกษาต่างประเทศที่จะมาถึงในวันที่ 14 ต.ค.65 แต่กลับปรากฏว่ามีการเปิดเผยข้อมูลผลการศึกษาจากที่ปรึกษาต่างประเทศผ่านทางเฟซบุ๊กของ สารี อ๋องสมหวัง ในเวลาต่อมา และมีการนำไปเผยแพร่ต่อตามสื่อต่างๆ ซึ่งไม่รู้ว่าได้เอกสารมาอย่างไร และเป็นเอกสารของจริงหรือไม่ จะต้องมีการตรวจสอบ โดยต่อมารักษาการเลขาธิการ กสทช.ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า สำนักงาน กสทช.ไม่ทราบว่า สภาองค์กรของผู้บริโภคได้รับเอกสารมาจากไหน ไตรรงค์ในฐานะที่เป็นนักกฎหมายซึ่งติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องการควบรวมกิจการทรู-ดีแทค จึงมีความสงสัยติดใจในกระบวนการทำงานด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ของ กสทช. ซึ่งทราบเบื้องต้นว่า พิรงรอง รามสูต หนึ่งในบอร์ด กสทช.เป็นผู้รับผิดชอบด้านนี้

ไตรรงค์ อ้างว่า ข้อมูลดังกล่าวทั้งเรื่อง 14 เงื่อนไข และผลการศึกษาจากที่ปรึกษาต่างประเทศ SCF Associates Ltd. ถือเป็นความลับทางราชการ และยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของบอร์ด กสทช. และยังอยู่ในอำนาจหน้าที่ของบอร์ด กสทช.ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลการเก็บรักษาข้อมูลความลับเหล่านี้ไว้ให้มั่นคงจากกระทำใดใดให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถล่วงรู้ความลับนี้ก่อนวันได้กำหนดเปิดเผยข้อมูลความลับไม่ได้ การกระทำของ สารี และประวิทย์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องหรือบุคคลผู้มีหน้าที่ในการเก็บรักษาหรือเข้าถึงความลับนี้ จึงน่าจะมีส่วนในการรู้เห็นหรือร่วมกัน หรือสนับสนุนกันในการนำข้อมูลความลับของทางราชการมาเปิดเผย เพื่อสนับสนุนแนวคิดหรือน่าจะชี้นำในการคัดค้านมีให้มีการควบรวมทรูดีแทค และคาดว่า ใน 1-2 วันนี้ จะยื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่อกล่าวโทษบุคคลทั้งสองต่อไป จากกรณีที่มีการเผยแพร่ผลการศึกษาของที่ปรึกษาต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความผิดฐานเปิดเผยความลับทางราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 86, 164 และบิดเบือนข้อความจริงหรือนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14

ไตรรงค์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า บุคคลทั้ง 2 ล่วงรู้ข้อมูลลับทางราชการมาจากที่ใด แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำๆ มาโดยตลอดระหว่างการพิจารณาดีลควบรวมทรูดีแทคของ กสทช. ทั้งที่ทั้ง 2 คน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณา ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการจัดทำผลการศึกษา กลับล่วงรู้ข้อมูลความลับในเอกสารลับของทางราชการ และนำข้อมูลมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็ไม่รู้ว่ามีข้อเท็จจริงมากน้อยแค่ไหน หรือถูกบิดเบือนในลักษณะใดหรือไม่อีกด้วย

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net