'ทักษิณ' ขอโทษเหตุตากใบหลังผ่านมา 18 ปี - ภาคประชาสังคมย้ำตากใบต้องเป็นปีศาจให้เจ้าหน้าที่ยั้งคิด

'ทักษิณ' ขอโทษเหตุการณ์ตากใบ หลังผ่านมา 18 ปี ยันไม่ใช่ผู้สั่งการ ชี้เป็นความผิดพลาดขณะขนย้ายผู้ชุมนุม เป็นเรื่องของทหาร ให้ถาม พล.อ.ประวิตร ผบ.ทบ.ในตอนนั้นจะรับผิดชอบความสูญเสียอย่างไร ผู้ร่วมงานรำลึกปรบมือหลังรู้ว่าทักษิณของโทษ สมัชชาประชาสังคมย้ำตากใบต้องเป็นปีศาจให้เจ้าหน้าที่ยั้งคิด - ด้านประวิตรโยนกลับให้ไปถามทักษิณ

26 ต.ค.2565 เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอโทษแก่บรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาสเมื่อ 18 ปีที่แล้วจนนำมาสู่การเสียชีวิตของผู้ชุมนุม 7 คน และเสียชีวิตขณะขนย้าย 78 คน โดยระบุว่าเป็นความผิดพลาดอย่างแรงของการลำเลียงผู้ถูกควบคุมตัว

โดยทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย จาก The Reporters ในรายการ CareTalk X CareClubhouse ในวันนี้ (25 ตุลาคม 2565) ซึ่งเป็นวันครบรอบ 18 ปีเหตุการณ์ตากใบ ซึ่งในวันเดียวกันนี้มีการจัดงานรำลึกหลายแห่ง ทั้งที่ อ.ตากใบ ที่ Patani Artspace จ.ปัตตานี และที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร พร้อมกับเปิดเผยเบื้องหลังที่ยังไม่เคยเปิดต่อสาธารณะมาก่อน ในขณะที่เสียงสะท้อนจากงานรำลึกส่วนใหญ่เป็นการทวงถามความยุติธรรมให้ครอบครัวของผู้สูญเสียเนื่องจากยังไม่มีใครถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งเหลือเวลาอีก 2 ปีคดีก็จะหมดอายุความ

ทักษิณ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมชี้แจงว่า ในวันนั้นได้รับรายงานว่า มีประชาชนมาล้อมสถานีตำรวจขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่าเอาอาวุธไปให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ตนจึงบอกให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายไปก่อน หลังจากนั้นมารู้อีกทีหลังว่าการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมมีผู้เสียชีวิต ขอยืนยันได้ตนว่าไม่ได้สั่งการ

"ตอนนั้นผมรู้ว่ามีการจับ แต่ไม่รู้เลยว่าจับยังไง ใครเอาไปไว้ที่ไหน ไม่มีใครรายงานผม พอรู้อีกที่คือมีการตายเกิดขึ้น ผมจึงถามว่าทำไมถึงมีคนตายเยอะ ปรากฎว่าการลำเลียงผู้ต้องหาซึ่งอ่อนล้าจากการอดอาหารมาทั้งวันเพราะถือศีลอด และแทนที่จะเอาไปไว้บนรถบรรทุกดีๆ กลับเอาคนไปซ้อนกัน ทำให้คนขาดอากาศหายใจ มีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ผมมารับรู้ทีหลัง ผมก็เสียใจว่าทำไมมันซื่อบื้อขนาดนี้ ผมเป็นคนเกลียดคนโง่อยู่แล้ว พอทำอะไรพวกนี้ผมก็ด่ากลับ จากนั้นผมก็ถูกเกลียดถูกโกรธถูกเกลียดจากชาวมุสลิมที่นั่น" ทักษิณ กล่าว

ทักษิณ เล่าต่อไปว่า หลังจากที่ตนออกจากประเทศไทยไปแล้ว มีโอกาสเจอตำรวจสันติบาลของมาเลเซียที่ประเทศเยอรมนี เขาเล่าว่า ตอนแรกมาเลเซียโกรธผม คนมุสลิมก็โกรธผม นึกว่าผมเป็นคนที่รังเกียจและทำร้ายมุสลิม ตอนหลังมาเขาพบว่า เป็นการกระทำของทหารที่วางแผนจะไม่เอาผม ตอนหลังทางมาเลเซียจึงไม่โกรธอะไรผม

“เขาเล่าให้ผมฟังว่า เหตุการณ์ที่เอาคนไปซ้อนกัน เป็นเรื่องที่สั่งการโดยทหาร และพาคนเหล่านี้ไปค่ายทหาร ซึ่งผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งอะไรยังไง ตัดตอนตั้งแต่สลายการชุมนุมที่หน้าโรงพักตากใบ หลังจากนั้นเป็นเรื่องที่ทหารรับช่วงไปผมไม่รู้เรื่องแล้ว ผมรู้แค่คนจะบุกเข้าไปเอาคน 6 คนในโรงพัก มีการสลายการชุมนุม มีการใช้ปืนฉีดน้ำ มีการยิงกันนิดหน่อย หลังจากนั้นผมไม่รู้เรื่องแล้ว

“ผมถือว่า ถึงแม้ผมไม่ได้สังการ แต่ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ผมต้องขอโทษ ขออภัย แก่บรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่สูญเสีย และผู้ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนั้นด้วย เพราะจริงๆที่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ถือเป็นความผิดพลาดอย่างแรงของการลำเลียงผู้ต้องหาแบบนั้น” ทักษิณ กล่าว

ส่วนกรณีการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุที่เหลือเวลาอีก 2 ปีจะหมดอายุความและกรณีที่ขบวนการบีอาร์เอ็นแถลงเรียกร้องให้ดำเนินคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศเพราะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยระบุถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร, อดีตผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ในขณะนั้น

ทักษิณ ตอบว่า ไม่มีใครคิดล้างเผ่าพันธุ์ เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องการรักษาความสงบของบ้านเมือง แต่ความผิดพลาดคือการลำเลียงผู้ต้องหาไปในค่ายทหาร ซึ่งอันนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีบีอาร์เอ็นนั้นเป็นการพูดเอาโก้เอาหล่อ

ฐปณีย์ ถามว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะมีส่วนในการหาความยุติธรรมคืนให้ผู้สูญเสียได้อย่างไรหรือไม่ ทักษิณ ตอบว่า ต้องไปถามรองนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ในฐานะเป็นอดีต ผบ.ทบ.ตอนนั้นว่าท่านจะชดเชยอย่างไร เพราะตนไม่มีหน้าที่อะไรแล้ว

ทักษิณ ยังเล่าอีกว่า นายตำรวจมาเลเซียยังบอกกับตนด้วยว่า ตอนหลังมาเขาสืบจนรู้ว่า“ทหารเขาวางแผนจะล้มผมตั้งแต่วันนั้นแล้ว” ซึ่งเกิดขึ้นก่อนการรัฐประหารปี 2549 ประมาณ 2 ปี หลังจากนั้นก็มีม็อบพันธมิตรออกมา

ทักษิณ กล่าวด้วยสว่า ตอนหลังมา พอผมรู้ว่ามีคนตาย ผมโวยวายเยอะแยะ วันนั้นต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ทางใต้ เป็นเรื่องที่ต้องใช้การเมือง การพัฒนานำ ถ้ายังใช้ทหารนำแบบวันนี้ไม่มีประโยชน์

ตากใบต้องเป็นปีศาจให้เจ้าหน้าที่ยั้งคิด

ส่วนในกิจกรรมรำลึก 18 ปีโศกนาฏกรรมเหตุการณ์ตากใบที่ Patani Art spaces อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ระหว่างเสวนา อานัส พงษ์ประเสิรฐ จากกลุ่มเดอะลุกเกอร์ได้แจ้งว่า ทักษิณได้กล่าวคำขอโทษในกรณีตากใบ ทำให้ผู้เข้าร่วมฟังเสวนาบางส่วนถึงกับปรบมือ

สิทธิพงศ์ จันทรวิโรจน์ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม กล่าวในเวทีเสวนาว่า เนื่องจากคำสั่งไต่สวนการตายในคดีนี้ ศาลมีคำสั่งว่าผู้ตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ โดยไม่ได้ระบุชื่อผู้ที่ทำให้ตาย ทำให้พนักงานสอบสวนของ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานีซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุทำสำนวนส่งให้อัยการโดยระบุว่าไม่ทราบผู้กระทำ พนักงานอัยการจึงมีคำสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากไม่ทราบผู้กระทำ จึงเป็นการตัดอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินคดีอาญา แต่ยังมีทางญาติของผู้ตายหรือผู้เสียหายสามารถฟ้องดำเนินคดีอาญาได้อีก แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหารายชื่อผู้ที่กระทำให้ตายมาฟ้องได้

นายอานัส พงษ์ประเสิรฐ กล่าวว่า กรณีตากใบต้องสร้างความตระหนักให้เจ้าหน้าที่รัฐว่า การใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมของประชาชนแบบนี้ไม่ว่าที่ไหนก็ตามไม่สามารถทำได้ทุกกรณี กรณีตากใบเสนอให้จัดทำพิพิธภัณฑ์เหมือนเช่นกรณี 14 ตุลา ทำในแบบออนไลน์ก็ได้ เป็นกรณีศึกษา ส่วนการจัดงานรำลึกก็ต้องจัดทุกปีเพื่อเป็นการสะกิดเจ้าหน้าที่ให้ยั้งคิดว่าต้องไม่กระทำแบบนี้อีก

ส่วน อาลาดี เด็งนิ จากสมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ Civil Society Assembly For Peace – CAP กล่าวว่า กรณีตากใบการที่จะนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้นั้นสามารถลบความรู้สึกของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้หรือไม่ เพราะยังมีอีกหลายเหตุการณ์ในอดีตที่ยังค้าฃคาใจคนมลายูมุสลิม ดังนั้นต้องไม่ทำให้กรณีตากใบเป็นปีศาจหลอกตัวเองโดยการจัดงานรำลึกแล้วต้องมาเศร้าเสียใจทุกปี แต่ต้องให้เป็นปีศาจที่คอยหลอกหลอนเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ทำเช่นนี้อีก และต้องเป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าคนรุ่นต่อไปก็ต้องต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมต่อไป

ด้านประวิตรโยนกลับให้ไปถามทักษิณ

สำหรับปฏิกิริยาของ พล.อ.ประวิตร นั้น ไทยพีบีเอสรายงานว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีวันครบรอบ 18 ปีเหตุการณ์สลายการชุมนุม ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หลัง ทักษิณได้ระบุให้ถามข้อเท็จจริงกับ พล.อ.ประวิตร ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ว่า ให้ไปถามทักษิณ และเมื่อถามว่าในช่วงเวลาดังกล่าว พล.อ.ประวิตร เป็นผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามแต่เดินขึ้นรถและเดินทางกลับทันที

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท