Skip to main content
sharethis

กองทัพพม่าทิ้งระเบิดใส่งานคอนเสิร์ตในรัฐกะฉิ่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 70 คนและได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน-สั่งปิดกั้นถนนทำให้ผู้บาดเจ็บจำนวนมากไม่สามารถเดินทางไปรักษาพยาบาลได้

27 ต.ค. 2565 มีรายงานว่าหลังจากที่กองทัพพม่าได้ใช้เครื่องบินรบโจมตีใส่ฝูงชนที่คอนเสิร์ตในเมือง Hpakant รัฐกะฉิ่นจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 70 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 150 ราย ทางการพม่าก็ทำการปิดกั้นถนนลูกรังเข้าออกพื้นที่บริเวณที่จัดคอนเสิร์ต ทำให้ผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้

มีบุคคลที่ให้ข้อมูลต่อสื่อระบุว่าเขากำลังกังวลว่าจะไม่สามารถให้การรักษาพยาบาลกับผู้ได้รับบาดเจ็บ และเมื่อตอนที่พวกเขาไปถึงจุดตั้งด่านสกัดของกองทัพพม่าเพื่อขอความช่วยเหลือแต่กองทัพพม่าก็ไม่ให้พวกเขาผ่านไปได้

เหตุโจมตีจากกองทัพพม่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา มีการทิ้งระเบิดใส่คอนเสิร์ตซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบจัดตั้งองค์การเอกราชกะฉิ่น (KIO) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียกร้องให้มีความสามารถในการปกครองตนเองได้มากขึ้นในรัฐกะฉิ่น โดยที่ชาติพันธุ์คะฉิ่นนับเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของพม่า

Naw Bu โฆษกของ KIO กล่าวยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมาว่าอยู่ที่ 62 ราย แต่จำนวนตัวเลขอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ ถ้าหากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้รับการรักษาพยาบาล Naw Bu กล่าวอีกว่าการกระทำของกองทัพพม่าเป็น "การกระทำที่ไร้มนุษยธรรม" และบอกว่า "มันไม่นับเป็นการสู้รบ"

"เผด็จการทหารจงใจโจมตีพวกเราในตอนที่พวกเขาทุกคนกำลังเฉลิมฉลองกันอย่างสันติร่วมกันกับพลเรือนจำนวนมาก มันเป็นเรื่องขี้ขลาดตาขาวและไร้มนุษยธรรม และนับเป็นอาชญากรรมสงครามอย่างชัดเจน" Naw Bu กล่าว

เรดิโอฟรีเอเชียนะบุว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้นับเป็นการโจมตีทางการอากาศครั้งที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรัฐประหารในเดือน ก.พ. มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากเกิดการรัฐประหารขึ้น ได้ทำให้กองทัพพม่าสู้รบกับกลุ่มกบฏที่ต่อต้านพวกเขาหลายกลุ่ม

Naw Bu เปิดเผยอีกว่ามีการถึงขั้นปิดกั้นไม่ให้กลุ่มให้ความช่วยเหลือในท้องที่และกลุ่มคนทำงานบรรเทาทุกข์เข้าถึงเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้ เมื่อกลุ่มช่วยเหลือเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้พวกเขาก็ล้มเลิกความตั้งใจ ทำให้คนเจ็บไม่ได้รับการรักษา

กระทรวงต่างประเทศของพม่าแถลงอ้างสาเหตุที่ทำการทิ้งระเบิดว่า เป็นเพราะในพื้นที่ดังกล่าวมีฐานที่มั่นของกองกำลังอิสรภาพกะฉิ่น (KIA) อยู่ ไม่ได้เป็นพื้นที่จัดคอนเสิร์ต อีกทั้งยังระบุว่าการทิ้งระเบิดใส่ในครั้งนี้เป็นการโต้ตอบที่กลุ่มกบฏโจมตีกองกำลังฝ่ายความมั่นคง รวมถึงยังเรียกกลุ่มกบฏว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" และอ้างว่ากลุ่มกบฏกลุ่มนี้ "กุเรื่อง" ว่ามีพลเรือนและนักดนตรีอยู่ในพื้นที่ๆ มีการทิ้งระเบิด

แต่กลุ่มผู้อาศัยในพื้นที่บอกกับสื่อว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือนโดยส่วนใหญ่ มีสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ KIA เสียชีวิตเพียงเล็กน้อยจากเหตุการณ์นี้เท่านั้น

ในกรณีเรื่องของการปิดกั้นเส้นทางนั้น Win Ye Tunn รัฐมนตรีกระทรวงกิจการสังคมของรัฐกะฉิ่นฝ่ายเผด็จการทหารกล่าวว่า เขาไม่ได้รับรายงานว่ามีกองทัพปิดกั้นถนนที่นำไปสู่พื้นที่นั้น และบอกว่าพวกเขากำลัง "จัดการให้มีการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและให้ความช่วยเหลือด้านของใช้จำเป็นกับประชาชน" Win Ye Tun กล่าวอีกว่าเขาไม่รู้เรื่องการสู้รบอื่นๆ ที่เกิดขึ้น

กลุ่ม KIO บอกว่าการโจมตีของเผด็จการทหารเป็นการตั้งเป้าหมายสร้างความสูญเสียต่อชีวิตของพลเรือนให้ได้มากที่สุดในช่วงที่พวกเขากำลังเข้าร่วมคอนเสิร์ต กลุ่ม KIO บอกอีกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนสถานการณ์ที่น่าเศร้านี้ให้กลายเป็นพลังในการปฏิวัติและเร่งให้เกิดการต่อสู้กับเผด็จการทหาร

ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักดนตรีชาวกะฉิ่นรวมอยู่ด้วยหลายคน เช่น คนเล่นคีย์บอร์ด Zakhon Zau Mum ที่รู้จักกันในชื่อ Ko King เผด็จการทหารสกัดกั้นพื้นที่ทำให้ครอบครัวเขาไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพกลับไปที่บ้านเกิดเขาได้

ในวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานพม่าขององค์การสหประชาชาติแถลงว่าการโจมตีในครั้งนี้เป็น การใช้กำลังเกินกว่าเหตุและอย่างไม่ได้สัดส่วนจากฝ่ายกองกำลังความมั่นคงต่อพลเรือนที่ปราศจากอาวุธ

สถานทูตสหรัฐฯ, นอร์เวย์, สวิตเซอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป ต่างก็ออกแถลงการณ์ร่วมกันระบุว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่าเผด็จการทหารพม่าละเลยพันธกรณีในการคุ้มครองพลเรือนและเคารพในหลักการและกฎหมายมนุษยธรรมนานาชาติ

กระทรวงการต่างประเทศของพม่าโต้ตอบกลับแถลงการณ์ของนานาชาติ อ้างว่าเป็นแถลงการณ์ที่ฟังความข้างเดียวและบอกให้รัฐบาลต่างชาติกับยูเอ็น "สืบหาข้อเท็จจริงก่อนการออกแถลงการณ์"

อีเลน เพียร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์บอกว่าการโจมตีทางอากาศในครั้งนี้ถือเป็น "การละเมิดกฎหมายสงคราม ซึ่งห้ามไม่ให้มีการสร้างความเสียหายต่อพลเรือนอย่างไม่เลือกเป้าหมายและอย่างไม่ได้สัดส่วน"

เพียร์สันกล่าวอีกว่าสิ่งที่เผด็จการทหารพม่าทำนับเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม นอกจากนี้ยังตั้งคำถามต่อรัฐบาลทั่วโลกว่า "จะต้องรอให้มีจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตมากเท่าใด รัฐบาลทั่วโลกถึงจะมีมาตรการโต้ตอบที่จะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของเผด็จการทหารพม่า"

เพียร์สันเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสประชาชาติใช้มาตรการต่อเผด็จการทหารพม่าและยื่นเรื่องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ในพม่า นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้กลุ่มผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะมีการประชุมกันในเดือน พ.ย. นี้ที่แคนาดาให้ส่งสัญญาณสนับสนุนกระบวนการของสหประชาชาติในเรื่องเหล่านี้ด้วย จากที่อาเซียนเคยออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงต่อการยกระดับความรุนแรงในพม่ารวมถึงความรุนแรงต่อพลเรือนพม่ามาก่อน

สภาที่ปรึกษาพิเศษเพื่อประเด็นพม่าซึ่งเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระจากนานาชาติประณามการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้น โดยที่ Yanghee Lee อดีตผู้รายงานพิเศษของยูเอ็นซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสภาที่ปรึกษานี้บอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่อง "สะเทือนขวัญ"

Lee กล่าวว่าการที่เครื่องบินเจ็ตของเผด็จการทหารจงใจโจมตีคอนเสิร์ตช่วงเวลากลางคืนที่มีพลเรือนเข้าร่วมหลายร้อยคนโดยรู้ดีว่ามันจะทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตในระดับหายนะ การกระทำเช่นนี้นับเป็นอาชญากรรมสงคราม

มาร์ซูกี ดารุสมัน อดีตผู้แทนอิสระด้านการสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพม่าของสหประชาชาติ (UN Independent International Fact-Finding Mission on Myanmar) กล่าวว่าการโจมตีทางอากาศใส่ประชาชนนับเป็นการกระทำของเผด็จการทหารที่ขี้ขลาดตาขาวและไร้มนุษยธรรมอย่างถึงที่สุด และนับเป็นเรื่องน่าเศร้าที่การกระทำเช่นนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ผลาญภพ (scorched-earth) ของกองทัพเผด็จการพม่า ซึ่งเป็นกลยุทธ์แบบทำลายทุกอย่างที่จะเป็นประโยชน์กับฝ่ายตรงข้ามให้ราบโดยมีการนำมาใช้กับประชาชนในพม่ารวมถึงกับชาวกะฉิ่น ไม่ใช่แค่ในช่วงหลังรัฐประหารเท่านั้น แต่นำมาใช้เป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว


เรียบเรียงจาก
Myanmar junta seals off roads after hitting crowded concert with airstrike, Radio Free Asia, 25-10-2022

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net