นักกิจกรรมยื่นเรื่องถึง กสม. หลังถูกคุกคามทำร้าย ตัดสายคลัชต์รถจักรยานยนต์-ขู่ด้วยมีดและปืน ด้าน กสม. รับเรื่องพร้อมประสานตำรวจติดตามคดี ยันทุกคนควรได้รับความปลอดภัยและเสรีภาพในการแสดงออก

27 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศูนย์ราชการ แทนฤทัย แท่นรัตน์ และ เอีย เยาวชนอายุ 13 ปี 2 นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุกคาม ได้มายื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้ช่วยติดตามคดีที่ทั้งสองคนรู้สึกว่าถูกปองร้ายจากบุคคลไม่ทราบฝ่าย โดยมีนางปรีดา คงแป้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นผู้รับเรื่อง

โดยกรณีของแทนฤทัย นั้น คือถูกตัดสายคลัชต์รถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ หลังนำรถไปจอดในโรงเรียนสตรีวิทยาขณะไปรับประทานอาหารกับเพื่อน เมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค. แล้วพบเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนแนะนำให้เอารถไปจอดภายในโรงเรียนเพื่อความเรียบร้อย หลังจากรับประทานอาหารเสร็จได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับ แต่ไม่สามารถควบคุมรถได้ รถกระชาก ไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ ทำให้รถล้มได้รับบาดเจ็บ เมื่อตรวจสอบรถพบว่าสายคลัชต์มีรอยถูกกระชากและขาดเสียหายทั้งที่เพิ่งเปลี่ยนสายใหม่เมื่อวันที่ 17 ต.ค.

ส่วนกรณีของ เอีย เยาวชนอายุ 13 ปี เกิดขึ้นกลางดึกคืนเดียวกัน (21 ต.ค. 65) ขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์จอดติดไฟแดงที่แยกราชวิถี มีบุคคลไม่ทราบฝ่าย 6 คน ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์มาจากทาง สน.ดุสิต พยายามมองหน้า ตนจึงขับหนีไปทางหน้าพระตำหนักจิตรลดา เพราะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบประจำการอยู่ แต่ชายทั้ง 6 คนกลับเข้ามาทำร้าย ข่มขู่ด้วยมีดด้ามยาวและมีการเหน็บปืนให้เห็น ต่อยเข้าที่ใบหน้า ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จึงไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ดุสิต

นางปรีดา คงแป้น กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า จากการเข้ามาแจ้งเรื่องในวันนี้ทางกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะเข้าไปติดตามคดีทั้งเรื่องคดีอุบัติเหตุที่เชื่อว่าเกิดจากการคุกคามและคดีทำร้ายร่างกายเยาวชน ซึ่งได้รับเรื่องเอาไว้แล้ว และจะไปปรึกษาหารือกับคณะกรรมการฯ เพื่อหาแนวทางในการปกป้องคุ้มครอง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัย มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกในเรื่องต่างๆ

แทนฤทัย กล่าวว่า ปัจจุบันตนยังรู้สึกระแวง กลัวจะเกิดความรุนแรงต่อชีวิต เพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์มาไม่นาน อย่างน้องเยาวชนก็ถูกคุกคามด้วยอาวุธ ซึ่งตนรู้สึกว่ากระบวนการยุติธรรมเข้าถึงยากเพราะก่อนหน้านี้เคยไปแจ้งความร้องทุกข์แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่หัวเราะใส่ ไม่รับเรื่อง การมายื่นเรื่องวันนี้ต่อ กสม. จึงถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มองว่ามีความหวังที่จะทวงคืนสวัสดิภาพในชีวิต ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น