พิธา พรรคก้าวไกล หวัง ส.ว. เกินครึ่ง ร่วมโหวตประชามติพร้อมเลือกตั้ง เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เสนอ 3 เหตุผลสำคัญ ประหยัดงบประมาณ – ทำให้การร่างรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้เร็วที่สุด – ประเทศไทยมีโอกาสจะเปลี่ยนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

4 พ.ย. 2565 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวหลังที่ประชุมสภาฯ ลงมติในญัตติด่วนเรื่อง ขอให้สภาฯ พิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการตามที่สภามีมติในการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผลการลงคะแนนมีเสียงเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 323 ต่อ 0 งดออกเสียง 1 ไม่ออกเสียง 7 เสียง ให้สภาผู้แทนราษฎร ส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า 3 เหตุผลสำคัญที่จะต้องจัดประชามติพร้อมเลือกตั้ง

หนึ่ง ประหยัดงบประมาณในการจัดการ

สอง เป็นเรื่องของหลักการทำให้การร่างรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้เร็วที่สุด

สาม เป็นเรื่องการแสดงออกอย่างนัยย เพราะหากมีการจัดประชามติประเทศไทยมีโอกาสจะเปลี่ยนกฎหมายสูงสุดของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด

พิธา ระบุว่า ตนหวังว่า ส.ว. จะร่วมเห็นชอบกับแนวทางของพรรคก้าวไกล ด้วยการโหวตให้เกินครึ่งเพราะหากย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2563 สภาฯ เคยมีญัตติโหวตให้มี ส.ส.ร. จากนั้น เดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ส.ว. คว่ำญัตติดังกล่าว โดยหยิบยกเหตุผลว่าการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องจัดประชามติก่อน ดังนั้น ครั้งนี้ ส.ว. คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เห็นชอบกับพรรคก้าวไกล

ด้าน พริษฐ์ วัชรสินธุ ในฐานะผู้เสนอแคมเปญ #RESETประเทศไทย กล่าวว่า ในส่วนของภาคประชาชนแคมเปญ #RESETประเทศไทย ใช้การเข้าชื่อของประชาชนจำนวน 60,000 รายชื่อ โดยไม่ต้องอาศัยเสียงของ ส.ว. ซึ่งหากมีประชาชนร่วมเข้าชื่อครบตามจำนวนดังกล่าวก็สามารถส่งไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ทันทีโดยไม่ต้องหวังเสียงของ ส.ว. ดังนั้น เชื่อว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ ครม. ล้มมตินี้