Skip to main content
sharethis

แนวร่วมแห่งชาติของมาเลเซียเสนอระบบ "รายได้ขั้นพื้นฐาน" และสวัสดิการอีกหลายอย่างที่จะยกคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนชาวมาเลเซียในการหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ 

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมากลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ(บาริซาน นาซิอองแนล-บีเอ็น) ขั้วหนึ่งในพรรครัฐบาลของมาเลเซียปราศรัยหาเสียงด้วยข้อเสนอที่ทะเยอทะยานมากที่สุดของพวกเขา คือสัญญาว่าจะให้ชาวมาเลเซียทุกครัวเรือนได้รับรายได้ขั้นพื้นฐานต่อเดือนอย่างน้อย 2,208 ริงกิต (ราว 17,000 บาท) ต่อเดือน ถ้าหากบีเอ็นสามารถเอาชนะการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียครั้งที่ 15 ได้

คำสัญญาในเรื่องรายได้ขั้นพื้นฐานนี้เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่อยู่ในแถลงการณ์ปาดู (PADU) ที่สื่อถึงเรื่องแนวทางริเริ่มด้านการวางแผน, สวัสดิการ และความอุตสาหะ โดยที่แนวร่วมรัฐบาลของมาเลเซียได้เสนอให้มี "รายได้ขั้นพื้นฐานในเชิงช่วยเหลือ" ซึ่งทางรัฐบาลจะให้ทุกครัวเรือนที่มีรายได้น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำได้รับรายได้พื้นฐานนี้โดยอัตโนมัติ

ดาตุก เสรี อาห์หมัด ซาฮิด ฮามีดี ประธานของบีเอ็นกล่าวว่ามันจะเป็นรายได้ต่อเดือนแบบ "ทบเพิ่ม" จากรายได้เดิมที่มีอยู่ ซาฮิดบอกว่าแผนการนี้ "จะกลายเป็นหนทางที่เป็นธรรม, สมเหตุสมผล และเป็นไปตามหลักยุทธศาสตร์มากที่สุด ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยแก้ไขปัญหาภาระค่าครองชีพเท่านั้น แต่ยังจะทำให้ทุกครัวเรือนไม่ต้องถูกบีบให้อยู่ภายใต้เส้นความยากจนด้วย พูดอีกอย่างก็คือนับจากนี้ไป สภาพการณ์ของความยากจนสัมบูรณ์นั้นจะหลงเหลืออยู่แค่ในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย"

นอกจากเรื่องนี้แล้ว บีเอ็นยังได้เสนอในเรื่องอื่นๆ อย่างเช่นการลดภาษีเงินได้ร้อยละ 2 ให้กับคนที่มีรายได้อยู่ระหว่าง 50,000 ริงกิตต่อปี (ราว 393,000 บาทต่อปี) ถึง 100,000 ริงกิตต่อปี (ราว 786,000 บาทต่อปี) เพื่อเพิ่มกำลังซื้อและลดภาระทางการเงินให้กับคนกลุ่มนี้ นอกจากนี้ยังระบุว่าคนทำงานแม่บ้านที่กลับไปทำงานหลังจากพักจากงานจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เหลือร้อยละ 0 ในช่วง 5 ปีแรกที่กลับเข้าทำงานด้วย

ประเด็นการศึกษาเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่บีเอ็นเน้นย้ำในการหาเสียง บีเอ็นเสนอให้มีระบบการรับเลี้ยงเด็กอ่อนและการศึกษาก่อนเข้าโรงเรียนสำหรับเด็กอายุ 6 ปีลงไปเรียนฟรี ซาฮิดบอกว่าแผนการนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ที่ประชาชนต้องจ่ายให้กับการเลี้ยงเด็กอ่อนและการศึกษาวัยก่อนเข้าเรียน

นอกจากนี้ซาฮิดยังกล่าวให้สัญญาว่าจะนำเสนอระบบการศึกษาแบบไร้ตำราเรียนโดยจะให้เรียนผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทน บีเอ็นสัญญาว่าจะแจกแล็บท็อปแก่เด็กนักเรียนที่ยากจนฟรีและทำให้อินเทอร์เน็ต 5G ครอบคลุมถึงทุกโรงเรียนภายใน 18 เดือน และจะทำให้การศึกษาฟรีกับคนที่อายุไม่เกิน 40 ปี ในการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือบัณฑิตศึกษา อีกทั้งยังเสนอว่าจะจัดให้มีระบบการศึกษาแบบยึดหยุ่น โดยมีทั้งการศึกษารูปแบบในสถานศึกษา และการศึกษาออนไลน์หรือทางไกลซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย

อีกประเด็นหนึ่งที่ตัวแทนบีเอ็นพยายามจะชูเกี่ยวกับการศึกษาคือการส่งเสริมความปรองดองในหมู่ประชาชนและส่งเสริมความหลากหลาย รวมถึงทำให้มีค่านิยมการยอมรับกันและกัน โดยจะจัดให้มีการเรียนการสอนด้วยภาษาสื่อสารพื้นฐานเป็นภาษากลุ่มชาติพันธุ์หรือชนชาติต่างๆ ที่อาศัยในมาเลเซียนอกเหนือไปจากภาษามาเลย์และภาษาอังกฤษ เช่น ภาษาจีนแมนดารินและภาษาทมิฬ อีกทั้งยังเสนอให้มีการเรียนการสอนทักษะใหม่ในโรงเรียนอย่างการโปรแกรมมิ่งคอมพิวเตอร์และเรื่องความคิดสร้างสรรค์

ประเด็นนอกเหนือจากนี้คือการส่งเสริมความหลากหลายในการจ้างงานและในที่ทำงาน โดยให้สถานะพลเมืองแก่เด็กที่เกิดจากชาวต่างชาติที่แต่งงานกับผู้หญิงมาเลเซีย การลดปัญหาล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน การพยายามแก้ไขปัญหาโลกร้อนด้วยการส่งเสริมพลังงานสะอาด การวางเป้าหมายทำให้มาเลเซียมีพื้นที่ป่าร้อยละ 60 และยกเลิกการขออนุญาตนำเข้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น

ในการปราศรัยหาเสียงครั้งนี้ ซาฮิดกล่าวถึงนโยบายที่จะทำให้การบริหารงานทางการเมืองของมาเลเซียเกิดขึ้นในลักษณะที่มีความรับผิดชอบและมีความโปร่งใส โดยผ่านการออกกฎหมายการระดมทุนทางการเมือง และทำให้การแต่งตั้งคณะกรรมาธิการในตำแหน่งสำคัญต้องได้รับการตรวจสอบคัดกรองจากคณะกรรมการพิเศษของสภาด้วย

 

เรียบเรียงจาก

BN goes for broke with GE15 offer of RM2,208 household basic income, Malay Mail, 07-11-2022

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net